วันศุกร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2561

ผกก.ยันบริสุทธิ์ ไม่โกงแต่กู้ลงทุนธุรกิจ สมาชิกกลัวสูญเงิน สื่อขอดูมติประชุม

จำนวนผู้เข้าชม web counter

ผกก.โต้ ไม่ได้โกง 47 ล้านเงินสหกรณ์ เป็นการกู้มีหลักทรัพย์คุ้มหนี้ ลงทุนธุรกิจเครื่องตรวจวัตถุระเบิด สมาชิกหวั่นไม่ได้คืน ลานนาโพสต์ยื่นตรวจสอบบันทึกประชุม

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 27 ส.ค.61  ผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.อุดม พรหมสุรินทร์  ผู้บัญชาการศูนย์ฝึกอบรมโรงเรียนตำรวจภูธรภาค 5 อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง เพื่อสอบถามกรณีเงินจำนวน 47,443,500 บาท ที่ทาง พ.ต.อ.เพื่อน ดวงจินา ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ผกก.สภ.ปางน้ำประแสร์ จ.ระยอง และตำแหน่งเป็นประธานสหกรณ์ออมทรัพย์โรงเรียนพลตำรวจภูธรภาค 5 อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง  ได้ยืมเงินทดรองจากสหกรณ์ออมทรัพย์ไป จนสร้างความวุ่นวายให้กับสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ขอใช้สิทธิ์เบิกไม่ได้

พล.ต.ต.อุดม พรหมสุรินทร์ กล่าวว่า ตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและเป็นสมาชิกแต่อย่างใด เพียงแต่ได้กล่าวตักเตือนให้ผู้เกี่ยวข้องชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นเท่านั้น ก่อนประสานให้ พ.ต.อ.เพื่อน ดวงจินา ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์โรงเรียนตำรวจภูธรภาค 5  มาพบผู้สื่อข่าว โดยมีนายบรรจง ชัยขุนพล สหกรณ์จังหวัดลำปาง  และ ด.ต.สุรพันธ์ ศิริผัด เลขาสหกรณ์ออมทรัพย์ เข้าร่วมชี้แจงเกี่ยวกับเงินฉาวก้อนนี้ด้วย 

พ.ต.อ.เพื่อน  ดวงจินา กล่าวว่า ปัญญาที่เกิดขึ้นตนยอมรับว่าเป็นผู้ดำเนินการขอกู้ด้วยตนเอง โดยใช้หลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ของตนเอง ที่สำนักงานที่ดินประมาณราคาไว้ที่ 52 ล้านบาท มาค้ำโดยคณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ให้ความเห็นชอบถูกต้องตามระเบียบ ซึ่งเงินจำนวน 47 ล้านบาทได้นำไปร่วมกับบริษัทหนึ่ง เพื่อนำไปซื้อเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิด และหุ่นยนต์ให้กับหน่วยงานของรัฐหน่วยหนึ่ง เพื่อนำกำไรหรือปันผลมาให้สหกรณ์ออมทรัพย์ ซึ่งสัญญาร่วมกับบริษัทมี 2 สัญญา  สัญญาแรกได้ส่งมอบอุปกรณ์หุ่นยนต์แล้ว และได้รับเงินต้นและดอกเบี้ยรวมมูลค่าประมาณ 9 ล้านบาท  ส่งให้ทางสหกรณ์แล้ว ส่วนสัญญาที่ 2 กำลังดำเนินการรับมอบอุปกรณ์ แต่ทางบริษัทได้ส่งดอกให้ก่อนจำนวน 8 แสนบาท  

 

พ.ต.อ.เพื่อน ยังยืนยันว่า กรณีที่คณะกรรมการแจ้งความดำเนินคดีกับประธานกรรมการ เพียงเป็นคำแนะนำในการแก้ปัญหาในการบริหารงานภายใน โดยคณะกรรมการทุกคนยังยึดมั่นในความจริงใจในการทำงานของประธานกรรมการมาโดยตลอด  แต่เพื่อไม่ให้มีการกระทำผิดร่วมในการตัดสินใจที่คณะกรรมการได้ดำเนินการไปทั้งหมด มีผลคงเดิมและได้รับดอกเบี้ยคงเดิม  ประธานจึงขอรับผิดชอบการตัดสินใจและจัดการหาที่ดินจำนวน 10 โฉนด มูลค่าประมาณ 50 ล้านบาทตามการประเมินของบริษัทประเมินที่ดิน ซึ่งเป็นการค้ำประกันไม่ให้เกิดความเสียหายในเรื่องสัญญา

