
กองทุนไฟฟ้าโชว์ผลงานเบรนคลาวด์
ฝึกเด็กแม่เมาะใช้ทักษะภาษาอังกฤษตั้งแต่ชั้น ป.1
หนุนทุนการศึกษาหัวละ 7,200 บาทต่อปี ผลงานเยี่ยม ฟัง พูด
อ่าน เขียน ได้คล่อง เชื่ออนาคตเด็กแม่เมาะจะใช้ภาษาอังกฤษเก่งที่สุดในจังหวัด ขณะเดียวกันรองผู้ว่าฯเผยการจัดทำงบปี
62 มีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี
เมื่อวันที่ 10
ก.ค.61 ที่ผ่านมา คณะกรรมการกองทุนพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า(คพรฟ.)
ได้จัดแถลงข่าวการดำเนินการแผนงานงบประมาณโครงการชุมชนประจำปี พ.ศ.2562 กองทุนพัฒนาไฟฟ้าโรงไฟฟ้าแม่เมาะ
จ.ลำปาง โดยมีนายศรีโรจน์ นิมมานพัชรินทร์
รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ในฐานรองประธาน คพรฟ.เป็นประธาน พร้อมด้วยนายพร้อมพงษ์ วงศ์มณีนิล ผอ.กกพ.เขต 1 (เชียงใหม่) เลขานุการ คพรฟ.
นายนิมิตร ผดุงศิลป์ไพโรจน์
นายอำเภอแม่เมาะ ผศ.ดร.สมาน ฟูแสง
ประธานอนุกรรมการกลั่นกรองด้านการศึกษา นางพนิดา ทักษิณาพิมุข
นายกสมาคมพัฒนาแม่เมาะ และคณะกรรมการ คพรฟ. ร่วมกันให้ข้อมูล โดยในปีงบประมาณ 2562
กองทุนได้เน้นความสำคัญในการพิจารณาโครงการต่างๆอย่างละเอียด รัดกุม
พร้อมทั้งปรับปรุงเกณฑ์การสนับสนุนโครงการชุมชน
เน้นผลการดำเนินงานที่ทำให้เกิดความยั่งยืนและเป็นรูปธรรมมากขึ้น
นายศรีโรจน์ นิมมานพัชรินทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า การจัดทำโครงการงบประมาณปี 2562
เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือน ต.ค.60
และได้ผ่านความเห็นชอบจากผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เสนอไปยัง
กกพ.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการจัดทำงบประมาณปี 62 เปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น จาก 5 ปีที่ผ่านมา
อย่างที่ทราบกันดีว่าโครงการไม่ตอบโจทย์การแก้ปัญหาในพื้นที่อย่างแท้จริง
มีการซื้อของแจกมากมาย ซึ่งตามหลักการไม่สามารถทำได้
ในส่วนของสิ่งปลูกสร้างและครุภัณฑ์ยังขาดการดูแลรักษา
ไม่มีการขึ้นทะเบียนทรัพย์สิน และอีกหลายโครงการไม่สามารถดำเนินการในพื้นที่ได้
เพราะติดปัญหาการขออนุญาตจากป่าไม้
ดังนั้น การจัดทำโครงการในปี 62
จึงได้มีการประชุมชี้แจงร่วมกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายก อปท.ตั้งแต่ต้นปี 61 เพื่อกำหนดแนวทางการจัดทำงบประมาณ โดยกำหนดว่าการเสนอโครงการจะต้องเสนอโดยกรรมการหมู่บ้านผ่านการประชาคม
อยู่ในแผนพัฒนาหมู่บ้าน
ซึ่งเดิมโครงการไม่ผ่านการประชาคมหมู่บ้านอย่างแท้จริง ด้านครุภัณฑ์และสิ่งสาธารณะประโยชน์ ต้องมี
อปท.รับมอบไปดูแล จัดงบบำรุงรักษา รวมทั้งโครงการต้องมีการอนุญาตให้ใช้พื้นที่แล้ว
เพราะที่ผ่านมามีหลายโครงการได้รับการอนุมัติงบประมาณแต่ดำเนินการไม่ได้ อีกทั้งโครงการต้องใช้ประโยชน์ได้จริง
มีความคุ้มค่าของงบประมาณ
จากจัดซื้อครุภัณฑ์ต้องมีสเป็คกำหนดชัดเจน มีการอิงราคากลาง โครงการต้องอยู่ในแผนพัฒนาหมู่บ้าน อำเภอ ไม่ซ้ำซ้อนกับงบปกติ ที่ดินและสิ่งก่อสร้างต้องได้รับการขึ้นทะเบียนเพื่อการบำรุงรักษา
รองผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าวอีกว่า นอกจากนั้นยังมีการเปลี่ยนแปลงด้านการจัดสรรงบประมาณ
เดิมงบ 70 เปอร์เซ็นต์สำหรับพื้นที่ อ.แม่เมาะ จะแบ่งเป็นให้หมู่บ้าน 3 ส่วน คพรต.3.5 ส่วน คพรฟ.3.5ส่วน แต่ได้มีการร้องขอจากกำนัน
