
มีเรื่องราวหาวโห่
มาให้คนลำปางพูดถึงในเรื่องเศรษฐกิจลำปางที่อ้างว่าเงียบเหงา
เจ้าของประกอบการร้านค้าในตัวเมืองปิดกิจการ หรือไม่ก็นั่งตบยุงกันเป็นแถว
เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาช่วยเหลือ แต่ก็ไม่มีข้อเสนอแนะจากฝ่ายใดว่าควรช่วยเหลืออย่างไร
นอกเหนือจากแนะนำให้เขาช่วยเหลือตัวเองให้พ้นจากวิกฤติเศรษฐกิจที่เขาเจอด้วยตัวเอง
ขณะที่หลายฝ่ายก็บอกว่า
ร้านค้าในลำปางเองก็เจอปัญหา ที่จอดรถ เพราะลูกค้าจอดรถกันไม่สะดวก
แถมเจ้าของร้านบางรายก็เอาเก้าอี้มากั้น วางจองเป็นที่จอดรถส่วนบุคคลกันไปเสีย
ขณะที่ธุรกิจรายใหญ่ก็ยึดจองเอาฟุตบาตเป็นของตัวเองข้อนี้กลับไม่มีใครพูดถึง
เรื่องเศรษฐกิจท้องถิ่นล้ำลึกกว่าที่จะมาพูดกันทางโซเชียล
แค่วิจารณ์กันสนุกปาก
เพราะเรื่องนี้ควรต้องถึงนักการเมืองที่เกี่ยวข้องในระดับท้องที่ นั่นคือ สมาชิกสภาเทศบาล
เป็นปากเสียงเรื่องของที่จอดรถรา
และการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างใดอย่างหนึ่งให้เล็งผลเป็นรูปธรรม ส่วนเรื่องการทำมาค้าขายก็ต้องกลับไปมองถึงรากเหง้าของปัญหาว่ามาจากพิษเศรษฐกิจทำให้ผู้บริโภคใช้จ่ายในทางเลือกที่ที่ที่สุด
ธุรกิจท้องถิ่นนั้นๆ ตอบโจทย์เขาได้ตรงเป้าหรือยัง หากยัง ผู้ซื้อมีส่วนตัดสินใจ
ไม่ใช่เรียกร้องให้ส่วนราชการมาอุ้มหนุนแต่อย่างใด
เรื่องของนักการเมืองก็เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาเอาว่า
การเดินสู่ตำแหน่งของเขานั้นตอบโจทย์ความต้องการพัฒนาบ้านเมืองตามที่เขาคุยฟุ้งไว้ไหม
ใครเลือกใครก็ ไปบอกเขาให้เป็นปากเสียงแทน ถ้าเขาไม่ทำตามที่พูด...ก็ต้องเลือกคนใหม่ในสมัยหน้า
เพราะขณะนี้ว่าที่ผู้สมัครเปิดตัวเดินกันขวักไขว่ รูปภาพในโซเชียล เฟซบุ๊ค ไลน์ ก็เริ่มอวดการพบปะพี่น้องประชาชนและผู้ประกอบการร้านรวงในเขตเทศบาลกันคึกคัก
ดังนั้นต้องแยกให้ออก
พิจารณาให้ถูกเรื่องของเศรษฐกิจท้องถิ่น กับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องในการพัฒนา
เพราะได้ข่าวว่าคนที่จุดประเด็นนั้นก็เป็นคนอยู่ในสายการเมือง จึงมักชอบคุยเฟื่อง
แต่ไม่ได้ตามต่อเรื่องว่าใครจะเป็นผู้ลงมือทำ
พิษลมปากจึงมาแรงกว่าพิษเศรษฐกิจในยุคโซเชียลนั้นแล
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1191 วันที่ 10 - 16 สิงหาคม 2561)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น