
ในยุคเศรษฐกิจผันผวน หลายธุรกิจต้องปรับตัวกันถ้วนหน้า หลายโรงงานต้องพัฒนาสินค้าเป็นมีมูลค่าสูงขึ้นเข้าทำนองทำน้อยแต่สร้างรายได้ได้มาก
ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ และทำการตลาดที่เปลี่ยนมาใช้ออนไลน์กันมากขึ้น เหมือนอย่างที่ ‘อารีเซรามิค’ปรับตัวหนีตาย
อารีเซรามิค หนึ่งในโรงงานเซรามิคเล็กๆที่ต้องปรับตัวเป็นอย่างมาก
หลังประสบกับวิกฤตเศรษฐกิจทำให้ยอดขายตกลง อีกทั้งผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงในโลกการตลาดที่การค้าขายออนไลน์เข้ามามีบทบาทมากขึ้น
จากที่โรงงานแห่งนี้เคยผลิตถ้วยตราไก่ขายแข่งขันในตลาดเซรามิคมายาวนาน ต้องหันมาพัฒนาสินค้าใหม่ๆเพื่อหาทางรอดด้วยการหันมาผลิตงานชิ้นเล็กๆแต่เอกลักษณ์
เช่น กระดุม พวงกุญแจ และเครื่องประดับเซรามิก
ที่มีต้นทุนน้อยแต่มีมูลค่าทางการการตลาดสูงกว่า เปิดตัวสินค้ารูปแบบใหม่ในโครงการ
จัดงานแสดงสินค้าที่ได้รับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ตาม “โครงการพัฒนาและส่งเสริมสินค้าเซรามิคและหัตถอุตสาหกรรมของจังหวัดลำปาง”
โดยสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดลำปาง ที่ ศูนย์การเซ็นทรัลพลาซาลำปาง
ซึ่งเป็นจัดแสดงผลงานผลิตภัณฑ์หรือบรรจุภัณฑ์ต้นแบบของโครงการฯ ที่ได้รับการพัฒนา ออกแบบ
ให้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เซรามิคในรูปแบบใหม่ โดยมีการผสมผสานผลิตภัณฑ์จากไม้และหรือผ้า
ให้ตอบสนองกับความต้องการของตลาดมากขึ้น
‘เล็ก’ อารีรัตน์ โตเมศร หญิงแกร่ง เจ้าของโรงงานอารีเซรามิค บอกว่า จากเดิมโรงงานเคยมีคนงานกว่าสิบคน
แต่จากภาวการณ์แข่งขันการตลาดท่ามกลางเศรษฐกิจชะลอตัว ค่าแรงและต้นทุน วัตถุดิบต่างๆปรับราคาสูงขึ้น
ทำให้ต้องแบกรับต้นทุนมากขึ้นแต่รายได้ถดถอย จากผลกระทบหลายประการ
ทำให้ธุรกิจภาคการผลิตเซรามิคประสบปัญหาต่อความอยู่รอด
“พี่ใช้เวลาหลายปีในการต่อสู้กับภาวะเศรษฐกิจ
และการแข่งขันในธุรกิจเซรามิคที่มีคู่แข่งมากมายทั้งภายในและภายนอกประเทศ แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป
ความต้องการตลาดก็เปลี่ยนตาม เดิมเราเป็นโรงงานทำถ้วยตราไก่
เป็นงานเพ้นท์แบบดั้งเดิม เล็กๆ จากที่เคยมีแรงงานสิบกว่าคน จนต้องทำคนเดียว
หากจะพัฒนา จะเปลี่ยนรูปแบบกระบวนการผลิตก็ต้องลงทุนสูงมาก
มีทางเดียวคือต้องหาทางลดต้นทุน และเลือกทำสินค้าที่ไม่ต้องอาศัยแรงงาน พี่จึงหันมาศึกษา ทดลองทำสินค้าชิ้นเล็กๆ ใช้วัตถุดิบที่มีอยู่
มาทำ เครื่องประดับ กระดุม ต่างหู ขายที่ถนนคนเดินกาดกองต้า ปรากฏว่าได้รับความสนใจจากลูกค้ามาก
และยังพบว่าสินค้าแนวนี้ตลาดยังมีความต้องการสูง และอีกยังมีดีไซน์มีลูกเล่นให้เราขยับได้อีกหลายแนว”
