ไพฑูรย์วาดฝัน
เทศบาลเมืองเขลางค์สวยที่สุดในประเทศ ของบประมาณปี 62 จากสภาฯอีก 80 ล้านบาท สร้างศูนย์บริการครบวงจร เผยความคืบหน้าการก่อสร้างอาคารสำนักงานเกิน
50 เปอร์เซ็นต์ ยันเสร็จทันตามกำหนดสัญญา
ภูมิใจใช้งบเทศบาลบริหารจัดการทั้งหมดกว่า 340 ล้านบาท
หลังจากที่
บริษัท ศักดิ์ทองพูน ได้เข้ามาเป็นผู้รับจ้างก่อสร้างอาคารสำนักงาน
เทศบาลเมืองเขลางค์นคร เป็นรายที่ 3 ด้วยวงเงินงบประมาณ 138,888,888 บาท ต่ำ
กำหนดระยะเวลาดำเนินการ 510 วัน 17 งวดงาน นับแต่วันที่เซ็นสัญญา
คือวันที่ 15 ก.ย.60 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 7 ก.พ.
62
โดยนายไพฑูรย์
โพธิ์ทอง นายกเทศมนตรีเมืองเขลางค์นคร
ได้ติดตามความคืบหน้า ในการก่อสร้างอาคารสำนักงานแห่งใหม่อย่างต่อเนื่อง ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.61 ที่ผ่านมา พร้อมกับนายจตุวัฒน์
ตุ้ยเต็มวงค์ ปลัดเทศบาลเมืองเขลางค์นคร และหัวหน้าส่วนราชการ โดยมีคณะกรรมการตรวจที่ปรึกษาและควบคุมงานก่อสร้างสำนักงานเทศบาลเมืองเขลางค์นคร
พร้อมบริษัทที่ปรึกษาและควบคุมงานก่อสร้าง และผู้รับจ้าง ร่วมลงพื้นที่ ซึ่งผลการก่อสร้างมีความคืบหน้าในมากผลเป็นที่น่าพอใจ
นายไพฑูรย์
โพธิ์ทอง นายกเทศมนตรีเมืองเขลางค์นคร เปิดเผยว่า
ทางผู้รับจ้างได้ส่งงานมา 4 งวดแล้ว ขณะนี้ได้เริ่มต้นก่อสร้างชั้น
4 เมื่อเทคานเสร็จ
ก็จะยกหลังคาเหล็กที่เชื่อมไว้เรียบร้อยแล้วขึ้นด้านบน ส่วนชั้น 2 และ 3 ก็จะก่อผนังและเริ่มฉาบ
ถือว่างานเดินหน้าไปได้มากเกิน 50 เปอร์เซ็นต์ ส่วนงวดที่ 5 และ
6 อาจจะล่าช้าไปบ้าง
เนื่องจากจะต้องทำลิปแลปคลองที่ตัดผ่านกลางที่ดิน สัญญากำหนดไว้ 17 งวด เชื่อว่าทันตามสัญญา ในวันที่ 7 ก.พ.62
ส่วนการฟ้องเรียกค่าเสียหาย
บริษัทผู้รับจ้างเดิมที่ได้มีการทิ้งงาน และยกเลิกสัญญาไปนั้น ได้มอบให้ทางนิติกรดำเนินการยื่นฟ้อง
เรื่องการทิ้งงานทำให้เทศบาลได้รับความเสียหาย
และเรียกค่าเสียหายในภาระค่าเช่าที่ต้องแบกรับอยู่เนื่องจากการก่อสร้างสำนักงานไม่มีความคืบหน้า
อยู่ระหว่างการขึ้นศาล
นายกเทศมนตรียังได้กล่าวถึงการก่อสร้างศูนย์บริการต่างๆภายในพื้นที่ของสำนักงานเทศบาล
เพื่อให้บริการประชาชนอย่างครบวงจร โดยเปิดเผยว่า
ในปี
62 เทศบาลฯได้ตั้งงบประมาณไว้อีก
80 กว่าล้านบาท เพื่อจะก่อสร้างอาคารต่างๆ เพิ่มเติมในพื้นที่ของสำนักงานเทศบาล
ให้ครบวงจรมากที่สุด โดยปัจจุบันที่ได้ดำเนินการจัดสรรงบประมาณไปแล้ว
คือ อาคารสำนักงาน งบประมาณ 138 ล้านเศษ สถานธนานุบาล
งบประมาณ 3.8
