วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

แก๊สแพงเซรามิกกระอัก ร้อง 'ลุงตู่' ช่วยหนุนจัดบิ๊กแฟร์

จำนวนผู้เข้าชม my widget for counting

เซรามิกลำปางเดือดร้อนหนัก แก๊สราคาพุ่งก้าวกระโดด ขอให้ลุงตู่ช่วยด้วย ปรับราคาแอลพีจีให้ลดลง หนุนเปลี่ยนฉนวนกันความร้อนเตาเผา พร้อมทั้งสนับสนุนการจัดงานเซรามิกแฟร์ลำปางให้ยิ่งใหญ่ รวมทั้งให้การสนับสนุนสหกรณ์เซรามิกและหัตถอุตสาหกรรมจังหวัดลำปาง

เมื่อวันที่  23  พ.ค.61 เวลา 13.30 น.  กลุ่มผู้ประกอบการเซรามิก จ.ลำปาง กว่า 50 คน นำโดยนายต่อศักดิ์ ประคำทอง นายกสมาคมเครื่องปั้นดินเผาจังหวัดลำปาง ได้ร่วมกันนำป้ายสีแดง พร้อมเขียนข้อความ “ลุงตู่ ช่วยเซรามิกลำปางด้วย” “ขึ้นราคาแอลพีจี อนาคตเซรามิกลำปางจะอยู่อย่างไร” เพื่อขอความช่วยเหลือเรื่องราคาแก๊สแอลพีจีที่มีการปรับราคาสูงขึ้นกะทันหัน  สร้างความเดือดร้อนให้ผู้ประกอบการเซรามิกใน จ.ลำปางเป็นอย่างมาก  จึงได้รวมตัวกันเพื่อมายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านทางจังหวัดลำปาง โดยมีนายศรีโรจน์ นิมมานพัชรินทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นตัวแทนรับมอบ

นายต่อศักดิ์ ประคำทอง นายกสมาคมเครื่องปั้นดินเผาลำปาง กล่าวว่า  ปัจจุบัน อุตสาหกรรมเซรามิกลำปางได้รับผลกระทบมาโดยตลอด อย่างเช่นผลกระทบในการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำอย่างก้าวกระโดดจากในอดีต  และต้นทุนที่สำคัญแก๊สแอลพีจีที่ใช้ในการผลิตเซรามิก  แต่เดิมของการผลิตเซรามิกใช้ฟืนเป็นเชื้อเพลิง ต่อมาภาครัฐได้เข้ามาสนับสนุน ให้เปลี่ยนการใช้เชื้อเพลิงมาเป็นแอลพีจี โดยได้ให้คำมั่นต่อผู้ประกอบการว่า จะดูแลต้นทุนพลังงาน ให้แก่ผู้ประกอบการเซรามิกในจังหวัดลำปาง ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมกลุ่มแรกๆ ที่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง  และจนมาถึงวันนี้กว่า 30 ปี ราคาแก๊สก็ได้ปรับตัวขึ้นมาโดยตลอดกว่า 200 %  เพื่อเป็นการรองรับการปรับราคาแก๊สแอลพีจี ผู้ประกอบการฯ ได้พยายามหาวิธีการ ปรับเปลี่ยนเครื่องจักรเพื่อให้เกิดการประหยัดพลังงานมากขึ้น และหาแนวทางลดต้นทุนด้านอื่นๆ ร่วมกันมาโดยตลอดจนถึงปัจจุบัน ซึ่งได้ปรับตัวและใช้ทุกวิถีทาง เพื่อที่จะลดต้นทุนแล้ว  แต่การปรับตัวของราคาแก๊สแอลพีจีอย่างก้าวกระโดดโดยต่อเนื่อง ในครั้งนี้โดยไม่มีการวางแผนและแจ้งให้ทราบล่วงหน้ามาก่อน ทำให้ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่ออุตสาหกรรมเซรามิกของจังหวัดลำปาง