ผู้ใหญ่บ้าน ขอพิจารณาให้เพิ่มงบในส่วนของหมู่บ้านเป็น 5
ส่วน และปรับลดของ คพรต.และคพรฟ.เหลือ 2.5 ส่วน
ซึ่งน่าจะเป็นผลดีต่อการตอบสนองความต้องการในหมู่บ้าน โดยในส่วนนี้จะมีการกันงบ 10 เปอร์เซ็นต์ เพื่อนำมาดำเนินการเรื่องแหล่งน้ำโดยเฉพาะ
เพราะเป็นปัญหาหลักของ อ.แม่เมาะ
นอกจากนั้น นายศรีโรจน์ ยังได้กล่าวถึงการศึกษา
ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในของการพัฒนาเด็กและเยาวชนในพื้นที่ อ.แม่เมาะ โดยทางกองทุนได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ โดยการสนับสนุนทุนการศึกษาให้เด็กนักเรียนชั้น
ป.1 ใน อ.แม่เมาะ ทั้งหมด 232 คน ทุนละ 7,200 บาทต่อปี เพื่อให้เด็กได้เรียนด้านภาษาอังกฤษ
ตามหลักสูตรที่เรียกว่าเบรนคลาวด์ (Braincloud) เด็กจะมีโอกาสฝึกพูดโต้ตอบกับครูผู้สอนภาษาอังกฤษที่เป็นเจ้าของภาษา
โดยการสื่อสารผ่านการเรียนการสอนที่ถ่ายทอดสดทางไกล
ซึ่งมุ่งเน้นให้นักเรียนได้ฝึกฝนทักษะการเรียนภาษาในด้านต่างๆ คือ การฟัง การพูด
การอ่าน การเขียน จุดเด่นของเบรนคลาวด์ คือ
การสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ให้นักเรียนได้ซึมซับภาษาจากครูผู้สอน
ซึ่งได้พัฒนามาจากวิธีการเดียวกันกับการที่เด็กเรียนรู้ภาษาอย่างเป็นธรรมชาติจากแม่ตั้งแต่แรกเกิด
เช่น เด็กจะฟังพ่อแม่ก่อนแล้วจึงเริ่มพูดและเรียกพ่อแม่ได้
จากนั้นค่อยอ่านและเขียนเป็นเรื่องเป็นราว
ไม่ใช่เหมือนการสอนตามสถานศึกษาทั่วไปที่เริ่มให้เด็กหัดเขียนก่อน แล้วฝึกการพูดทีหลัง
ทั้งนี้
ทางโรงเรียนจะมีการสอน วันละ 2
ชั่วโมง สัปดาห์ละ 4
วัน โดยเรียนออนไลน์กับเจ้าของภาษา สลับกับการใช้อุปกรณ์แทบเล็ตที่มีโปรแกรมเฉพาะ
สามารถโต้ตอบกันได้แบบทันที โดยที่ผ่านมา
จากการสอนเด็กนักเรียนรุ่นแรกชั้นประถมปีที่ 1
โรงเรียนวัดนาแขม ต่อเนื่องถึงชั้นประถม 2 ในปีนี้
จะพบว่าเด็กสามารถใช้ภาษาได้อย่างน่าพอใจ
สามารถเรียนรู้และพูดคุยโต้ตอบได้เป็นอย่างดี
กล้าที่จะแสดงออกและคุยกับครูต่างชาติได้
ผศ.ดร.สมาน
ฟูแสง กล่าวเพิ่มเติมว่า ถ้าเด็กได้เรียนหลักสูตรเบรนคลาวด์ 6 ปี
อย่างน้อยจะมีพื้นฐานและทักษะทางภาษา และเชื่อว่าหากเด็กได้เรียนต่อเนื่องใน
อ.แม่เมาะ ไปอีก 3 ปี ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ซึ่งจะมีโครงการครูต่างชาติเข้ามา เด็กจะได้สัมผัสกับครูตัวจริง ดังนั้นเด็กจะได้ใช้ภาษาตั้งแต่
ป.1 จนจบ ม.6 ถ้ายังศึกษาอยู่ใน
อ.แม่เมาะ เป็นไปได้ว่า อีก 6 ปี ข้างหน้า หรืออย่างมากที่สุดใน
10 ปีข้างหน้า ท้าทายได้ว่าเด็กที่จบจาก อ.แม่เมาะ
ความสามารถภาษาอังกฤษจะดีที่สุด
ทั้งนี้
ในการแถลงข่าว ได้นำเด็กนักเรียนจากโรงเรียนวัดบ้านแขม อ.แม่เมาะ
ที่เรียนภาษาอังกฤษแบบเบรนคลาวด์ มาโชว์การพูดและออกเสียงภาษาอังกฤษ
ให้ผู้ร่วมฟังแถลงข่าวได้ชมด้วย ซึ่งพบว่าเด็กสามารถพูดคุยและโต้ตอบ
ตลอดจนการออกเสียงที่ถูกต้องใกล้เคียงเจ้าของภาษา
ซึ่งหากได้รับการฝึกฝนเรียนรู้ต่อเนื่องไปจนถึงระดับที่สูงขึ้น
เด็กจะสามารถเรียนรู้ และใช้ภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดีเยี่ยม
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1192 วันที่ 17 - 23 สิงหาคม 2561)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น