มหัศจรรย์แห่งหัวใจ ลำปางรวมเป็นหนึ่ง พาเจ้าหมูป่าน้อยกลับบ้าน

จำนวนผู้เข้าชม

Where you come from?

เสียงเล็กๆ ดังขึ้นในนาทีแรกๆที่นักดำน้ำกู้ภัย ชาวอังกฤษพบพวกเขา บริเวณห่างจากพัทยาบีชราว 200 เมตร

หากพวกเขาได้รู้ว่า ไม่เพียงมิตรจากแดนไกลคนนี้ที่ได้พบเห็นเท่านั้น หากภายนอกถ้ำ ยังมีคนนับพัน ต่างชาติ ต่างภาษา ต่างอาชีพ มาชุมนุมกัน เพื่อช่วยเหลือเขา ในหลายเรื่องราวที่แต่ละคนจะช่วยได้ เขาจะรู้สึกอย่างไร

ยังมีคนไทยอีกทั้งประเทศที่ส่งแรงใจไปถ้ำหลวง เป็นความมหัศจรรย์ เป็นพลังแห่งหัวใจ ที่นำพวกเขากลับออกมาได้ในที่สุด

เหตุการณ์โค้ชและนักเตะเยาวชน “หมูป่าอะคาเดมีแม่สาย” รวม 13 คน  หายไปในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย  ได้สร้างประวัติการณ์ครั้งสำคัญให้กับสังคมไทย เมื่อถนนทุกสาย คนไทยทั้งชาติ ได้รู้สึกร่วมกันผนึกแน่นเป็นหัวใจดวงเดียว ที่ปรารถนาให้เจ้าหมูป่าทั้ง 13 คน ได้กลับออกมาโดยสวัสดิภาพ

มีทั้งช่วยเหลือด้วยกำลัง แรงกาย ด้วยข้าวของ เครื่องใช้ ข้าวปลาอาหาร และการส่งกำลังใจหลายรูปแบบ ทั้งการตั้งจิตอธิษฐาน  กระทำพิธีทางศาสนาตามความเชื่อของแต่ละคน การแต่งและขับร้องเพลงให้กำลังใจ หรือการส่งกำลังใจผ่านสื่อออนไลน์ ที่มีบทบาทสำคัญในการส่งข้อมูล ข่าวสาร การค้นหา 13 ชีวิตครั้งนี้

โดยเฉพาะพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ที่ทรงห่วงใย พระราชทานโรงครัว และ พระราชทานไฟ LED จำนวน 200 ดวง มาใช้ในการส่องสว่าง อีกทั้งพระราชทานคำแนะนำในการช่วยเหลือ ผ่านพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย  

มีหลายหน่วยงานจากจังหวัดลำปาง เข้าไปปักหลักร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ เพื่อปฏิบัติภารกิจสำคัญนี้  ตัวอย่าง เช่น กฟผ.แม่เมาะ สมาคมกู้ภัยลำปาง สำนักงานชลประทานเขต 2 สำนักงานชลประทานที่2ลำปาง และประชาชนที่ร่วมบริจาคของไปกับ กฟผ.แม่เมาะ รวมถึงทหารจาก มทบ.32 และแพทย์จากโรงพยาบาลค่ายสุรศักดิ์มนตรี ฯลฯ

นายบรรพต ธีระวาส ผู้ช่วยผู้ว่าการเหมืองแม่เมาะ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ที่ใกล้จะเกษียณในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าลงพื้นที่พร้อมกับส่งทีมเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานรวม 3 คน พร้อมกล้องส่องภายในพื้นที่แคบ การสำรวจปล่องถ้ำ ต้องใช้กล้องเพื่อส่องดูภายใน  เป็นประโยชน์ในภารกิจค้นหา

ในบางจุดของการช่วยเหลือ ต้องยอมรับในความเหนื่อยยาก และเสียสละของพวกเขา เช่น หน่วยซีล ที่ต้องดำน้ำฝ่ากระแสน้ำไหลแรง ขุ่นคลั่ก เข้าไปในจุดที่คาดว่า 13 ชีวิต  ยังรอความช่วยเหลืออยู่ ไม่ว่าจะอย่างไร เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจนี้ หน่วยซีลจะเป็นหน่วยช่วยเหลือหน่วยหนึ่ง ที่มีความเสี่ยงในเรื่องสุขภาพ จากการที่เข้าไปอยู่ในบริเวณที่อับอากาศเป็นเวลานาน

แม้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ควรเกิดขึ้น แต่เหตุการณ์นี้ ก็ทำให้เราอุ่นใจได้ว่า ยามทุกข์ ยามโศก เช่นนี้ คนไทยไม่มีวันทิ้งกัน และความสุขของคนไทยนาทีนี้ คงไม่มีความสุขใดจะมากไปกว่าความสุขจากการที่ได้ข่าวว่า สามารถช่วยเหลือทั้ง 13 ชีวิตออกมาจากถ้ำหลวงได้แล้ว

สำนักวิจัยซูเปอร์โพล เปิดเผยผลสำรวจ เรื่องความสุขมวลรวมของประชาชน ประจำเดือนมิถุนายน 2561 พบว่า ประชาชนมีความสุขมวลรวมสูงสุดถึง 9.34 คะแนน เมื่อเห็นภาพความช่วยเหลือเกื้อกูลของคนไทย ช่วยค้นหาเด็กนักเรียนติดถ้ำหลวง

นี่คือภาพที่สำนักข่าวต่างประเทศ เอพีและเอเอฟพี รายงานไปทั่วโลกว่า แม้ประเทศไทยจะเผชิญความแตกแยกทางการเมือง และอยู่ภายใต้อำนาจของรัฐบาลทหาร แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ ได้แสดงให้เห็นความร่วมแรง ร่วมใจ เป็นหนึ่งเดียวกับทหาร ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่ร่วมกับอาสาสมัครพลเรือน

เหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้เราเห็นภาพว่า ภายใต้ความรู้สึกว่าคนไทยแบ่งแยกเป็นฝักฝ่าย มีความขัดแย้งทางความคิดรุนแรงจนไม่สามารถแสวงหาหนทางแห่งสันติวิธีได้ แต่ในยามทุกข์ยาก เดือดร้อน ของเพื่อนร่วมชาติ ดวงใจทุกดวงก็สามารถผนึกแน่นเป็นดวงเดียว และตอกย้ำว่า คนไทยไม่มีวันทิ้งกัน

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1186 วันที่ 6 - 12 กรกฎาคม 2561)