อาจไม่ต้องรอให้สมบูรณ์แบบ
หรือที่เขาเรียกว่า “เพอร์เฟค” เพราะความสมบูรณ์แบบไม่มีอยู่จริง เมื่อการท่องเที่ยวในยุคนี้มีสถานที่มากมายรอนักท่องเที่ยวให้มาพักผ่อนหย่อนใจ
ยิ่งปี 2561 รัฐบาลประกาศให้เป็น
“ปีท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋อย่างยั่งยืน” เพื่อเปิดโอกาสให้เกิดการท่องเที่ยวในเมืองไทยนำรายได้ไปหมุนเวียนเข้าในแหล่งชุมชนกันให้มากขึ้น
แม่เมาะก็เป็นหนึ่งในดินแดนแห่งโอกาสเรื่องการท่องท่องเที่ยว
เพราะมีเทศกาลท่องเที่ยวแม่เมาะ ที่จัดทุกปีในช่วงเดือนพฤศจิกายน หากมองเป็นโอกาส
ชาวแม่เมาะก็น่าจะได้เปรียบกว่าที่อื่นอยู่ไม่น้อยเพราะงานนี้โปรโมทแบบยิ่งใหญ่ทุกปี
แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจในอำเภอแม่เมาะ
ไม่ได้มีแค่เหมืองลิกไนต์และโรงไฟฟ้าเท่านั้น แต่ที่แห่งนี้ยังมีเรื่องราว (Story)
อีกมากมาย เพราะเป็นดินแดนที่เคยมีภูเขาไฟในอดีต ซึ่งยังมีให้เห็นในปัจจุบัน
แต่ต้องเดินเลาะภูเขาขึ้นไปชม หรือชมจากที่สูงด้วยพาหนะทางอากาศ
นี่ก็เป็นโอกาสที่ยังเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาการท่องเที่ยว
แต่ก็ถือว่าเป็นจุดแข็งที่เดียวในประเทศไทยหากพัฒนาให้เป็นจุดที่เชื่อมโยงประวัติศาสตร์
กับเส้นทางธรรมชาติ รวมถึงวิถีชุมชนที่อยู่ในเส้นทางขึ้นชมภูเขาไฟเข้าด้วยกัน ก็จะเป็นโปรแกรมการท่องเที่ยวที่ขายคนไทยและชาวต่างชาติให้มาเยี่ยมชมที่น่าสนใจ
ปล่องภูเขาไฟลำปางที่ว่านี้
มี 2 ปล่อง ชื่อว่า ปล่องภูเขาไฟดอยผาคอกหินฟู และ ปล่องภูเขาไฟดอยผาคอกจำป่าแดด
ผาคอก หมายถึงเขาที่มีผากั้นล้อมรอบ หินฟู
หมายถึงหินที่มีลักษณะเป็นรอยแตกฟู มีน้ำหนักเบา ลอยน้ำได้ หรือตะกรันภูเขาไฟ (Scoria) ส่วน จำป่าแดด เป็นชื่อของต้นไม้ที่ขึ้นเป็นจำนวนมากในบริเวณปล่องภูเขาไฟ
ปล่องภูเขาไฟทั้งสอง ตั้งอยู่ไม่ห่างกันโดยอยู่คนละฝั่งถนน
สายเข้าเหมืองถ่านหินแม่เมาะ เลี้ยวขวาเข้าวัดเวียงสวรรค์ เลยวัดไป 3 กม.
จะมีทางเดินขึ้น ศาลาชมวิวบนยอดเขา
ซึ่งสร้างอยู่บนปากปล่องของภูเขาไฟดอยผาคอกหินฟู ส่วนปล่องภูเขาไฟดอยผาคอกจำป่าแดด
ไม่มีทางขึ้น
ปล่องภูเขาไฟที่อำเภอแม่เมาะสามารถ
เชื่อมโยงเรื่องราวกับปล่องภูเขาไฟที่เขตอำเภอเกาะคา มีลักษณะเป็นเนินยาวขนานไปกับแม่น้ำวัง บริเวณปล่องภูเขาไฟพบการหลากของชั้นลาวา นับได้
5 ชั้น
พื้นที่โดยรอบปัจจุบันเป็นหมู่บ้านชุมชน และ ยังเป็นเส้นทางทางเชื่อมโยงกับภูเขากระจกและแหล่งภูเขาที่พบซากมนุษย์ดึกดำบรรพ์
“มนุษย์เกาะคา” และภูเขาแห่งนี้มีถ้าให้เที่ยวชมหลายแห่งในเขตหมู่บ้านหาดปู่ด้าย
ต.นาแส่ง อ.เกาะคา ซึ่งขณะนี้ทางอำเภอและจังหวัด
กำลังส่งเสริมพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง
นอกจากภูเขาไฟแล้วที่แม่เมาะ
ยังมีแหล่งเที่ยวทางธรรมชาติที่ไม่แพ้ที่ใด อย่างเส้นทางเที่ยวชมภาพเขียนสีโบราณประตูผา
อายุกว่า 3พันปี และแหล่งท่องเที่ยวที่มาแรงคงไม่พ้น “ผาหอบ” ชาวบ้านจัดทำแพให้ลาก
และถ่อไปในลำน้ำแม่จางที่อยู่ระหว่างหุบเขา หน้าผาสูง ที่นี่นักเที่ยวหลายคนให้ฉายาว่า
“กุ้ยหลินเล็กๆ” ข้อดีคือที่นี่ ตั้งอยู่ไม่ห่างจากตัวอำเภอแม่เมาะหรือไม่ห่างจากเส้นทางไปชมภูเขาไฟมากนัก