ล้านบาท ตอนนี้อยู่ระหว่างดำเนินเรื่องขอเงินหมุนเวียน 7
ล้านบาท จากเงินสะสมของเทศบาล และรอทางส่วนกลางส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาประจำ และมีการเปิดรับสมัครพนักงาน
คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ต้นปี 62 และยังมีอาคารป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
งบประมาณ 5 ล้านบาท และอาคารพัสดุ ใช้งบประมาณ 3 ล้านบาท อยู่ระหว่างรอจัดซื้อจัดจ้าง
สำหรับอาคารที่ก่อสร้างเสร็จแล้ว ประกอบด้วย
อาคารผู้สูงวัย งบประมาณ 6 ล้านบาท
ซึ่งเดิมได้ขอใช้สถานที่ของโรงเรียนบ้านหนองยางเก่า
อาคารเสร็จก็ย้ายมาเรียนที่ศูนย์ผู้สูงวัยแห่งนี้ นอกจากนั้นยังมีศูนย์เด็กเล็ก
ได้งบประมาณจากทางส่วนกลางเข้ามา
นายไพฑูรย์ กล่าวต่อไปว่า งบประมาณอีก 80 ล้านบาท ที่จะดำเนินการในปี 62 ที่ตั้งไว้จะเป็นงบที่ใช้ในการก่อสร้างสนามฟุตบอลหญ้าเทียม สนามฟุตซอล อาคารกีฬา 2 ชั้น รวมงบประมาณส่วนนี้ 17.5 ล้านบาท ก่อสร้างโรงอาหารบริการประชาชนและพนักงานลูกจ้าง จำนวน 8 ล้านบาท ก่อสร้างสวนสาธารณะ ลานกิจกรรม ลู่วิ่ง สระน้ำ ศาลาพักผ่อน รวม 11 ล้านบาท ก่อสร้างอาคารบริการด้านสาธารณสุข เป็นอาคาร 3 ชั้น ให้บริการตรวจรักษาเบื้องต้น รวมถึงห้องประชุมใช้ในกิจกรรมด้านหลักประกันสุขภาพ งบประมาณจำนวน 21 ล้านบาท ก่อสร้างอาคารผู้สูงวัย ซึ่งเขตเทศบาลมีอยู่ประมาณ 1 หมื่นกว่าคน มีนักเรียนประมาณ 150 คน ต้องสร้างอาคาร 2 ชั้นรองรับ ใช้งบประมาณ 11 ล้านบาท ก่อสร้างอาคารเชื่อมต่อกับศูนย์เด็กเล็ก ก่อสร้างศูนย์บริการประชาชน ห้องสมุด งบประมาณ 5 ล้านบาท เพราะคาดว่าจะมีประชาชนเข้ามาใช้ประโยชน์จำนวนมาก ก่อสร้างอาคารควบคุมระบบไฟฟ้าทั้งหมดภายในพื้นที่ของเทศบาล งบประมาณ 1.2 ล้านบาท ก่อสร้างรั้วล้อมรอบพื้นที่ 2 ล้านบาท ติดตั้งป้าย 3 แสนบาท ซึ่งโครงการเหล่านี้จะตั้งเข้าไปในเทศบัญญัติ งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2562 และจะมีการนำเข้าสภาเทศบาล ในวันที่ 15 ส.ค.61 นี้
ดังนั้น
ถ้ารวมทั้งหมดตั้งแต่ การจัดซื้อที่ดิน การก่อสร้างสำนักงาน และก่อสร้างอาคารบริการต่างๆตามที่กล่าวมา
ก็ถือว่าใช้งบประมาณทั้งหมดกว่า 340
ล้านบาท โดยเป็นการบริหารจัดการงบประมาณของเทศบาลทั้งหมด ไม่ได้มีการกู้เงินจากภายนอกแต่อย่างใด
และหากสร้างเสร็จจะเป็นเทศบาลที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ และเป็นอาคารกึ่งสถาปัตยกรรมที่สวยที่สุดของประเทศก็ว่าได้ นายไพฑูรย์ กล่าว
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น