ซึ่งในเรื่องสัญญาการลงทุนซื้อเครื่องยิงปลดฉนวนระเบิด ได้มีการจ่ายเงินคืนพร้อมดอกเบี้ยแล้วทั้งหมด เป็นเงินต้น 7.8 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 461,589.04 บาท และคงค้างสัญญาที่ 2 ซึ่งได้รับการชำระดอกเบี้ยมาแล้วเป็นเงิน 841,582.94 บาท  ซึ่งสัญญาที่ 2 จะครบกำหนดในการจ่ายเงินต้นคืนทั้งหมดภายในวันที่ 10 ก.ย.61 พร้อมชำระดอกเบี้ยทั้งหมด  รวมรายได้ 1.6 ล้านบาทเศษ 

ส่วนเงินยืมทดรองจ่ายในส่วนของงานก่อสร้างในศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธร ภาค 5 เพื่อเป็นการช่วยเหลือและตอบแทนองค์กร ในฐานที่ให้สถานที่สหกรณ์ได้มีโอกาสดำเนินกิจการจนถึงทุกวันนี้ แต่ทุกอย่างที่ได้มีการยืมเงินทดรองจ่ายออกไปจะมีรายได้เป็นดอกเบี้ยตอบแทน ร้อยละ 10 ต่อปี  ซึ่งมีกำไรมากกว่าการปล่อยเงินกูให้สมาชิกถึง 3 เท่า และรายได้ทั้งหมดที่เกิดขึ้น จะกลายเป็นเงินปันผลให้กับสมาชิกสหกรณ์ทุกคนได้รับผลประโยชน์จากการประกอบกิจการดังกล่าว  แต่ความเสี่ยงและความรับผิดชอบทั้งหมด ประธานสหกรณ์จะเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว  ทั้งนี้ทุกสัญญาประธานสหกรณ์ เป็นผู้พิจารณาร่วมกับคณะกรรมการในการตัดสินใจ เพื่อลงมติในการประชุมแต่ละครั้ง และมีรายงานผลการดำเนินการและติดตามมาโดยตลอด

ทางด้านสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ ซึ่งมีจำนวนทั้งหมด 741 คน ในส่วนนี้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำที่โรงเรียนพลตำรวจภูธร ภาค 5 และเป็นนักเรียนพลตำรวจที่กำลังศึกษาด้วย กล่าวว่ารู้สึกไม่สบายใจ หวั่นว่า พ.ต.อ.เพื่อน ดวงจินา จะนำเงินจำนวน 47 ล้านบาท มาคืนให้สหกรณ์ไม่ได้ เนื่องจากเป็นเงินจำนวนมาก

ด้าน ร.ต.อ.รุ่งเรืองชัย อุปกาละ  พนักงานสอบสวนในคดีนี้ เปิดเผยว่า  คดีนี้ได้รับแจ้งความจริง และได้สอบปากคำมาแล้วประมาณ 10 ปาก ในจำนวน 30 ปาก  แต่เนื่องจากสอบยังไม่เสร็จจึงยังไม่ได้ส่งสำนวนให้อัยการฟ้อง หากกรณี พ.ต.อ.เพื่อน ดวงจินา นำเงินก้อนนี้มาคืนเต็มจำนวนตามที่ได้กล่าวไว้ ทางคณะกรรมการสหกรณ์ หรือผู้ที่ได้รับมอบอำนาจจากสหกรณ์ จะถอนแจ้งความในคดีนี้ทันที แต่ถ้านำเงินมาคืนได้ไม่ครบตามที่ตกลงกันไว้ ก่อนวันที่ 15 ก.ย.61  จะต้องดำเนินคดีข้อหายักยอกทรัพย์ ส่วนด้านวินัยนั้นก็เป็นเรื่องผู้บังคับบัญชาระดับสูงที่จะมีความเห็นเป็นอย่างไร

พร้อมกันนี้ทางหนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ได้ยื่นหนังสือขอดูข้อมูลข่าวสารของทางราชการ เพื่อขอตรวจสอบรายงานการประชุม กรณีที่คณะกรรมการมีมติให้มีการยืมเงินทดรองราชการ 47 ล้านบาทที่เป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้ด้วย
สำหรับบรรยากาศภายในสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรภาค 5 ยังคงมีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงามตามปกติ และมีลูกสมาชิกเข้ามาชำระเงินตามปกติ แต่เมื่อทราบว่ามีสื่อมวลชนเข้ามาก็ต่างพยายามหลบเลี่ยงไม่ให้ข้อมูล

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1194 วันที่ 31 สิงหาคม - 6 กันยายน 2561)


Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์