วันศุกร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2561

รอสาธารณสุขสอบ 4 ขวบ ตายไม่รู้สาเหตุ นอนโรงพยาบาล 3 วัน แม่ยันแข็งแรง

จำนวนผู้เข้าชม

เด็กชายวัย 4 ขวบ ป่วยชักเกร็งและไข้สูง ก่อนเสียชีวิต หลังเข้ารักษาที่ รพ.ได้ 3 วัน แพทย์ระบุมีอาการสมองอักเสบ แต่บอกสาเหตุไม่ได้ เร่งส่งชิ้นเนื้อตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์  แม่เด็กเผยลูกชายแข็งแรงและร่าเริง ไม่เคยป่วยหนัก ญาติยังคาใจผลการเสียชีวิต จี้ รพ.ให้เร่งสรุปโดยเร็ว 

จากกรณีที่มีเด็กชาย ชั้นอนุบาล 2 โรงเรียนอนุบาลลำปางเขลางค์รัตน์อนุสรณ์ อ.เมือง จ.ลำปาง  เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 30 ก.ค.61 ที่ผ่านมา หลังจากมีอาการป่วยไข้สูงและเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลลำปาง เบื้องต้นแพทย์ระบุว่าเสียชีวิตจากอาการสมองอักเสบ แต่ก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดจากสาเหตุใด โดยทราบชื่อคือ ด.ช.พุทธคุณ ลักษณะ หรือน้องต้นโพธิ์ อายุ 4 ปี  10 เดือน  ศพของน้องได้ตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่ที่บ้านของตาและยาย ในชุมชนบ้านหนองปล้อง ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง 

ต่อมาเมื่อวันที่ 31 ก.ค.61  นายสมยศ ยะม่อนแก้ว รองผู้อำนวยการ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลลำปาง (เขลางค์รัตน์อนุสรณ์) พร้อมคณะครูและบุคลากรทางการศึกษา ร่วมวางพวงหรีดในงานศพ ด.ช.พุทธคุณ ลักษณะ นักเรียนชั้นอนุบาล 2  เพื่อแสดงความเสียใจในการสูญเสีย พร้อมกับได้ร่วมเป็นเจ้าภาพสวดอภิธรรมศพในคืนที่ 3 ด้วย

จากการสอบถามนายนพพร อิ่มละมัย ตาของน้องต้นโพธิ์ ทราบว่า  เมื่อวันที่ 13 ก.ค.61 ได้รับแจ้งจากทางโรงเรียนว่า น้องมีอาการสำลักนม และชักเกร็ง ตัวร้อน แขนซีกซ้ายอ่อนแรง ครูได้นำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลลำปาง จึงรีบแจ้งผู้ปกครองตามไปดูอาการก็พบว่าน้องมีไข้ขึ้นสูง ทางแพทย์ได้ทำการตรวจเอกซเรย์ แสกนสมอง และร่างกายต่างๆผลตรวจไม่พบความผิดปกติใดๆ ได้นอนโรงพยาบาลดูอาการอยู่ 4 วัน ซึ่งอาการของน้องก็ฟื้นตัวและดีขึ้นตามลำดับ แพทย์จึงให้กลับบ้านได้ในวันที่ 17 ก.ค.  โดยก่อนหน้าที่จะมีอาการชัก น้องก็ไม่ได้มีไข้หรืออาการผิดปกติใดๆยังวิ่งเล่นได้ตามปกติ เพราะถ้าน้องมีอาการป่วยก็จะไม่ให้ไปโรงเรียน พอออกจากโรงพยาบาลก็แข็งแรงดี วิ่งเล่นได้เหมือนเด็กทั่วไป  จนกระทั่งวันที่ 26 ก.ค. น้องเริ่มมีอาการตัวร้อน เช็ดตัวแล้วไข้ไม่ลดลง จึงจะพาไปโรงพยาบาลศรีพัฒน์ ที่ จ.เชียงใหม่ ช่วงเวลา 05.00 น.วันที่ 27 ก.ค. แต่ขับรถไปได้ถึงหน้าโรงแรมเวียงทอง น้องมีอาการชัก คางบวม และมีผื่นสีแดงขึ้นตามตัว จึงได้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลลำปาง  แพทย์ได้ทำการฉีดสี พบว่าเป็นอาการเยื่อหุ้มสมองอักเสบ แต่ไม่ได้บอกว่าเกิดจากสาเหตุใด  แรกๆน้องมีอาการร้องไห้งอแง ได้พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลอยู่ 3 วัน จะใส่เครื่องช่วยหายใจและนอนหลับอย่างเดียว กระทั่งเวลา 08.30 น. วันที่ 30 ก.ค.61  น้องก็ได้เสียชีวิตลง   เสียใจมากเพราะเป็นหลานคนแรกของตน  โดยที่ผ่านมาน้องก็ไม่เคยป่วยหนัก และมีอาการชักครั้งนี้เป็นครั้งแรก

