ผกก.โต้ ไม่ได้โกง 47 ล้านเงินสหกรณ์ เป็นการกู้มีหลักทรัพย์คุ้มหนี้
ลงทุนธุรกิจเครื่องตรวจวัตถุระเบิด สมาชิกหวั่นไม่ได้คืน
ลานนาโพสต์ยื่นตรวจสอบบันทึกประชุม
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 27 ส.ค.61 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.อุดม
พรหมสุรินทร์ ผู้บัญชาการศูนย์ฝึกอบรมโรงเรียนตำรวจภูธรภาค
5 อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง เพื่อสอบถามกรณีเงินจำนวน 47,443,500 บาท ที่ทาง พ.ต.อ.เพื่อน ดวงจินา ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง
ผกก.สภ.ปางน้ำประแสร์ จ.ระยอง
และตำแหน่งเป็นประธานสหกรณ์ออมทรัพย์โรงเรียนพลตำรวจภูธรภาค 5 อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ได้ยืมเงินทดรองจากสหกรณ์ออมทรัพย์ไป
จนสร้างความวุ่นวายให้กับสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ขอใช้สิทธิ์เบิกไม่ได้
พล.ต.ต.อุดม
พรหมสุรินทร์ กล่าวว่า ตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและเป็นสมาชิกแต่อย่างใด
เพียงแต่ได้กล่าวตักเตือนให้ผู้เกี่ยวข้องชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นเท่านั้น
ก่อนประสานให้ พ.ต.อ.เพื่อน ดวงจินา ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์โรงเรียนตำรวจภูธรภาค 5 มาพบผู้สื่อข่าว โดยมีนายบรรจง
ชัยขุนพล สหกรณ์จังหวัดลำปาง และ
ด.ต.สุรพันธ์ ศิริผัด เลขาสหกรณ์ออมทรัพย์ เข้าร่วมชี้แจงเกี่ยวกับเงินฉาวก้อนนี้ด้วย
พ.ต.อ.เพื่อน ดวงจินา กล่าวว่า
ปัญญาที่เกิดขึ้นตนยอมรับว่าเป็นผู้ดำเนินการขอกู้ด้วยตนเอง
โดยใช้หลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ของตนเอง ที่สำนักงานที่ดินประมาณราคาไว้ที่ 52 ล้านบาท มาค้ำโดยคณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ให้ความเห็นชอบถูกต้องตามระเบียบ
ซึ่งเงินจำนวน 47 ล้านบาทได้นำไปร่วมกับบริษัทหนึ่ง
เพื่อนำไปซื้อเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิด
และหุ่นยนต์ให้กับหน่วยงานของรัฐหน่วยหนึ่ง
เพื่อนำกำไรหรือปันผลมาให้สหกรณ์ออมทรัพย์ ซึ่งสัญญาร่วมกับบริษัทมี 2 สัญญา สัญญาแรกได้ส่งมอบอุปกรณ์หุ่นยนต์แล้ว
และได้รับเงินต้นและดอกเบี้ยรวมมูลค่าประมาณ 9 ล้านบาท ส่งให้ทางสหกรณ์แล้ว ส่วนสัญญาที่ 2 กำลังดำเนินการรับมอบอุปกรณ์ แต่ทางบริษัทได้ส่งดอกให้ก่อนจำนวน 8 แสนบาท
พ.ต.อ.เพื่อน
ยังยืนยันว่า กรณีที่คณะกรรมการแจ้งความดำเนินคดีกับประธานกรรมการ
เพียงเป็นคำแนะนำในการแก้ปัญหาในการบริหารงานภายใน โดยคณะกรรมการทุกคนยังยึดมั่นในความจริงใจในการทำงานของประธานกรรมการมาโดยตลอด
แต่เพื่อไม่ให้มีการกระทำผิดร่วมในการตัดสินใจที่คณะกรรมการได้ดำเนินการไปทั้งหมด
มีผลคงเดิมและได้รับดอกเบี้ยคงเดิม
ประธานจึงขอรับผิดชอบการตัดสินใจและจัดการหาที่ดินจำนวน 10 โฉนด มูลค่าประมาณ 50 ล้านบาทตามการประเมินของบริษัทประเมินที่ดิน
ซึ่งเป็นการค้ำประกันไม่ให้เกิดความเสียหายในเรื่องสัญญา
