หนุ่มใหญ่สร้างบ้านไม้สักหลังใหญ่ด้วยงบ
7 แสนกว่าบาท แต่กลับใช้ไม้ไม่ถูกกฎหมายซุกซ่อนภายในบ้าน พลเมืองดีร้องเรียนเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ
ขณะที่หลังบ้านพื้นที่ใกล้เคียงกันพบไม้สัก ไม้ประดู่ท่อนอีกว่า 150 ท่อน
เตรียมกำลังจะแปรรูปไม่รอด เจ้าหน้าที่ตรวจยึดทั้งหมด ดำเนินคดีตามกฎหมายทันที
เมื่อวันที่
13 มี.ค. 61 นายสักรินทร์ ปัญญาใจ ผู้อำนวยการส่วนป้องกันและปราบปรามภาคเหนือ
กรมป่าไม้ นายเจษฎา เอนกคณา หัวหน้าสายตรวจ ส่วนป้องกันและปราบปรามภาคเหนือ
กรมป่าไม้ นายดนุศักดิ์ หมื่นโฮ้ง หัวหน้า สายตรวจป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรป่าไม้ที่
3 ลำปาง โดยการอำนวยการของนายชูเกียรติ พงศ์ศิริวรรณ ผอ.สำนักจัดการป่าไม้ที่ 3
ลำปาง ได้สนธิกำลัง เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปทส. ตำรวจ
ศปทส.นปพ.ภ.จว.ลำปาง ตำรวจ ศปทส.ภ.5 ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 33 เชียงใหม่
กำลังทหารมณฑลทหารบกที่ 32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรีชุด
ชป.ข่าวประจำที่ว่าการอำเภอแม่ทะข้าตรวจสอบ บริเวณบ้านไม้สักสองชั้น
ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างไปได้แล้วประมาณ 30 % บริเวณภายในพื้นที่บ้านเลขที่ 147
หมู่ 4 บ้านห้วยมะเกลือ ตำบลหัวเสือ อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง ซึ่งเป็นบ้านของนายศรีรัก
ไชยป้อม อายุ 50 ปี เนื่องจากได้รับร้องเรียนว่ามีการซุกซ่อนไม้เถื่อนไว้จำนวนมาก
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า
มีการซุกซ่อนไม้ไว้บนมากจำนวนมากหลายร้อยแผ่นไม้
ส่วนใหญ่ได้มาอย่างไม่ถูกต้องและเป็นไม้ผิดกฎหมาย ทางนายศรีรัก ไชยป้อม เจ้าของบ้าน
ได้นำหลักฐานในการซื้อไม้ที่ขนย้ายมาจากจังหวัดแพร่ มาแสดงและตรวจสอบพบว่า
ได้มาอย่างถูกต้องตามกฎหมายเพียงแค่ 285 แผ่น ส่วนที่เหลืออีกกว่า 362 แผ่นเหลี่ยมที่ซุกซ่อนภายในบ้านและบนบ้านชั้นที่สองที่กำลังก่อสร้าง
ได้มาอย่างไม่ถูกต้องและไม่มีเอกสารใดๆมากำกับแสดงที่มาที่ไปของไม้ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดและควบคุมตัวไปดำเนินคดีทางกฎหมายทันที
ขณะที่เจ้าของบ้าน
อ้างว่า บ้านหลังนี้ต้องการจะสร้างไว้อยู่อาศัย
โดยวางงบประมาณในการก่อสร้างทั้งหมดไปแล้วกว่า 7 แสนบาท
โดยได้รับซื้อไม้มาจากหัวไร่ปลายนาชาวบ้านแล้วมาต่อเติมสร้างทีละน้อยมาเป็นเวลากว่า
2 เดือนแล้ว จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบและตรวจยึดจับกุม
ด้านการเข้าตรวจค้นในครั้งนี้ทาง
ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ได้รับการประสานแจ้งจาก ศูนย์ดำรงธรรม จังหวัดลำปาง
ว่ามีพลเมืองดีแจ้งมาว่าที่บ้านหลังดังกล่าวได้มีการเคลื่อนย้ายไม้สักท่อนและแปรรูปเข้าออกบ้าน
หลายครั้งอาจมีสิ่งของผิดกฎหมายซุกซ่อน จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ป่าไม้
และส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบและพบลการกระทำผิดจริงจึงตรวจยึดดำเนินคดีทันที
แต่ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดอยู่นั้น เจ้าหน้าที่สังเกตเห็น
ร่องรอยการปรับไถเพื่อเป็นถนนออกไปจากหลังบ้านที่เกิดเหตุเข้าป่าละเมาะไปเป็นทางยาวและมีเปลือกไม้เป็นทาง
เจ้าหน้าที่จึงตามร่องรอยไปได้ประมาณ 100 เมตร เจ้าหน้าที่ต้องตะลึงเพราะพบไม้สักท่อน
ประดู่ท่อน กองใหญ่มากว่า 150
ท่อนกองเรียงรายกันอยู่และมีการเตรียมตั้งแท่นเลื่อยไว้แล้ว
แต่คาดว่าคนงานที่แปรรูปไม้เห็นเจ้าหน้าที่ก่อนจึงได้ถอดเครื่องยนต์และใบเลื่อย
หลบหนีออกไป ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะไปพบ เบื้องต้นจึงอายัดตรวจยึดไม้ท่อนทั้งหมดทันที
พร้อมประสานผู้ใหญ่บ้านมาให้ปากคำว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นของลูกบ้านคนไหน
เพื่อที่จะได้เรียกตัวมาสอบสวนต่อไป
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1171 วันที่ 16 - 22 มีนาคม 2561)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น