ลำปางไฟป่ารุนแรง
ช่วง 60 วันห้ามเผาเสียหายแล้ว 11,930 ไร่ อ.เถินเกิดไฟป่ามากสุด 73 ครั้ง
ล่าสุดดอยพระบาทไฟไหม้ลามหนัก ยิ่งดับยิ่งติด
ส่งผลให้หมอกควันพุ่งอีกครั้ง
เจ้าหน้าที่เร่งทำงานตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งขึ้นเขาลงห้วยดับไฟป่า และฉีดน้ำบรรเทาฝุ่นละอองในอากาศ
การเกิดไฟป่าในพื้นที่
จ.ลำปาง ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ
ส่งผลให้ค่าฝุ่นละออกขนาดเล็กกว่า 10
ไมครอนเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง ซึ่งในวันที่ 21 มี.ค.61 ที่สถานีอุตุนิยมวิทยา ต.พระบาท อ.เมืองลำปาง วัดค่าได้ 147 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ถือว่ามีผลกระทบต่อสุขภาพ
สาเหตุเกิดจากการเผาป่าอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะบริเวณดอยพระบาทที่เกิดไฟป่าขยายเป็นวงกว้างไปในพื้นที่หลายตำบล เขต
อ.เมืองลำปาง
แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะเข้าไปดับไฟตามจุดต่างๆ แต่ก็ต้องทำด้วยความลำบาก นอกจากนั้นยังพบสัตว์ป่าหนีตายกันออกมาจากป่าลึกด้วย
เมื่อวันที่
20 มี.ค.61 ที่บริเวณพื้นที่ป่า หลังดอยกิ่วไร่ เขตติดต่อระหว่าง ต.บ้านเสด็จ
อ.เมืองลำปาง และ ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ได้เกิดไฟป่าขึ้นหลายจุด
ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังเดินเท้าเข้าดับไฟป่า ไม่ว่าจะเป็น
เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ลป.13 (ท่าสี) กำลังทหาร มณฑลทหารบกที่ 32
ค่ายสุรศักดิ์มนตรี กำลังเจ้าหน้าที่สวนป่าแม่เมาะ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้
จิตอาสาดับไฟป่าในพื้นที่ ได้กระจายกำลังเข้าไปดับไฟป่าที่เกิดขึ้น
กินพื้นที่หลายร้อยไร่ระยะทางหลายกิโลเมตร การเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุค่อนข้างลำบาก
เพราะสภาพพื้นที่เป็นเขาสูงสลับกับมีลำห้วยขวางกั้นทำให้เจ้าหน้าที่ต้องไต่เข่าข้ามลำห้วยปีนป่ายเนินสูง
เพื่อที่จะเข้าไปดับไฟป่าที่เกิดขึ้นในพื้นที่
โดยเมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ต่างระดมกำลังเข้าสกัดไฟที่ลุกไหม้ตลอดทั้งแนว
พร้อมกันนี้ได้สร้างแนวกันไฟไปตลอดเส้นทาง เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ป่าลุกลามออกไปอีก
เบื้องต้นพบว่าพื้นป่าเสียหายไปหลายร้อยไร่ แม้จะมีการระดมกำลังเข้าสกัดแต่สภาพพื้นที่เป็นอุปกสรรคในการทำงาน
ทางเจ้าหน้าที่ที่เข้าพื้นที่ดับไฟป่า
เล่าว่า ไฟไหม้ป่าแห่งนี้มาหลายครั้งแต่ละครั้งก็สามารถดับได้สำเร็จใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมง
แต่คราวนี้ลุกลามขยายวงกว้าง เพราะสภาพการเกิดเหตุเหมือนมีการจงใจเผาป่า
ของคนไม่หวังดี คือเมื่อเจ้าหน้าที่ดับได้จุดหนึ่ง อีกไม่นานก็เกิดอีกจุดและสลับกันไป โดยเฉพาะเกิดมาจากในป่าลึกที่เป็นป่าค่อนข้างอุดมสมบูรณ์
นอกจากนั้นพบว่าไฟได้ลามมาจากป่าด้านบน
ทำให้สัตว์ป่า หนีตายจากไฟป่าออกมาหลายชนิดแล้ว เช่น หมูป่า ขนาดใหญ่ 2 ตัว
ที่หนีไฟป่าออกมา พบเจอกันกับเจ้าหน้าที่ดับไฟป่า
ต่างตกใจวิ่งหนีกันไปคนละทิศละทางโชคดีที่หมูป่าไมได้ทำร้าย และยังพบสุนัขได้คาบลูกไก่ป่า
ในสภาพถูกไฟไหม้มาเล่น ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ต้องเร่งสกัดไฟป่าให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้ทั้งคน
สัตว์ และผืนป่าได้รับผลกระทบไปมากกว่านี้
ขณะที่สถานการณ์ไฟไหม้ป่าดอยห้วยหลวงที่อยู่อีกฝั่งของดอยกิ่วไร่
และอยู่ในเขตพื้นที่ ต.บ้านเสด็จ อ.เมืองลำปาง พบว่า ไฟไหม้ป่าเป็นแนวยาวทั่วภูเขาหลายกิโลเมตร