ซึ่งในเรื่องสัญญาการลงทุนซื้อเครื่องยิงปลดฉนวนระเบิด
ได้มีการจ่ายเงินคืนพร้อมดอกเบี้ยแล้วทั้งหมด เป็นเงินต้น 7.8 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 461,589.04 บาท
และคงค้างสัญญาที่ 2
ซึ่งได้รับการชำระดอกเบี้ยมาแล้วเป็นเงิน 841,582.94
บาท ซึ่งสัญญาที่ 2
จะครบกำหนดในการจ่ายเงินต้นคืนทั้งหมดภายในวันที่ 10 ก.ย.61
พร้อมชำระดอกเบี้ยทั้งหมด
รวมรายได้ 1.6 ล้านบาทเศษ
ส่วนเงินยืมทดรองจ่ายในส่วนของงานก่อสร้างในศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธร
ภาค 5 เพื่อเป็นการช่วยเหลือและตอบแทนองค์กร
ในฐานที่ให้สถานที่สหกรณ์ได้มีโอกาสดำเนินกิจการจนถึงทุกวันนี้
แต่ทุกอย่างที่ได้มีการยืมเงินทดรองจ่ายออกไปจะมีรายได้เป็นดอกเบี้ยตอบแทน ร้อยละ 10 ต่อปี
ซึ่งมีกำไรมากกว่าการปล่อยเงินกูให้สมาชิกถึง 3 เท่า
และรายได้ทั้งหมดที่เกิดขึ้น
จะกลายเป็นเงินปันผลให้กับสมาชิกสหกรณ์ทุกคนได้รับผลประโยชน์จากการประกอบกิจการดังกล่าว แต่ความเสี่ยงและความรับผิดชอบทั้งหมด
ประธานสหกรณ์จะเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว
ทั้งนี้ทุกสัญญาประธานสหกรณ์ เป็นผู้พิจารณาร่วมกับคณะกรรมการในการตัดสินใจ
เพื่อลงมติในการประชุมแต่ละครั้ง และมีรายงานผลการดำเนินการและติดตามมาโดยตลอด
ทางด้านสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์
ซึ่งมีจำนวนทั้งหมด 741 คน ในส่วนนี้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำที่โรงเรียนพลตำรวจภูธร
ภาค 5 และเป็นนักเรียนพลตำรวจที่กำลังศึกษาด้วย
กล่าวว่ารู้สึกไม่สบายใจ หวั่นว่า พ.ต.อ.เพื่อน ดวงจินา จะนำเงินจำนวน 47 ล้านบาท มาคืนให้สหกรณ์ไม่ได้ เนื่องจากเป็นเงินจำนวนมาก
ด้าน
ร.ต.อ.รุ่งเรืองชัย อุปกาละ
พนักงานสอบสวนในคดีนี้ เปิดเผยว่า
คดีนี้ได้รับแจ้งความจริง และได้สอบปากคำมาแล้วประมาณ 10 ปาก ในจำนวน 30 ปาก แต่เนื่องจากสอบยังไม่เสร็จจึงยังไม่ได้ส่งสำนวนให้อัยการฟ้อง
หากกรณี พ.ต.อ.เพื่อน ดวงจินา นำเงินก้อนนี้มาคืนเต็มจำนวนตามที่ได้กล่าวไว้
ทางคณะกรรมการสหกรณ์ หรือผู้ที่ได้รับมอบอำนาจจากสหกรณ์ จะถอนแจ้งความในคดีนี้ทันที
แต่ถ้านำเงินมาคืนได้ไม่ครบตามที่ตกลงกันไว้ ก่อนวันที่ 15 ก.ย.61 จะต้องดำเนินคดีข้อหายักยอกทรัพย์
ส่วนด้านวินัยนั้นก็เป็นเรื่องผู้บังคับบัญชาระดับสูงที่จะมีความเห็นเป็นอย่างไร
พร้อมกันนี้ทางหนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์
ได้ยื่นหนังสือขอดูข้อมูลข่าวสารของทางราชการ เพื่อขอตรวจสอบรายงานการประชุม
กรณีที่คณะกรรมการมีมติให้มีการยืมเงินทดรองราชการ 47
ล้านบาทที่เป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้ด้วย
สำหรับบรรยากาศภายในสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรภาค
5
ยังคงมีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงามตามปกติ
และมีลูกสมาชิกเข้ามาชำระเงินตามปกติ
แต่เมื่อทราบว่ามีสื่อมวลชนเข้ามาก็ต่างพยายามหลบเลี่ยงไม่ให้ข้อมูล
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น