ใกล้ถึงวาระ “ผลัดใบ”
ของสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
องค์กรวิชาชีพสื่อหลักที่คนลานนาโพสต์เป็นสมาชิกอยู่
ก็หวลคิดถึงสมาคมนักข่าวทั้งหลาย ที่มีอยู่นับร้อยสมาคม มีความยอกย้อน
ซ่อนเงื่อนแตกต่างกันไป
“ม้าสีหมอก”
อยู่ในแวดวงสื่อระดับชาตินานปี รู้เห็นความเป็นไป และพอบอกได้ว่า
ในบรรดานับร้อยสมาคมนั้น มีอยู่ไม่เกิน 4 – 5 สมาคม
ทั้งในระดับชาติและระดับท้องถิ่น ที่มุ่งมั่นตั้งใจจะรวมตัวกัน เพื่อช่วยเหลือ
ให้หลักประกัน และยืนยันศักดิ์ศรีของคนข่าว
อีกที่เหลือจำนวนไม่น้อย
เป็นสมาคมเพื่อตั้งโต๊ะสนุ๊ก สมาคมสรวลเสเฮฮา สมาคมประดับบารมี สมาคมแอบแฝงหาผลประโยชน์
จึงไม่น่าแปลกที่นอกจาก 4 – 5 สมาคม ที่กล่าวถึงนั้น
คนที่เข้าไปเป็นนายก เป็นกรรมการ ต่างเสนอตัว
และพยายามตะเกียกตะกายเพื่อเข้าไปสู่ตำแหน่งนั้นเกือบทั้งสิ้น
ไม่เพียงเท่านั้น
คนข่าวในต่างจังหวัดบางคน ตั้งสมาคมและสถาปนาตัวเองเป็นนายก
และจากตำแหน่งนายกสมาคมจังหวัด
ก็ถีบตัวเองเพื่อเข้าไปนั่งใบ้ในองค์กรวิชาชีพระดับชาติ
เพื่อหาช่องทางไต่บันไดไปสู่บทบาทหน้าที่อื่นๆ ซึ่งมีหน้ามีตา
และอาจมีช่องทางเข้าถึงผลประโยชน์ได้ด้วย
ปรากฏการณ์เช่นนั้น
มีนัยสำคัญที่แตกต่างจากองค์กรวิชาชีพ หรือสมาคมวิชาชีพหลัก เช่น
สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ที่แตกตัวมาจากสมาคมหนังสือพิมพ์
และมารวมตัวกับสมาคมนักหนังสือพิมพ์ กลายเป็นสมาคมนักข่าว
นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
เพราะสมาคมในระดับชาติ
น้อยนักที่จะมีผู้เสนอตัว หรือแสดงความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะเข้าไปมีบทบาท
การเลือกผู้นำองค์กรจึงใช้ระบบคุณธรรม
คือดูประวัติการทำงานให้องค์กรวิชาชีพที่ผ่านมา ซึ่งหลายคนทำงานเป็นสิบๆปี
กว่าจะได้การยอมรับให้เป็นผู้นำ
เมื่อมีความเห็นพ้องต้องกันแล้วว่า
เป็นคนที่มีองค์ประกอบเช่นนั้นครบถ้วน และมีความเสียสละที่จะทำงานเพื่อส่วนรวมอย่างแท้จริง
มิใช่แค่อยากได้ตำแหน่งเพื่อไปต่อยอดในเรื่องอื่นๆ เขาก็จะไปทาบทาม ถามความสมัครใจ
เชิญชวนให้เข้ามา
ดูละครแล้วย้อนดูตัว
พูดถึงสมาคมวิชาชีพระดับชาติแล้ว ก็ต้องพูดถึงสมาคมผู้สื่อข่าวนครลำปาง
เริ่มจากชมรม จนถึงสมาคมต้องเรียกว่ามีประวัติศาสตร์อันยาวนาน
แต่เส้นทางยาวนานนั้น ก็อาจต้องมีบางบทบันทึกเขียนว่า การมีอยู่ของสมาคมนี้
จำเป็นต่อโลก จำเป็นต่อลำปางหรือไม่
สมาคมได้ส่งเสริมบทบาทของสมาชิกในเชิงวิชาการ
ยกระดับคุณภาพการทำงาน หรือใส่ใจที่จะมีกิจกรรมอันมีสาระ
มากกว่าการจัดงานเลี้ยงฉลอง แล้วเลิกรากันไปในแต่ละปีหรือไม่
และหากสมาคม
ต้องการแสดงบทบาทเป็น อ.ย.ประทับความน่าเชื่อถือให้กับสื่อลำปาง
สมาคมจะคงบทบาทลมโชย อย่างนี้ต่อไปได้หรือไม่ และภาพของผู้นำองค์กรมีความโดดเด่นเป็นที่ยอมรับของคนข่าวลำปางทั้งในเชิงคุณธรรม
และทักษะในการทำงานหรือไม่
ไร้สาระที่เราจะพูดถึงคำว่า
“ฐานันดรสี่” ซึ่งเป็นเรื่องประชดประเทียดกันในรัฐสภาอังกฤษ
และเราก็จำกันมาผิดๆ ว่า คนหนังสือพิมพ์มีฐานะเสมอฐานันดรที่ 1 สภาขุนนาง
ฐานันดรที่ 2 บรรพชิต พระราชาคณะ ฐานันดรที่ 3 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทำให้เกิดหลงผิดในตัวเองว่า เป็น “อภิสิทธิ์ชน”
ทั้งที่คนข่าวก็คือคนธรรมดาๆนี่เอง
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1165 วันที่ 2 - 8 กุมภาพันธ์ 2561)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น