วันศุกร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

10ปีหนีไม่พ้น กฎแห่งกรรรม “ดิเรก ก้อนกลีบ”

จำนวนผู้เข้าชม .

ถ้านึกชื่อ หลับตาแล้วยังไม่เห็นหน้าดิเรก ก้อนกลีบ อดีตพ่อเมืองลำปาง ก็ให้นึกถึงหลักกิโลเมตรยักษ์ สี่แยกอินโดจีน บนถนนพหลโยธิน ที่มีข่าวว่า แขวงการทางจังหวัดลำปาง จะทุบทิ้ง ขยายถนน ผิวการจราจร เป็นถนนวงแหวนยกระดับ เพราะเขาเป็นคนริเริ่ม ก่อสร้าง จากเงินกองทุนไฟฟ้า ที่ใช้เงินละลายไป สูญเปล่า 3 ล้านบาท

ผ่านมา 10 ปี ชื่อดิเรก ก้อนกลีบ ก็กลับมาเป็น ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ อีกครั้ง เมื่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่ พิพากษาให้นายดิเรก และพวกอีก 14 คน จำคุกโดยไม่รอลงอาญา ในคดีละเว้นการจับกุม ผู้บุกรุกก่อสร้างอ่างเก็บน้ำกิ่วข้าวหลาม อ่างเก็บน้ำปงชัย อ่างเก็บน้ำแม่ทู และอ่างเก็บน้ำแม่หลวง ในเขตป่าสงวนแม่เมาะ

นอกจากนายดิเรก หรือวรเดช ก้อนกลีบแล้ว ก็ยังมีนายอำเภอและปลัดแม่เมาะ เจ้าพนักงานป่าไม้ นายกฯอบจ.จางเหนือ นายกอบจ.นาสัก กำนันนาสัก ผู้ใหญ่บ้านบ้านดง ผู้ใหญ่บ้านแม่เมาะ ผู้ใหญ่บ้านจางเหนือ  และผู้ใหญ่บ้านนาสัก ติดร่างแหเป็นจำเลยร่วมด้วย

คำพิพากษาโดยสรุป ศาลพิเคราะห์จากคำฟ้อง รายงานและสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ประกอบการพิจารณาสืบพยานหลักฐานเพิ่มเติมของศาลฟังได้ว่า ขณะเกิดเหตุ นายดิเรก จำเลยที่ 1 ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง จำเลยอื่นเป็นกรรมการตรวจรับการก่อสร้าง และพนักงานเจ้าหน้าที่

เมื่อทราบว่า มีการกระทำความผิดเกิดขึ้นแล้ว คือการสร้างอ่างเก็บน้ำในเขตป่าสงวน ต้องประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการตรวจสอบจับกุมร่วมกับตนเอง ถึงแม้ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ หรือพนักงานสอบสวนในท้องที่เพื่อดำเนินการจับกุม

หากเมื่อพบเห็นแล้ว ไม่ดำเนินการหรือแจ้งถือว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดแล้ว จำเลยคนอื่น นอกจากจำเลยที่ 1 จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157

พิพากษาว่า จำเลยที่ 1 และพวก มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน พิพากษาจำคุกจำเลยที่ 1 เป็นเวลา 16 ปี โดยจำเลยที่ 1 และจำเลยคนอื่นๆที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐแม้จะรับข้อเท็จจริง แต่เป็นเพราะจำนนด้วยหลักฐาน ซึ่งการละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ พฤติการณ์เป็นเรื่องร้ายแรง จึงไม่รอการลงโทษให้

คำพิพากษาฉบับนี้ เป็นการลงโทษตัวบุคคล โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐ ในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ซึ่งบัญญัติว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต

คำพิพากษามิได้ก้าวล่วงไปถึงอ่างเก็บน้ำ จึงเป็นดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐ ที่จะจัดการบริหารอ่างเก็บน้ำให้เป็นประโยชน์กับชาวบ้าน เป็นคนละเรื่อง คนละกรณีกับการกระทำความผิดของนายดิเรก ก้อนกลีบ  

แต่ที่ชัดเจนก็คือ คำพิพากษาครั้งนี้ บอกให้รู้ว่า แม้เวลาจะล่วงเลยมานานเพียงใด  กฎแห่งกรรมก็ตามมาให้ชดใช้ได้เสมอ


(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1188 วันที่ 20 - 26 กรกฎาคม 2561)
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์