ท่ามกลางวิกฤติที่ยังพอมีโอกาส ‘อารีรัตน์’ เริ่มหันมาศึกษาการสร้างชิ้นงานเซรามิครูปแบบใหม่ที่ตนเองไม่เคยทำมาก่อน
ประกอบกับการเข้าร่วมโครงการพัฒนาและหาความรู้ด้านต่างๆร่วมกับหน่วยงานของรัฐ
และที่ศูนย์พัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องเคลือบดินเผาลำปาง ทำให้เกิดแนวทางที่ชัดเจนมากขึ้นเป็นลำดับ
โดยเน้นเป็นงานแฮนด์เมดงานปั้นมือ สร้างชิ้นงานรูปแบบต่างๆ
มาประกอบกันเป็นส่วนประกอบของ กระดุมเซรามิค ต่างหู สร้อยคอ นำมารวมกับวัสดุธรรมชาติ
อย่าง เชือกถักจากใยกัญชงที่สื่อถึงวัฒธรรมการแต่งกายของชาวเขาเผ่าม้ง และการนำพู่ที่ทำจากเส้นใยสับปะรดของจังหวัดลำปางมาเพิ่มมูลค่าให้ต่างหูเซรามิคที่ผสมผสานกับลูกปัดไม้
ส่วนกระดุมเซรามิคก็วาดลายไก่ที่ยังคงเอกลักษณ์ถ้วยตราไก่ลำปางลงในชิ้นงาน
กระดุมเซรามิคยังมีความทนทายซักด้วยเครื่องซักผ้าก็ยังได้
ในด้านการตลาด อารีรัตน์บอกว่า แม้จะเป็นงานแนวใหม่ที่ตนทำ
แต่ก็เคยมีผู้ประกอบการเซรามิคบางรายทำมานานแล้ว
แต่ก็เชื่อว่าความต้องการและส่วนแบ่งตลาดยังมีสูง จึงมุ่งมั่นจะค้นหาแนวทางที่จะผลิตชิ้นงานที่เป็นเอกลักษณ์
ซึ่งขณะนี้มีเพียงสร้อยคอเครื่องประดับเซรามิคเคลือบแก้ว และ งานกระดุมลวดลายอิสระ
ที่ใช้ดินทนไฟ เผาในอุณหภูมิ 1,200 องศาเซลเซียส มีความคงทน และสามารถใช้กับเสื้อผ้าพื้นเมืองที่ยังคงบ่งบอกความเป็นเอกลักษณ์ของลำปางให้เข้ากันอย่าลงตัว
ส่วนเครื่องประดับก็ เน้นการทำชิ้นงานที่เรียบง่ายให้สามารถเข้ากับ
ชุดแต่งกายได้หลากหลายแนว
“งานของพี่ทำขายมานานกว่า 1 ปี เป็นงานที่ไม่ต้องอธิบายอะไรมาก หากลูกค้าเห็น และชอบก็ซื้อเลย
แล้วแต่รสนิยม และสไตล์ของลูกค้าว่าชอบงานแนวไหนเราก็มีให้เลือก
ขณะนี้ขายปลีกที่กาดกองต้า มีช๊อปให้ลูกค้ามาวาดลายเองได้ด้วย นอกจากนี้ตอนนี้ก็เพิ่มช่องทางขายออนไลน์ ผ่านเฟซบุ๊คเพจ
‘อารีเซรามิค’ และบางส่วนก็ขายส่งให้กับร้านค้าต่างๆอีกด้วย
การเปลี่ยนแนวทางการผลิต พัฒนาผลิตภัณฑ์ และการเพิ่มช่องทางการขายไปพร้อมๆกันทำให้สามารถอยู่ได้ในภาวะของการปรับตัว
เชื่อว่าหากพัฒนาไปอีก ‘อารีเซรามิค’ ก็จะกลับมามีชีวิตชีวาและยังคงอยู่ในกลุ่มโรงงานเซรามิคที่พัฒนาตัวเองไปได้”
การเปลี่ยนแปลงอาจไม่ง่าย แต่การพัฒนานั้นทำได้เสมอ ‘อารีเซรามิค’ จะเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่ก้าวข้ามความยากลำบากของความอยู่รอดในโลกของธุรกิจโรงงานเซรามิคในยุคนี้
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1192 วันที่ 17 - 23 สิงหาคม 2561)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น