ฮุบเกาะกลางน้ำกิ่วลม สร้างรีสอร์ทหรูสวมเลขที่บ้าน

จำนวนผู้เข้าชม

นายอำเภอแจ้ห่มนำกำลังเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานเข้าตรวจสอบพื้นที่ การสร้างบ้านตากอากาศบนเกาะเหนือเขื่อนกิ่วลม รุกพื้นที่รัฐชัดเจน แต่กลับพบมีป้ายบ้านเลขติดไว้ เช็คไปยังทะเบียนอำเภอพบว่ามีการขอเลขที่บ้านชั่วคราว เตรียมเรียกตัวมาสอบสวนต่อไป

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 24 เม.ย. 61 นายวรายุทธ ค่อมบุญ นายอำเภอแจ้ห่ม จ.ลำปาง นำกำลังเจ้าหน้าที่ อส.แจ้ห่ม เจ้าหน้าที่ทหารร้อยฝึกรบพิเศษที่ 3 ค่ายประตูผา ตำรวจ กก.4 บก.ปทส. ตำรวจ ศปทส.ภ.5 เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติถ้าผาไท เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 3 (ภาคเหนือ) ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 33 เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ลป.8 (แม่สุก) กว่า 50 นาย ล่องแพขนานยนต์และเรือท้องแบน เรือเร็วรวมทั้งหมด 4 ลำ ล่องไปตามน้ำเขื่อนกิ่วลม เพื่อไปยังเกาะเหนือเขื่อนกิ่วลม หลังได้รับแจ้งว่ามีการลักลอบปลูกบ้านแบบถาวรและมีการแผ้วถางป่าตัดต้นไม้บนเกาะไปเป็นจำนวนมาก โดยใช้เวลาในการเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมงจึงไปถึงที่หมาย พบว่าพื้นที่ดังกล่าวมีสภาพเป็นเกาะกลางน้ำขนาดใหญ่ มีเนื้อที่เกือบ 20 ไร่ เมื่อเข้าไปตรวจสอบพบว่ามีการปลูกสร้างบ้านพักตากอากาศเป็นบ้านไม้สัก 1 หลัง มีป้ายเลขที่บ้านติดหน้าบ้าน บ้านเลขที่ 183 หมู่ 5 ต.บ้านสา อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง มีที่จอดรถ ห้องน้ำ สระน้ำบ่อเลี้ยงปลา 2 บ่อ มีการตกแต่งพื้นที่ให้เป็นสวนย่อมหลายจุด พบว่ามีรถไถจอดอยู่ในโรงจอดรถ 1 คัน แต่ไม่พบตัวเจ้าของบ้าน

ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้นำภาพถ่ายดาวเทียมมาเปรียบเทียบกันในระหว่างปี 2554 พบว่าพื้นที่เกาะแห่งนี้มีสภาพป่าอุดมสมบูรณ์ ป่าเต็มพื้นที่เกาะทั้งหมด และภาพถ่ายดาวเทียมปี 2560 พบว่าสภาพป่าหายไปเกือบทั้งหมดมีการปลูกสร้างบ้านปรับพื้นที่ ทำที่พักตากอากาศอย่างชัดเจน  มีพื้นที่ป่าถูกบุกรุกแผ้วถาง จำนวน 1 แปลง เนื้อที่ 19 ไร่ งาน 1 งาน 5 ตารางวา  ค่าเสียหายของรัฐเป็นเงิน 1,309,850  บาท  ในเบื้องต้นพบว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตพื้นที่ประกาศป่าเตรียมการเขตอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท แต่ได้โอนมอบพื้นที่ให้ทางกรมชลประทานไป เพราะเป็นพื้นที่น้ำท่วมขัง ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่จากสำนักงานโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากิ่วลม-กิ่วคอหมา สำนักชลประทานที่ 2 ลำปาง เข้ามาตรวจสอบในพื้นที่เกิดเหตุพร้อมกัน

นายอุดมศักดิ์ สีธิสาร นายช่างชลประทานอาวุโส ประจำโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากิ่วลม-กิ่วคอหมา (เขื่อนเก็บกักน้ำกิ่วลม) ชี้แจงว่า พื้นที่บริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตพื้นที่ขอใช้ประโยชน์ของกรมชลประทาน    มีไว้เป็นที่รับน้ำของเขื่อนกิ่วลม พร้อมทั้งได้แสดงแผนที่แสดงแนวเขตที่กรมชลประทานได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดินและที่ป่าไม้ตั้งแต่ท้องที่ ต.บ้านแลง อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง ถึงบริเวณบ้านสาป่าก่อ หมู่ที่ 5 ต.บ้านสา อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง   ไม่มีบุคคลใด หรือส่วนราชการใด หรือบริษัทใด หรือห้างหุ้นส่วนของเอกชนรายใดขออนุญาตเข้าทำประโยชน์และใช้ที่ดินบริเวณดังกล่าวแต่อย่างใด ที่ดินบริเวณดังกล่าวมีลักษณะเป็นเกาะกลางน้ำ น้ำท่วมถึงบ้านเป็นบางปีถ้าในมีนั้นมีฝนตกหนักเหนือเขื่อนเป็นจำนวนมากจนน้ำเต็มความจุของเขื่อน ประกอบกับพื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นที่เกาะอยู่กลางลำน้ำ   เป็นพื้นที่เหนือเขื่อนเป็นพื้นที่รับน้ำของเขื่อนกิ่วลม เมื่อกรมชลประทานขอใช้ประโยชน์ในที่ดิน ที่ดินบริเวณดังกล่าวจึงเป็นที่ราชพัสดุ

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลทะเบียนราษฎร์ตามฐานข้อมูลเลขที่บ้าน บ้านเลขที่ 183 หมู่ 5 ต.บ้านสา อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง พบมีนายอดุลย์ หน้าตรง อายุ 50 ปี เป็นเจ้าบ้านตามทะเบียนราษฎร์ โดยในเบื้องต้นได้มีการร้องทุกข์กล่าวโทษ นายอดุลย์ หน้าตรง อายุ 50 ปี เจ้าบ้านตามทะเบียนราษฎร์  ฐานกระทำผิด  พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2488    มาตรา 54 ประกอบ 72  ตรี ฐาน “ก่อสร้าง แผ้วถางหรือกระทำด้วยประการใดๆอันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต  และ ประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 9 มาตรา 108  ทวิ วรรคสอง ฐาน “ เข้าไปยึดถือ ครอบครองรวมตลอดถึงการก่นสร้างหรือเผาป่า หรือทำด้วยประการใดๆ ให้เป็นการทำลาย หรือทำให้เสื่อมสภาพที่ดิน ที่หิน ที่กรวด หรือที่ทราย ในบริเวณที่รัฐมนตรีประกาศหวงห้ามในราชกิจจานุเบกษา หรือทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดอันเป็นอันตรายแก่ทรัพยากรในที่ดิน” ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้นำหลักฐานทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.แจ้ห่ม  เพื่อทำการเรียกตัวมาทำการสอบสวนต่อไป

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 1176 วันที่ 27 เมษายน - 3 พฤษภาคม 2561)