แม่น้องต้นโพธิ์ ซึ่งกำลังตั้งครรภ์ลูกคนที่สองได้ 7 เดือน  กล่าวว่า ตอนอยู่บ้านน้องก็เล่นซนตามประสาเด็ก  เรื่องถูกยุงกัดก็อาจจะมีบ้าง แต่ในละแวกบ้านก็ไม่เคยมีใครป่วยด้วยโรคไข้เลือดออกหรือพาหะจากยุง   เมื่อสอบถามแพทย์ก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องยุง หรือไข้เลือดออกเลย เพราะจากการตรวจเพาะเชื้อก็ไม่พบเชื้อ ซึ่งทางแพทย์ก็ยังบอกไม่ได้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร  แต่ได้ขอผ่าชันสูตรร่างน้องนำชิ้นเนื้อไปตรวจสอบหาสาเหตุ ทางญาติก็ยินยอมให้ไปทุกอย่าง เพราะอยากทราบเช่นกันว่าน้องเสียชีวิตเพราะอะไร  โดยส่วนตัวไม่ได้ติดใจในการรักษาของแพทย์ แต่ยังติดใจในเรื่องผลสรุปสาเหตุการเสียชีวิตที่ยังตอบไม่ได้ เวลามีคนถามว่าลูกเป็นอะไรแม่ก็ไม่สามารถตอบได้ อยากให้แพทย์ชี้แจงให้ทราบโดยเร็ว

ด้านนายแพทย์วรินทร์เทพ เชื้อสำราญ นายแพทย์เชี่ยวชาญเวชกรรมป้องกัน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำปาง  กล่าวว่า จากการตรวจอาการของเด็ก พบว่าเด็กมีอาการไข้สูงและชักเกร็ง เป็นอาการของภาวะสมองอักเสบ โดยทางแพทย์ได้มีการตรวจเพาะเชื้อไขสันหลัง แต่ไม่พบว่ามีเชื้อโรคชนิดใด กรณีนี้อาจจะเป็นเพราะเป็นประเภทเชื้อที่ไม่สามารถตรวจได้เจอ หรือกลุ่มไวรัส จึงต้องส่งตรวจวิธีพิเศษ อยู่ระหว่างรอผล เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต อาการสมองอักเสบมีหลายสาเหตุ เช่น การติดเชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อไวรัส ในช่วงแรกจะเหมือนเป็นไข้หวัดธรรมดา มีเสมหะ มีน้ำมูก  แต่มีโอกาสน้อยมากที่ทำให้มีอาการของสมองอักเสบ ในรายของน้องยังอยู่การทำงานในห้องปฏิบัติการเพื่อสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

จากการสอบถามจากแพทย์ผู้รักษาจากหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ไม่พบเชื้อโรค ซึ่งไม่น่าจะเป็นโรคอุบัติใหม่  นอกจากนั้นยังได้ตรวจสอบว่าจะมาจากไข้เลือดออกหรือไม่ แต่ก็ไม่พบการติดเชื้อไข้เลือดออกเช่นกัน ทางโรงพยาบาลได้ทำการตรวจหาสาเหตุหลายชนิดมาก ซึ่งผลการตรวจกำลังทยอยออกมา ต้องรอความชัดเจนอีกครั้ง หากทราบสาเหตุที่แน่ชัดจะแจ้งให้ทราบต่อไป


 (หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1190 วันที่ 3 - 9 สิงหาคม 2561)
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์