หากไม่สามารถดับได้ก็จะไหม้ลามไปยัง ผืนป่าม่อนพระยาแช่ที่อยู่ในแนวเดียวกัน
ส่วนที่ดอยพระบาทกลับมีไฟไหม้ขึ้นมาอีก
เจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าพื้นที่สงวนชีวมณฑลห้วยทาก สถานีควบคุมไฟป่าถ้ำผาไทด้านทิศตะวันตก
สถานีควบคุมไฟป่าแจ้ซ้อน สถานีควบคุมไฟป่าพระบาท-ม่อนพระยาแช่
อุทยานแห่งชาติเขลางค์บรรพต สวนรุกขชาติพระบาท
ประชาชนเครือข่ายป้องกันไฟป่าบ้านบุญเกิด
บ้านโทกหัวช้าง บ้านหัวทุ่งสามัคคี บ้านกล้วยแพะ บ้านหัวฝาย บ้านแม่ทะ กว่า
100 คน ได้เข้าดำเนินการควบคุมไฟ บริเวณดอยพระบาท
โดยแยกกำลังเดินเข้าหาจุดเกิดไฟไหม้สองฝากฝั่งดอยพระบาททั้งทางทิศตะวันตกและทิศตะวันออก
เพื่อดับไฟที่ลุกไหม้ และทำแนวกันไฟไม่ให้ลุกลามขยายวงกว้างออกไป
ทั้งนี้ชุดปฏิบัติการได้ควบคุมไฟลงมาถึงด้านล่าง
มีเพียงบางจุดที่เป็นเหวหรือพื้นที่สูงชันทางเจ้าหน้าที่ได้ทำแนวกันไฟไว้โดยรอบเสร็จสิ้นเวลาประมาณ
03.30 น.ของวันที่ 21 มี.ค.61 ก่อนที่จะถอนกำลัง
เนื่องจากสภาพร่างกายที่เหนื่อยล้า
ซึ่งบางจุดที่ไม่สามารถดับได้ก็ต้องทำแนวกันไฟแทน
ต่อมาเมื่อเวลา
14.30 น.วันที่ 22 มี.ค.61 ยังคงเกิดไฟไหม้ป่าดอยพระบาทอย่างต่อเนื่อง
จากการใช้โดรนถ่ายภาพทางอากาศ แสดงให้เห็นว่าเกิดไฟลุกไหม้เป็นแนวทางยาวหลายกิโลเมตร
ตั้งแต่ป่าหลังวัดพระธาตุดอยม่วงคำ ต.กล้วยแพะ อ.เมือง จ.ลำปาง ซึ่งเป็นแนวเขตสันเขาดอยพระบาทที่ทอดเป็นทางยาวหลายสิบกิโลเมตร
นอกจากนี้แล้วยังสามารถมองเห็นไฟลุกลามไปป่าของชุมชนหัวฝาย ต.กล้วยแพะ
ชุมชนหัวทุ่งสามัคคี ชุมชนโทกหัวช้าง ต.พระบาท อ.เมืองลำปาง และทางฝั่งบ้านแม่ทะ
หมู่ 1 ต.แม่ทะ อ.แม่ทะ เห็นกลุ่มควันไฟ และไฟลุกไหม้ป่าในภูเขาได้อย่างชัดเจน
แม้ว่าทางภาคพื้นดินทาง เจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน จิตอาสาดับไฟป่า จะเดินเท้าเข้าไปสกัดไฟที่ลุกไหม้และทำแนวกันไฟมาหลายต่อหลายครั้งในห้วงสัปดาห์นี้
แต่สถานการณ์ไฟไหม้ ก็ยังเพิ่มพื้นที่ขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ
โดยเฉพาะในหลายๆพื้นที่โดยรอบดอยพระบาท พบว่าที่ผ่านมาไม่เคยเกิดไฟไหม้ป่า
แต่ในปีนี้กลับมาเกิดขึ้นหลายครั้งและรุนแรงมากขึ้น ซึ่งการควบคุมไฟไหม้ป่าครั้งนี้ได้มีการระดมเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานรวมทั้งจิตอาสา
ชาวบ้านในพื้นที่เข้าไปดับไฟและทำแนวกันไฟไว้แล้ว
แต่คาดว่าจะยังไม่สามารถดับไฟไหม้ป่าให้ได้ทั้งหมดคงต้องใช้ระยะเวลาอีกหลายวันกว่าจะสามารถควบคุมพื้นที่ได้
ขณะที่การรับแจ้งเหตุไฟไหม้ป่าในวันที่
22 มี.ค. 61 ทั่วทั้งจังหวัด ได้รับแจ้ง 30 ครั้ง พื้นที่ป่าเสียหายก 564 ไร่
ส่วนยอดการแจ้งเหตุไฟไหม้ป่าสะสมในช่วง 60 วันอันตราย ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ.61 ถึง 22 ก.พ. 61 รวม 41 วัน ได้รับแจ้งเหตุไฟไหม้ป่ารวม 577 ครั้ง พื้นที่ป่าได้รับความเสีย 11,930 ไร่ 1 งาน 349 ตารางวา
พื้นที่เสียหายริมทาง 1 กิโลเมตร 420 เมตร
โดยพบการเกิดจุดฮอตสปอตสูงสุดที่ อ.เถิน
รองลงมาคือ อ.แจ้ห่ม อ.เมือง อ.แม่พริก อ.เสริมงาม เป็นต้น
ล่าสุดในพื้นที่
อ.แจ้ห่ม จับกุมตัวผู้ฝ่าฝืนจุดไฟเผาในช่วง 60 วันห้ามเผาได้ 1 ราย คือ นายดงเย็น มีภู อายุ 59 ปี ราษฎร หมู่ 2 ต.ปงดอน อ.แจ้ห่ม พร้อมไฟแช็ก 1 อัน
เนื่องจากได้เผาขยะบริเวณหน้าบ้านเกิดควันไฟคละคลุ้งส่งกลิ่นเหม็นสร้างความรำคาญไปทั่ว เจ้าหน้าที่จึงแจ้งให้นายดงเย็นทราบว่า ทางจังหวัดได้มีการประกาศห้ามเผาในช่วงนี้เอาไว้แล้ว
จึงต้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1172 วันที่ 23 - 29 มีนาคม 2561)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น