วันศุกร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2561

เราจะอยู่กันอย่างนี้จริง ๆ หรือ

จำนวนผู้เข้าชม Counter for tumblr

วันนี้ วันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2561 ใครจะขึ้นเครื่องไปกรุงเทพฯ ณ สนามบินลำปางคงต้องนั่งรถไปขึ้นเครื่องที่สนามบินเชียงใหม่ เพราะสภาพอากาศขมุกขมัวจนไม่สามารถทำการบินได้

นับวันปัญหามลพิษทางอากาศยิ่งหนักหน่วง หมอกควันบ้านเรานั้น  ไม่เพียงบดบังทัศนะวิสัย แต่ยังปกคลุมจิตสำนึกของคนต้นเหตุจนมืดมัว ขณะที่อีกด้านหนึ่ง สถานการณ์นี้ได้เผยให้เห็นความเสียสละอันยิ่งใหญ่เจ้าหน้าที่และจิตอาสา ผู้ขะมักเขม้นบุกป่าฝ่าดงเข้าไปดับไฟป่าด้วยหัวใจที่น่ายกย่อง โดยเฉพาะกลุ่มมะค่าหลวงและเครือข่ายของพวกเขา ซึ่งทำงานนี้มาอย่างยาวนานสม่ำเสมอ และอย่างเงียบ ๆ กระทั่งปีนี้ที่สถานการณ์หมอกควันรุนแรงจนผู้นำกลุ่มต้องออกมาเรียกร้องให้คนลำปางทุกคนช่วยกันเป็นหูเป็นตา ลงมือทำอะไรสักอย่างดีกว่าเอาแต่พร่ำบ่น

มีภาพเผยแพร่ออกมาเป็นภาพเปรียบเทียบจุดความร้อนจากดาวเทียมที่รายงานโดย NASA ภาพหนึ่งใช้ระบบ MODIS พบจุดความร้อนในจังหวัดเชียงใหม่เพียง 3 จุด ขณะที่อีกภาพหนึ่งใช้ระบบ VIIRs แต่พบจุดความร้อนมากถึง 618 จุด ซึ่งเราจะเห็นว่า  ความต่างของ 2 ระบบนี้สูงมาก

การนับจุดความร้อนของภาครัฐเราใช้ภาพดาวเทียมจากระบบที่เรียกว่า MODIS เป็นตัวชี้วัดของแต่ละจังหวัดในการจัดการปัญหาหมอกควันและไฟป่า ซึ่งอาจจะได้ข้อมูลในการตัดสินใจเชิงนโยบายไม่เพียงพอ เพราะปัจจุบันเชื่อไหมว่า ชาวบ้านบางแห่งรู้แม้กระทั่งช่วงเวลาที่ดาวเทียมผ่านโซนประเทศไทย จึงสามารถหลบเลี่ยงที่จะเผาในช่วงนั้น แล้วไปเผาช่วงเวลาอื่นแทน (นี่ขั้นเทพขนาดนั้นจริง ๆ หรือ) ดังนั้น แม้ไม่มีจุดความร้อนในภาพถ่ายดาวเทียม ก็ไม่ได้หมายความว่า จะไม่มีหมอกควันเกิดขึ้น

นอกจากนี้ บางหน่วยงานยังคงเลือกใช้ PM 10 AQI รายงานถึงผลกระทบต่อสุขภาพมากกว่าที่จะกำหนดใช้ PM 2.5 AQI ซึ่งมีอันตรายมากกว่าหลายเท่า

มลพิษทางอากาศที่เรียกว่า Particulate Matter ซึ่งเป็นวัตถุที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 2.5 ไมโครเมตร (นักวิทยาศาสตร์เรียก PM 2.5) หรือมีขนาดประมาณ 1 ใน 30 ของเส้นผ่านศูนย์กลางของเส้นผมมนุษย์เท่านั้น ! มันจึงอันตรายมาก เพราะสามารถผ่านอวัยวะที่ทำหน้าที่กรองโดยธรรมชาติได้ หาก PM 2.5 ซึมเข้าผนังหลอดเลือดฝอยในปอด ก็จะไหลตามระบบไหลเวียนต่าง ๆ ของร่างกาย ถ้ามีจุดอ่อนที่สมอง เส้นเลือดในสมองอาจแตกได้ หรือหากมีจุดอ่อนที่เส้นเลือดหัวใจ เส้นเลือดหัวใจอาจตีบได้

การเกิดของ PM 2.5 และ PM 10 (มีขนาด 10 ไมโครเมตร) เกิดจาก 2 กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ คือ กระบวนการทางฟิสิกส์ ซึ่งเกิดจากลม หรือพายุพัดพาเอาฝุ่นละอองแล้วมีขนาดเล็กลงเรื่อย ๆ กับกระบวนการทางเคมีในอากาศ ซึ่งมีสารที่เกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล ไม่ว่าจะเป็นโรงไฟฟ้า การจราจร โรงงานอุตสาหกรรม และครัวเรือน เช่น ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โลหะหนัก ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และไนตรัสออกไซด์ รวมทั้งการทำปฏิกิริยาเคมีกันเองของสารเหล่านี้ในอากาศอีกด้วย

องค์การอนามัยโลกได้ให้คำแนะนำว่า ความเข้มข้นของ PM 2.5 ไม่ควรเกิน 10 ไมโครกรัม ต่อลูกบาศก์เมตร (1 ไมโครกรัม เท่ากับ 1 ใน 1 ล้านกรัม) แต่จากรายงานพบว่า มีประชากรเพียง 8 เปอร์เซ็นต์ของโลกเท่านั้น ที่อาศัยอยู่ในบริเวณที่ปลอดภัยจากมลพิษดังกล่าว สำหรับประเทศไทยเรามีมลพิษดังกล่าวสูงถึงประมาณ 3 เท่าของระดับในคำแนะนำ

การแก้ปัญหาด้วยการพ่นน้ำน่าจะช่วยให้อากาศสดชื่นสำหรับคนในบริเวณใกล้เคียงเท่านั้น เนื่องจากประสิทธิภาพการใช้น้ำจับฝุ่นขึ้นอยู่กับขนาดของละอองน้ำ ละอองน้ำจากเครื่องพ่นน้ำทั่วไปอาจสามารถช่วยจับ PM 10 ได้มาก แต่จะมีผลจับ PM 2.5 ได้ไม่ถึง 20 เปอร์เซ็นต์

ยังนึกไม่ออกว่า ปัญหาหมอกควันเมืองลำปางและเมืองอื่น ๆ ทางภาคเหนือจะคลี่คลายไปในทิศทางไหน ระหว่างนี้ขอให้ทุกคนไปหาหน้ากาก N 95 หรือผ้าปิดจมูกชนิดกรองพิเศษ เพื่อป้องกัน PM 2.5 มาใส่อย่างพร้อมเพรียงก่อนก็แล้วกัน
           

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1170 วันที่ 9 - 15 มีนาคม 2561)

Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์