ทำให้ต้นทุนของผู้ประกอบการเซรามิกเพิ่มขึ้น ในขณะที่ต้องผลิตสินค้าตามข้อผูกมัด ไม่สามารถปรับตัวได้  เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจในจังหวัดลำปาง  มูลค่าทางเศรษฐกิจในอุตสาหกรรมเซรามิก ปีละกว่า 2,000 ล้านบาท ที่หมุนเวียนอยู่ในจังหวัด จะต้องหายไปไม่ต่ำกว่าครึ่งหนึ่ง ความสามารถในการแข่งขันกับต่างประเทศลดลงทันที  ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมต้องปิดกิจการ เกิดปัญหาการว่างงาน และภาระค่าชดเชยแรงงาน ภาระชดเชยค่าความเสียหายกับลูกค้า สำหรับสินค้าที่ส่งมอบไม่ได้ หรือเกิดยกเลิกการสั่งซื้อ ลูกค้านำเงินที่ได้จากการชดเชยไปซื้อสินค้าจากคู่แข่งในต่างประเทศ ภาครัฐขาดรายได้จากภาษีเงินได้  เกิดหนี้ที่ไม่ก่อรายได้ NPL และการฟ้องร้องกับสถาบันการเงินเพิ่มขึ้น

นายต่อศักดิ์  กล่าวว่า  สมาคมเครื่องปั้นดินเผาลำปาง ขอเรียกร้องให้รัฐบาลสนับสนุนช่วยเหลือผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเซรามิกให้อยู่ต่อไปได้  โดยการปรับราคาแอลพีจี กลับไปเท่ากับเมื่อเดือน ก.พ. 60 ซึ่งในขณะนั้นราคาแอลพีจี ในตลาดโลกอยู่ที่ 510 เหรียญ ต่อเมตริกตันแอลพีจี จำหน่ายในราคาขณะนั้นอยู่ที่ประมาณ 1,000-1,100  บาท/ถัง 48 กิโลกรัม แต่ในปัจจุบันราคาแอลพีจี ในตลาดโลกอยู่ที่ 500 เหรียญ ต่อเมตริกตัน แต่ราคาจำหน่ายปัจจุบันอยู่ที่ เกือบ1,300 บาท/ถัง 48 กิโลกรัม เท่ากับราคาต่างกันถึง 200 บาท/ถัง48 กิโลกรัม  รวมทั้งทบทวนโครงสร้างราคาคำนวณแอลพีจีที่ไม่เป็นธรรม และใช้กลไกกองทุนน้ำมันให้มีประสิทธิภาพ  สนับสนุนการเปลี่ยนฉนวนกันความร้อนในผนังเตา เพื่อให้เพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานในเตาเผาเซรามิก พร้อมกับสนับสนุนการจัดงาน ลำปางเซรามิกแฟร์ ให้มีความยิ่งใหญ่ และตรงตามความต้องการของตลาดโดยวัตถุประสงค์ส่งเสริมผู้ประกอบการให้มีจุดกลางกระจายสินค้า และนำเสนอสินค้ารุ่นใหม่ๆ ออกสู่ท้องตลาด 

นอกจากนั้น ต้องการให้ภาครัฐช่วยสนับสนุนสหกรณ์เซรามิกและหัตถอุตสาหกรรมจังหวัดลำปาง ซึ่งได้ร่วมตัวกันจัดตั้งขึ้นโดย องค์กรภาคเอกชน 5 หน่วยงาน ประกอบด้วย สมาคมเครื่องปั้นดินเผาลำปาง สมาคมผู้ประกอบการไม้ จังหวัดลำปาง สมาคมผู้ประการเหมืองแร่เพื่ออุตสาหกรรมลำปาง สมาคมพัฒนาผู้ประกอบการเอสเอ็มอี สาขาลำปาง และกลุ่มลำปางเซรามิกคลัสเตอร์  โดยอยู่ภายใต้การดำเนินงานตามระเบียบและควบคุมดูแลของ สำนักงานสหกรณ์การเกษตรจังหวัดลำปางการทุกประการ ซึ่งจะสามารถจัดการแก้ปัญหาในด้านต่างๆ ได้ โดยการสนับสนุนกองทุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ 1 %  เป็นจำนวนเงิน 500 ล้านบาท  สนับสนุนด้านการตลาดให้ตรงจุดของความต้องการสินค้าเซรามิก จัด Road Show ทั้ง 4 ภาคและกรุงเทพมหานคร เป็นจำนวนเงิน 30 ล้านบาท  สนับสนุนภาคการผลิต ด้านสัมปทานเหมืองแร่ โรงแต่งแร่และเตาเผากลาง เป็นจำนวนเงิน 500 ล้านบาท

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1180 วันที่ 25 - 31 พฤษภาคม 2561)
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์