ชาวลำปางคึกคัก รับบัตรสวัสดิการรัฐแล้วกว่า 1.7 แสนคน วันแรกแห่ใช้สิทธิ์กันแน่นขนัดจนล้นร้านค้า เปรยอยากให้มีร้านเข้าร่วมโครงการเพิ่มขึ้น รองผู้ว่าฯเตือนร้านค้าอย่าหัวหมอ เปลี่ยนวงเงินซื้อสินค้าเป็นเงินสด ไม่เช่นนั้นจะถูกตัดสิทธิ์ และลงโทษทางกฎหมาย
เมื่อวันที่
1 ต.ค. 60 นายรณรงค์
เส็งเอี่ยม คลังเขต 5 เชียงใหม่ พร้อมด้วย น.ส.วาสนา สมมุติ คลังจังหวัดลำปาง
นายวัชระ ต่างใจ พาณิชย์จังหวัดลำปาง และทีมคณะผู้บริหาร พนักงาน
เจ้าหน้าที่หน่วยงานองค์กรของรัฐที่เกี่ยวข้อง ทั้งจากส่วนราชการ ธนาคารของรัฐ
ตลอดจนหน่วยงานรัฐวิสาหกิจประจำเขตพื้นที่จังหวัดลำปาง
ร่วมลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าสำรวจความพึงพอใจผลการดำเนินงานในนโยบายสำคัญของรัฐบาล
โครงการ “ประชารัฐสวัสดิการการให้ความช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
ปี 2560” ซึ่งรัฐบาลได้จัดทำโครงการขึ้น
เพื่อต้องการลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมในสังคม
ด้วยการให้การสนับสนุนช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี
สามารถเข้าถึงปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีพอย่างเหมาะสมและพอเพียง
โดยการดำเนินการตามนโนบายดังกล่าว
จังหวัดลำปางได้ทำการจัดขึ้นทะเบียนผู้มีรายได้น้อย
และได้ทำการแจกจ่ายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้แก่ผู้ที่ได้รับการพิจารณารับสิทธิ
พร้อมได้เปิดจุดให้บริการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพื่อช่วยเหลือในการลดค่าครองชีพแก่ประชาชนผู้มีสิทธิ
เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2560 เป็นต้นไป
ซึ่งมีบริษัทห้างร้านหลายแห่งในพื้นที่เข้าร่วมโครงการ
ทำการเปิดพื้นที่ให้ประชาชนผู้มีสิทธิสามารถนำบัตรสวัสดิการฯ
ออกมาใช้เพื่อชำระค่าบริการหรือซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นตามความต้องการ
โดยจากการลงพื้นที่ติดตามดูการดำเนินงานการให้บริการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของจังหวัดลำปาง
ในจุดให้บริการ 2 แห่ง คือ ที่บริเวณร้านค้า “เบตงมินิมาร์ท” ตำบลหัวเวียง และที่จุดจำหน่ายตั๋วรถโดยสารสาธารณะ บขส.
