สายตรวจ-จราจรลำปาง
80 นาย ติดกล้องบนหมวกเพิ่มการทำงานที่รัดกุม รอง ผกก.ยันไม่เน้นจับผิดประชาชน
แต่ช่วยเหลือด้านการทำงาน ลดคำครหาในการปฏิบัติหน้าที่ และเก็บหลักฐานชัดเจน
หลังจากที่มีการนำเสนอข่าวสารผ่านสื่อต่างๆหลายครั้ง
กรณีการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยการใช้กล้องติดหมวกและกล้องติดรถยนต์ให้เกิดประโยชน์ในการติดตามคนร้าย
รวมไปถึงการเก็บบันทึกภาพสำคัญขณะเกิดเหตุการณ์ต่างๆ
และขณะปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง
ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงได้มีการขยายการติดตั้งกล้องบนหมวกประจำตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มขึ้นไปทั่วประเทศ
โดยที่ จ.ลำปาง ได้มีการติดตั้งกล้องบนหมวกจราจรด้วยเช่นกัน
ซึ่งได้เริ่มใช้งานเมื่อปี 2560 ที่ผ่านมา
พ.ต.ท.สราวุธ
วะเท รอง ผกก.จร.สภ.เมืองลำปาง เปิดเผยว่า
สำนักงานตำรวจแห่งชาติและตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง
เห็นถึงความปลอดภัยเรื่องการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
และเรื่องการตรวจสถานที่เกิดเหตุ เก็บข้อมูลพยานหลักฐานทางภาพถ่าย วีดีโอ และเสียง
เพื่อประกอบการดำเนินคดีต่างๆ จึงได้มีนโยบายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการติดตั้งกล้องบนหมวกประจำตัว
เพื่อเป็นการช่วยเหลือในการเก็บพยานหลักฐานหากเกิดเหตุการณ์ต่างๆได้ อีกส่วนหนึ่งก็จะเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เพื่อตรวจสอบว่าปฏิบัติได้ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
รอง
ผกก.จร. กล่าวต่อว่า ตอนนี้มีกล้องใช้ในส่วนของงานสายตรวจและจราจร
ทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ภาคสนามจะมีกล้องติดทุกนาย แยกเป็นจราจร 40 นาย
สายตรวจ 40 นาย รวมไปถึงรถยนต์สายตรวจที่คอยขับตรวจตราดูแลความเรียบร้อยต่างๆก็จะต้องมีการติดตั้งกล้องหน้ารถด้วยเช่นกัน
ซึ่งกล้องติดหมวกที่ สภ.เมืองลำปางจะมีอยู่
100 กว่าตัว แต่ใช้จริง 80 ตัว
ตามจำนวนของเจ้าหน้าที่ โดยมีไว้เพื่อเป็นการสับเปลี่ยนหากเกิดการชำรุดเสียหาย
โดยกล้องติดหมวกจะมี
2 รูปแบบ คือ กล้องด้านหน้า ติดตั้งแบตเตอรี่สำรอง มีจอภาพ บันทึกเสียงได้
สามารถเปิดดูภาพได้เลยทันที
แบบที่สองจะเป็นกล้องที่ติดด้านบนหมวก บันทึกภาพและเสียงได้เช่นกัน จะสามารถบันทึกภาพต่อเนื่องได้นาน
4 ชั่วโมง
เมื่อเจ้าหน้าที่ออกปฏิบัติหน้าที่ก็จะต้องเปิดกล้องให้ทำงานอยู่ตลอดเวลา ซึ่งที่ผ่านมาพบว่าการติดตั้งกล้องเหล่านี้ เป็นผลดีในเรื่องของการไประงับเหตุ
เรื่องการโต้แย้งก็จะลดลง เพราะมีการบันทึกภาพไว้ตลอด ในส่วนของจราจรก็เป็นการลดข้อพิพาทระหว่างตำรวจกับประชาชน
และควบคุมการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ให้ทำผิดระเบียบกฎหมาย หรือทำเกินกว่าเหตุได้ เชื่อว่าประชาชนก็อุ่นใจขึ้นว่าเจ้าหน้าที่ต้องทำตามระเบียบเพราะมีการบันทึกภาพไว้
ประชาชนเองก็ต้องอยู่ในกรอบของกฎหมายด้วยเช่นกัน พ.ต.ท.สราวุธ กล่าว.
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น