
ถ้านึกชื่อ
หลับตาแล้วยังไม่เห็นหน้าดิเรก ก้อนกลีบ อดีตพ่อเมืองลำปาง
ก็ให้นึกถึงหลักกิโลเมตรยักษ์ สี่แยกอินโดจีน บนถนนพหลโยธิน ที่มีข่าวว่า
แขวงการทางจังหวัดลำปาง จะทุบทิ้ง ขยายถนน ผิวการจราจร เป็นถนนวงแหวนยกระดับ
เพราะเขาเป็นคนริเริ่ม ก่อสร้าง จากเงินกองทุนไฟฟ้า ที่ใช้เงินละลายไป สูญเปล่า 3 ล้านบาท
ผ่านมา
10
ปี ชื่อดิเรก ก้อนกลีบ ก็กลับมาเป็น ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ อีกครั้ง
เมื่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่
พิพากษาให้นายดิเรก และพวกอีก 14 คน จำคุกโดยไม่รอลงอาญา
ในคดีละเว้นการจับกุม ผู้บุกรุกก่อสร้างอ่างเก็บน้ำกิ่วข้าวหลาม อ่างเก็บน้ำปงชัย
อ่างเก็บน้ำแม่ทู และอ่างเก็บน้ำแม่หลวง ในเขตป่าสงวนแม่เมาะ
นอกจากนายดิเรก
หรือวรเดช ก้อนกลีบแล้ว ก็ยังมีนายอำเภอและปลัดแม่เมาะ เจ้าพนักงานป่าไม้ นายกฯอบจ.จางเหนือ
นายกอบจ.นาสัก กำนันนาสัก ผู้ใหญ่บ้านบ้านดง ผู้ใหญ่บ้านแม่เมาะ
ผู้ใหญ่บ้านจางเหนือ และผู้ใหญ่บ้านนาสัก
ติดร่างแหเป็นจำเลยร่วมด้วย
คำพิพากษาโดยสรุป
ศาลพิเคราะห์จากคำฟ้อง
รายงานและสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
ประกอบการพิจารณาสืบพยานหลักฐานเพิ่มเติมของศาลฟังได้ว่า ขณะเกิดเหตุ นายดิเรก
จำเลยที่ 1
ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง
จำเลยอื่นเป็นกรรมการตรวจรับการก่อสร้าง และพนักงานเจ้าหน้าที่
เมื่อทราบว่า
มีการกระทำความผิดเกิดขึ้นแล้ว คือการสร้างอ่างเก็บน้ำในเขตป่าสงวน
ต้องประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการตรวจสอบจับกุมร่วมกับตนเอง
ถึงแม้ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้
หรือพนักงานสอบสวนในท้องที่เพื่อดำเนินการจับกุม
หากเมื่อพบเห็นแล้ว
ไม่ดำเนินการหรือแจ้งถือว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดแล้ว จำเลยคนอื่น นอกจากจำเลยที่ 1 จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา
157
พิพากษาว่า
จำเลยที่ 1
และพวก มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน พิพากษาจำคุกจำเลยที่ 1 เป็นเวลา
16 ปี โดยจำเลยที่ 1
และจำเลยคนอื่นๆที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐแม้จะรับข้อเท็จจริง
แต่เป็นเพราะจำนนด้วยหลักฐาน ซึ่งการละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
พฤติการณ์เป็นเรื่องร้ายแรง จึงไม่รอการลงโทษให้
คำพิพากษาฉบับนี้
เป็นการลงโทษตัวบุคคล โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐ
ในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ซึ่งบัญญัติว่า
ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด
หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
คำพิพากษามิได้ก้าวล่วงไปถึงอ่างเก็บน้ำ
จึงเป็นดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐ
ที่จะจัดการบริหารอ่างเก็บน้ำให้เป็นประโยชน์กับชาวบ้าน เป็นคนละเรื่อง
คนละกรณีกับการกระทำความผิดของนายดิเรก ก้อนกลีบ
แต่ที่ชัดเจนก็คือ
คำพิพากษาครั้งนี้ บอกให้รู้ว่า แม้เวลาจะล่วงเลยมานานเพียงใด กฎแห่งกรรมก็ตามมาให้ชดใช้ได้เสมอ
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1188 วันที่ 20 - 26 กรกฎาคม 2561)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น