ภายในสถานีขนส่งผู้โดยสาร ตำบลสบตุ๋ย อำเภอเมืองลำปาง
พบว่าบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก
มีประชาชนผู้ที่ได้รับสิทธิจำนวนมากต่างได้นำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐออกมาใช้บริการตามสิทธิของตน
ที่ร้านเบตงมินิมาร์ท มีประชาชนจำนวนมากกว่า 100 คน
มารอเข้าแถวต่อคิวเพื่อใช้บัตรสวัสดิการรัฐชำระเงิน
จนแถวยาวเหยียดรอบบริเวณร้าน
รวมทั้งมีประชาชนเข้ามาเลือกซื้อสิ้นค้า
ภายในร้านอย่างต่อเนื่องจนล้นออกมานอกร้าน
ทำให้บรรยากาศคึกคักเป็นอย่างมาก โดยประชาชนส่วนใหญ่พอใจกับการได้ใช้สวัสดิการฯในครั้งนี้
เพราะสามารถลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนได้บ้างแม้จะไม่มาก
ซึ่งส่วนใหญ่ที่มาเลือกซื้อส้นค้าจะซื้อ น้ำมันพืช น้ำตาลทราย ผงสักฟอก
น้ำยาปรับผ้านุ่มและอื่นๆ ส่วนตามท้องที่ต่างอำเภอ
ทางร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการต่างคึกคักไม่แพ้กัน เช่นที่ร้านยูกิ มินิมาร์ท
ต.ท่าผา อ.เกาะคา ประชาชนได้เข้าคิวยาวเหยียบ
เพื่อใช้สิทธิ์บัตร ประชานต่างตื่นตัว
และอยากรู้ว่าจะได้อะไรในการใช้บัตรในครั้งนี้จึงมีการแห่แหนมาใช้บัตรฯจำนวนมาก
นายศรีโรจน์
นิมมานพัชรินทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า สำหรับจังหวัดลำปาง
ปัจจุบันภายในเขตพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ 100 ตำบล
มีประชาชนผู้ที่ได้รับสิทธิตามโครงการ “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ”
รวมจำนวนทั้งสิ้นกว่า 200,487 ราย ยอดผุ้มารับบัตรเพื่อใช้สิทธิ ณ วันที่ 4 ต.ค.60 จำนวน 175,178 ราย คิดเป็น 87.38% สำหรับประชาชนที่ลงทะเบียนไว้
และยังไม่ได้รับบัตร สามารถตรวจสอบสิทธิผ่านทางเว็บไซด์ www.epayment.go.th
และสามารถไปรับบัตรได้ ณ จุดที่ท่านลงทะเบียนไว้ ภายในระยะเวลา 1
ปี ซึ่งในขณะนี้มีประชาชนจำนวนมาก
เข้าไปแย่งจับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้าในร้านธงฟ้าประชารัฐที่ร่วมรายการ
โดยหลายคนอาจคิดว่าต้องใช้เดือนนี้ให้ครบตามวงเงิน
ซึ่งผู้ที่ไม่ได้ใช้จ่ายในเดือนตุลาคมนี้ ยอดจะถูกยกนำไปรวมกับเดือนพฤศจิกายน
รวมวงเงิน 2 เดือน เนื่องจากการติดตั้งเครื่อง EDC ยังไม่ครอบคลุมในอีกหลายพื้นที่ โดยในพื้นที่อำเภอสบปราบและอำเภอวังเหนือ
ขณะนี้กำลังเร่งติดตั้งเครื่อง EDC ให้แล้วเสร็จ
ในขณะนี้ร้านธงฟ้าประชารัฐบางร้าน
อาจฉวยโอกาสให้ผู้มีสิทธิเปลี่ยนวงเงินซื้อสินค้าเป็นเงินสด
การกระทำดังกล่าวไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของรัฐบาลที่ต้องการให้ความช่วยเหลือในการลดค่าครองชีพของประชาชน
ซึ่งตามเงื่อนไขการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐไม่สามารถแลกเป็นเงินสดได้ไม่ว่ากรณีใดๆ
หากผู้ใดกระทำผิดไปจากเงื่อนไขที่กำหนดจะถูกกระทรวงพาณิชย์ถอนออกจากทะเบียนร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ
และทางกรมบัญชีกลางจะดำเนินการเรียกคืนเครื่อง EDC จากเจ้าของร้านทันที
ส่วนผู้มีสิทธิที่ร่วมกระทำผิด จะถูกตัดสิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
และต้องคืนเงินให้แก่ทางราชการ รวมทั้งอาจมีโทษตามที่กฎหมายกำหนดด้วย และหากประชาชนพบเห็นร้านที่จำหน่ายสินค้าเกินราคา
และกระทำความผิดเกี่ยวกับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่
สำนักงานคลังจังหวัดและสำนักงานพาณิชย์จังหวัด หรือติดต่อแจ้งเข้ามาได้ที่ Call
Center บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หมายเลขโทรศัพท์ 0-2109-2345
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่1149 วันที่ 6 - 12 ตุลาคม 2560)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น