ในมูลค่างานระดับ 5 แสนล้านบาททั้งประเทศนั้น อิตาเลียนไทย ของนายเปรมชัย กรรณสูต ยังเป็นเจ้าของโครงการก่อสร้าง โรงไฟฟ้าใหม่แม่เมาะ มูลค่า 35,000 ล้านบาท พื้นที่ที่ใกล้ชิดอย่างยิ่งกับคนลำปาง แทบจะเรียกว่าโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐที่เรารู้เห็นกัน ล้วนอยู่ในมือของเปรมชัย อิตาเลียนไทยทั้งสิ้น
จึงไม่แปลก
ด้วยสายสัมพันธ์ทางธุรกิจอย่างลึกซึ้ง ต่อเนื่องยาวนานกับรัฐ
และความร่ำรวยอย่างมหาศาลของเขา จะทำให้มีความเป็นห่วงกันว่า นายเปรมชัย กรรณสูต
จะพ้นผิด หรือได้รับโทษสถานเบา คล้ายเงินจะง้างเหล็กให้อ่อนได้
ซึ่งมีตัวอย่างให้เห็นดาษดื่นในสังคมไทย แต่น่าจะไม่ใช่คดีนี้
ใน 9 ข้อหาที่นายเปรมชัย
ถูกแจ้งความดำเนินคดีนั้น ข้อหาร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า
และร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง เป็นข้อหาหลัก ที่คาดกันว่า นายเปรมชัย จะต่อสู้ว่า
เขาเข้าไปพักผ่อนในป่า ไม่ได้มีการล่าหรือร่วมกันล่าสัตว์ป่าตามข้อกล่าวหา
นักข่าวถามนายเปรมชัย
เมื่อเริ่มต้นคดีใหม่ๆว่า มาทุ่งใหญ่บ่อยไหม
นายเปรมชัย ตอบว่า มาเป็นครั้งที่ 2 ในชีวิต ครั้งแรก 30
กว่าปีที่แล้ว มาทำเขื่อนเขาแหลม ส่วนครั้งนี้มาท่องเที่ยวพักผ่อน
“จะแก่ตายอยู่แล้ว ขอมาสักเที่ยว”
เขาบอก
ขณะที่เพจ
“แหม่มโพธิ์ดำ” เปิดภาพนายเปรมชัยในป่ากับ1 ใน 4 ผู้ต้องหา
ที่มีการบันทึกไว้เมื่อปี 2559 สองปีก่อนหน้านี้
โดยปรากฏข้อความเป็นคำถามว่า “หนุกไหมพี่” “เข้าไปทำอะไร” แล้วก็มีคำตอบว่า
“ไปเที่ยวล่าสัตว์”
ผลตรวจพิสูจน์อาหารในหม้อหุงต้มอาหาร
และวัตถุพยานรอบพื้นที่ตั้งแคมป์ของคณะล่าสัตว์ จากผู้เชี่ยวชาญ เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สรุปให้พนักงานสอบสวน
4 รายการ ประกอบด้วย
1.ชิ้นเนื้อที่พบในหม้อซุป
กระดูกท่อนขา จำนวน 2
ชิ้น ลำไส้ และเส้นขน โดยพบว่าผลตรวจสอบเป็น เสือดำเพศเมีย
และอวัยวะดังกล่าวเป็นของเสือดำตัวเดียวกัน
2.ชิ้นเนื้อที่อ้างว่าเป็นเก้ง
ผลการตรวจพบว่าเป็น หมูป่า ซึ่งซากสัตว์ป่าที่พบในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่านั้น ถือเป็นสัตว์ป่าในพื้นที่อนุรักษ์
การมีไว้ถือว่าผิดกฎหมายชัดเจน ไม่มีสิทธิ์โต้แย้ง
3.ชิ้นเนื้อที่อ้างว่าเป็นไก่ฟ้าหลังเทา
ผลการตรวจพบว่าเป็น ไก่ฟ้าหลังขาว ตามกฎหมายถือเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองและห้ามล่าห้ามค้า
จึงถือเป็นความผิดตามกฎหมาย
4.อุจจาระที่พบ ผลการตรวจพบว่าเป็นอุจจาระของมนุษย์
แต่ไม่พบดีเอ็นเอของเสือดำ
และ
5.วัตถุพยาน เช่น มีดอีโต้ มีดทำครัว มีดเหน็บ และเขียงพลาสติก
ผลการตรวจพบว่า บางชิ้น มีดีเอ็นเอของเสือดำ ตัวเดียวกัน
ผลการตรวจพิสูจน์ปืนลูกซอง
ของกลางที่ใช้ยิงเสือดำ พบหนึ่งกระบอก มีดีเอ็นเอของนายเปรมชัย
หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ทั้งหมดนี้เพียงพอที่จะเอาผิดนายเปรมชัยได้
ประกอบกับพฤติกรรมของนายเปรมชัยที่นิยมเข้าป่าไปล่าสัตว์
ข้อต่อสู้ว่าไปพักผ่อนในป่า ในจุดที่ใกล้เคียงกับห้วยปะชี
ซึ่งเสือดำมักลงมากินน้ำนั้น ฟังดูไม่สมเหตุผล และคนโดยทั่วไปหากจะพักผ่อน
คงไม่ไปพักผ่อนในป่า พร้อมอาวุธปืน เครื่องครัว ชนิดที่ต้องไปหาของกินเอาข้างหน้าแน่นอน
อย่าไปหลงประเด็นเรื่อง
การถอนข้อหาทารุณกรรมสัตว์ ซึ่งเป็นความผิดเล็กน้อย
และอย่าไปใส่ใจเรื่องภาพตัดบางส่วนที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล
รองผบ.ตร.รับไหว้ผู้ต้องหา รวมทั้งไม่ควรต้องตั้งคำถามว่า
เหตุใดจึงสอบสวนเฉพาะเจ้าหน้าที่ ไม่สอบสวนทางด้านผู้ต้องหาบ้าง
เพราะผู้ต้องหาใช้สิทธิปฎิเสธชั้นพนักงานสอบสวน
จึงไม่มีเหตุต้องสอบสวน
ไม่จำเป็นว่าคนรวย
หรือคนจน แต่การจับกุมนายเปรมชัย กับพวก ในความผิดซึ่งหน้า ณ สถานที่เกิดเหตุ
พร้อมยึดของกลางวัตถุพยาน อาวุธปืน อีกทั้งผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้
คำถามเหลืออยู่แต่ว่า
นายเปรมชัย กรรณสูต จะติดคุกกี่ปี หรือจะสารภาพเสียก่อน เวลาใดเท่านั้น
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น