
1.ไม่มีช่องว่างระหว่างออนไลน์และออฟไลน์อีกต่อไป
ในขณะที่การใช้อินเตอร์เน็ตและการใช้สมาร์ทโฟน เป็นไปอย่างกว้างขวางทำให้เหล่าผู้ประกอบการนั้นพยายามที่จะใช้ช่องทางการตลาดออนไลน์เป็นหลัก
แต่ในความเป็นจริง
การตลาดที่ดีควรต้องตอบสนองได้อย่างครอบคลุมทั้งในโลกออนไลน์และออฟไลน์
เนื่องจากการตลาดออนไลน์อาจทำให้เข้าถึงผู้บริโภคได้เร็วก็จริง
แต่ไม่ได้หมายถึงว่าการตัดสินใจของผู้บริโภคนั้นจะต้องเร็วตามไปด้วย ซึ่งการตัดสินใจของผู้บริโภคนั้นย่อมต้องหาสิ่งที่ดีที่สุดและคุ้มค่าที่สุด
ดังนั้นควรหากลยุทธ์ที่เหมาะสมโดยให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทั้งในโลกออนไลน์และออฟไลน์ด้วยเช่นกัน
2.พิจารณาการทำเว็บไซต์บนอุปกรณ์มือถือให้มากขึ้น
เป็นที่รู้กันดีว่าหลายๆธุรกิจนั้นย่อมมีพื้นที่ในโลกออนไลน์ไว้นำเสนอสินค้าหรือบริการของตัวเองแน่นอนอยู่แล้ว
และเพื่อให้เชื่อมโยงกับกระแสการใช้งานบนสมาร์ทโฟน
ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่มีการใช้งานมากที่สุดในปัจจุบัน
เพื่อให้เอื้ออำนวยต่อการใช้งานบนสมาร์ทและยังทำให้ลูกค้าสามารถเข้ามาชมธุรกิจได้ตลอดเวลาและไม่มีเงื่อนไขอีกด้วย
3.เลือกใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการศึกษาพฤติกรรมของลูกค้าเป็นรายบุคคล
ในยุคดิจิทัลแบบนี้ได้มีธุรกิจบางประเภทที่ได้นำเอาเจ้าตัวหุ่นยนต์มาใช้ในการตอบสนองแก่ลูกค้า
ซึ่งหุ่นยนต์มีความสมบูรณ์แบบใสตัวเองค่อนข้างมาก นอกจากจะสามารถประมวลผลได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำแล้ว
ยังไม่รู้จักรู้ถึงความเหน็ดเหนื่อยอีกด้วย
โดยการนำหุ่นยนต์มาใช้ในงานธุรกิจเพื่อตอบโต้กับผู้บริโภค
จึงส่งผลให้ผู้บริโภคเกิดความคาดหวังสูง
และต้องการได้รับประสบการณ์ที่เป็นส่วนบุคคลมากยิ่งขึ้น
4.การชำระเงินแบบดิจิทัลจะมีอยู่ในทุกช่องทางการค้า
ในยุคสมัยที่ผู้บริโภคสามารถจ่ายเงินได้โดยไม่ต้องถือเงินไปจ่าย
หรืออาจจะไม่ต้องพกบัตรเครดิตหรือบัตรเอทีเอ็มเลยก็ตาม
และสามารถได้รับสินค้าหรือบริการนั้นๆได้เลย ซึ่งการจ่ายเงินดิจิตอลนั้น
จะเริ่มแพร่หลายไปในทุก ๆ ช่องทาง เพื่อลดการใช้เงินสด
และวิธีการใช้งานการเก็บเงินในรูปแบบดิจิทัลนี้ไม่ยากเลย
ซึ่งข้อดีในส่วนนี้ทำให้ธุรกิจออฟไลน์สามารถเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในโลกออนไลน์ได้อย่างง่ายดายอีกด้วย
5.แบรนด์จะแข็งแกร่งขึ้นด้วยการวัดผลในสิ่งที่สำคัญมากกว่าตัวแปรเดิม
วิวัฒนาการที่ก้าวไกลอย่างรวดเร็วทำให้นักการตลาดย่อมต้องการข้อมูลที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับนำมาวัดผลและวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า
ซึ่งการวัดผลในเบื้องต้นนั้นคงไม่มากพอสำหรับนักการตลาดในปัจจุบันอีกต่อไป
อย่างในกรณีของ Facebook ยอมรับว่า มีเทคโนโลยีที่สามารถดักฟังเสียงจากสมาร์ทโฟน
เพื่อนำมาประมวลผลในการแสดงโฆษณาหน้าฟีดข่าวของผู้บริโภคอีกด้วย
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1184 วันที่ 22 - 28 มิถุนายน 2561)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น