จากเดินทางมาด้วยรถยนต์หรือปั่นจักรยานก็เข้าถึงได้โดยง่าย
เพราะเป็นพื้นที่ป่าชุมชนบ้านแม่เกี๋ยง หมู่ที่ 7 ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ
จ.ลำปาง
เส้นทางเดินเข้าไปถึงจุดนั่งแพ
จะต้องเดินเท้าเข้าไปราว 300 เมตร เมื่อไปถึงจะมีชาวบ้านที่ให้บริการแพ
ซึ่งจะเป็นแพแบบดึงเชือก ไม่ติดเครื่องยนต์ และยังมีเรือคายัค
โดยคิดค่าบริการล่องแพ คนละ 50 บาท คือไปชมถ้ำรูปหัวใจ มองจากด้านนอกเห็นเป็นรูปหัวใจซ้อนกัน
หากเดินเข้าไปในถ้ำซึ่งไม่ลึก มองออกมาจะเห็นเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว หรือรูปหัวใจ
ก็แล้วแต่จินตนาการ
เรื่องราวแห่งขุนเขาที่แม่เมาะถึงเกาะคา
ถึงถือว่าเป็นเสน่ห์ที่น่ายล
เพียงแค่ขาดการพัฒนาเชื่อมโยงให้เป็นโปรแกรมเที่ยวที่เกิดมูลค่า
สร้างรายได้ให้กับชุมชนอย่างจริงจัง การเดินทางไปเที่ยวถ้ำอาจจะเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มเฉพาะที่ชอบการผจญภัย
ชอบเที่ยวธรรมชาติ ซึ่งอาจจะไม่ใช่แค่เพียงนักเที่ยวในไทยแต่
ตลาดชาวต่างชาติกลับเป็นกลุ่มสำคัญ เมื่อเทียบกับแหล่งเที่ยวภูเขา
แถบประเทศเวียดนามกลาง จังหวัด กวางบิ่ง (Quang Binh) ที่คนทั่วโลกรู้จักในนามดินแดนร้อยถ้ำ
และมีแม่เหล็กใหญ่ที่ดึงดูดนักผจญภัยทั่วโลกคือ “ถ้ำเซินด่อง”
(Son Doong Cave) กลายเป็นทริปทัวร์ป่าในถ้ำใหญ่ ที่นักเที่ยวทั่วโลกจองเพื่อไปเยือนสักครั้งในชีวิต สร้างรายได้ให้กับคนในท้องถิ่นปีละหลายพันล้านบาท
เมื่อมี
“จุดขาย” ก็ต้องสร้าง “จุดแข็ง”
การท่องเที่ยวธรรมชาติหากมองให้ทะลุถึงกลุ่มผู้มีกำลังซื้อ
หรือยิงเป้าให้ถึงกลุ่มบริษัทที่ขายทัวร์ให้นักเที่ยวชาวต่างชาติ
ชาวบ้านชุมชนรอบข้าง ทั้งที่พัก อาหาร สินค้าชุมชน ก็พลอยได้ผลประโยชน์
หากเชื่อมโยงกับชุมชนโอทอป ชุมชนเกษตรวิถีพอเพียง หรือ หมู่บ้านท่องเที่ยวชุมชน ซึ่งแม่เมาะมี
ถึง 2 แห่ง คือ บ้านเมาะหลวง ต.แม่เมาะ และหมู่บ้านจำปุย ต.บ้านดง ที่นักท่องเที่ยวต่างถิ่นแวะเข้าไปจับจ่าย
หรือแม้แต่แค่ถ่ายรูปก็ได้ผลในทางบวก
เพราะภาพที่เขาถ่ายในสถานที่เหล่านั้นจะถูกแชร์แบ่งปันผ่านโลกออนไลน์เย้ายวนชวนให้ผู้พบเห็นอยากมาเยือนด้วยเช่นกัน
เมื่อถึงวันที่การท่องเที่ยวถูกแบ่งปันไปในโลกออนไลน์
มันหมายถึงโอกาส ที่ต้องรับพัฒนาเชิงรับให้เต็มที่ เอาแค่ เรื่องภูเขา กับสายน้ำ แหล่งร่องรอยยุคโบราณ
ก็สร้างมูลค่าจากทรัพย์แผ่นดินส่งผลต่อคนในชุมชนท้องถิ่น ทราบว่าผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางก็ได้เดินทางไปสำรวจแหล่งท่องเที่ยวผาหอบด้วยเช่นกัน หากเป็นข่าวดี
อาจจะมีงบประมาณลงไปสนับสนุนการพัฒนาบ้าง แต่ประเด็นคือใคร? จะมีส่วนร่วมในเส้นทางในการพัฒนาและใครจะเป็นพลังสำคัญช่วยผลักดันให้เรื่องเล่าขุนเขาที่แม่เมาะ
เกาะคา กลายเป็นทริปปลายทางฝัน เป็นแม่เหล็กสร้างรายได้เข้าชุมชน อีกทางหนึ่ง และต้องถาม
และตอบกันอย่างจริงจังว่า
รายได้การท่องเที่ยวที่ผ่านมา..ถึงมือชาวบ้านและชุมชนที่แท้จริงหรือยัง
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1177 วันที่ 4 - 10 พฤษภาคม 2561)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น