ชั่งตวงวัด
พร้อมเจ้าหน้าที่คลังปิโตรเลียมลำปาง เข้าตรวจสอบร้านจำหน่ายแก๊สแอลพีจี
หลังรับร้องเรียนน้ำหนักแก๊สไม่ได้มาตรฐาน ผลตรวจพบน้ำหนักแก๊สหายไป 3
กิโลกรัมจริง พร้อมเข้าตรวจโรงบรรจุแก๊สต้นทาง เจ้าของยันมีมาตรฐาน ทั้งฝ่ายโรงงาน และผู้เสียหายเข้าลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน
เมื่อวันที่
26 ก.ย. 61 นายสยมพร
รองเนียม นักวิชาการชั่งตวงวัดชำนาญการ
พร้อมด้วยนายอาฤญช์ มลิหอม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัย คลังปิโตรเลียมลำปาง นางชูจิตต์ มหายศนันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทลำปาง
LPG จำกัด เจ้าหน้าที่และสื่อมวลชน
ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบร้านราชาแก๊ส ตั้งอยู่ถนนจามเทวี ต.เวียงเหนือ อ.เมืองลำปาง
หลังได้รับการร้องเรียนว่าร้านดังกล่าวมีการบรรจุแก๊สไม่เป็นไปตามที่มาตรฐานกำหนด ซึ่งน้ำหนักของแก๊สหายไปประมาณ
3 กิโลกรัมเศษ
โดยที่ร้านดังกล่าว
เปิดจำหน่ายอุปกรณ์เครื่องครัวเครื่องใช้ภายในบ้าน เตาแก๊ส และถังแก๊สแอลพีจี ทางเจ้าหน้าที่ชั่งตวงวัดได้ทำการตรวจสอบถังแก๊ส
พบว่าบางถังมีการแกะซิปล็อคบริเวณท่อต่อแก๊สออกไป (ลักษณะเป็นพลาสติกสีแดง) ซึ่งตัวซิปล็อคจะต้องปิดมาจากโรงบรรจุ
และมีรหัสแจ้งว่าเป็นโรงบรรจุที่ไหน จึงได้สุ่มนำถังแก๊สแอลพีจีที่วางจำหน่ายภายในร้านประมาณ
8 ถัง ที่ยังมีซิปล็อคอยู่ มาชั่งน้ำหนักเพื่อตรวจสอบว่าน้ำหนักขาดหายไปตามที่ได้รับแจ้งหรือไม่
ปรากฏว่าถังที่ได้นำมาชั่งนั้น มีน้ำหนักเฉลี่ยประมาณ 28
กิโลกรัม หายไปจริงถังละประมาณ 3 กิโลกรัม โดยทางเจ้าของร้านไม่ได้ออกมาพูดคุยหรือให้ข้อมูลแต่อย่างใด
เพียงแต่ให้ลูกชายออกมาสังเกตการณ์ การทำงานของเจ้าหน้าที่เท่านั้น
นายสยมพร
นักวิชากรชั่งตวงวัดชำนาญการ กล่าววา จากการตรวจสอบพบว่าน้ำหนักของแก๊สหายไปจริง
ซึ่งทางสำนักงานชั่งตวงวัดสามารถทำการเปรียบเทียบปรับได้เลย หากเป็นบุคคลธรรมดา
ปรับ 10,000 บาท ถ้าเป็นนิติบุคคลปรับเพิ่มอีก
10,000 บาท ส่วนการดำเนินคดีนั้น
หากทางผู้เสียหายเข้าไปแจ้งความร้องทุกข์ก็จะโดนอีกข้อหาหนึ่ง
จากนั้นได้เดินทางไปตรวจสอบที่โรงบรรจุแก๊สของบริษัทลำปาง
LPG จำกัด หมู่ 6 ต.พิชัย อ.เมืองลำปาง ซึ่งร้านดังกล่าวได้รับแก๊สจากโรงบรรจุแห่งนี้มาจำหน่าย
โดยนางชูจิตต์ มหายศนันท์ กรรมการผู้จัดการ ได้นำเข้าตรวจสอบและดูขั้นตอนการผลิต
การชั่งน้ำหนักถังแก๊สก่อนออกจำหน่าย ซึ่งทุกถังจะมีน้ำหนักอยู่ 31 กิโลกรัม
นางชูจิตต์
กล่าวยืนยันว่า โรงบรรจุแก๊สแห่งนี้เป็นตัวแทนมา 30 ปี บรรจุวันละประมาณ 40
ตัน หรือประมาณ 1,300 ตันต่อเดือน ทางโรงบรรจุได้ทำตามมาตรฐานที่ทางกฎหมายกำหนดไว้ทุกประการ
และมีระบบการอัดแก๊สอัตโนมัติเป็นโรงแรกของภาคเหนือ ลงทุนไป 10 ล้านบาท โดยก่อนทำงานจะมีการตรวจสอบน้ำหนัก
มีพนักงานคอยตรวจสอบตาชั่งกลางว่าน้ำหนักผิดพลาดไหม จะมีการชั่งน้ำหนักถังแก๊สทุกถังให้น้ำหนักใกล้เคียงกันอยู่ที่
31 กิโลกรัม บวกลบไม่เกิน 2.5 ขีด
ถ้าถังไหนเกิดเครื่องก็จะทำการดีดออกอัตโนมัติ นอกจากนั้นจะมีรถโมบายมาตรวจทุก 2-4 เดือน และได้รางวัลโรงงานบรรจุดีเด่นของ ปตท.ทุกปี จึงมั่นใจได้ว่าการบรรจุแก๊สที่โรงงานแห่งนี้
ไม่มีน้ำหนักขาด และได้มาตรฐานอย่างแน่นอน
ต่อมาเวลา
14.55 น. นางชูจิตต์ มหายศนันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทลำปาง LPG จำกัด ได้เข้าพบ
พ.ต.ต.ชรินทร์ทิพย์ หอมตระกูล รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองลำปาง เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
ระบุว่า ตนได้ทราบจากเพจลำปางซิตี้ว่ามีถังแก๊ส ปตท. 15 กิโลกรัม
อัดไม่เต็มถังตามน้ำหนัก เมื่อเห็นซีลครอบถังพบว่าเลขรหัสเป็นของโรงงานตน
จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ ปตท.เข้าทำการตรวจสอบ
พบถังแก๊ส ปตท. ขนาด 48 กิโลกรัม
บรรจุไม่เต็มน้ำหนักขาดไปประมาณถังละ 1 กิโลกรัม และถังแก๊ส
ขนาด 15 กิโลกรัม น้ำหนักหายไปประมาณ 3-5 กิโลกรัม ประมาณ 20 ถัง
จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ชั่งตวงวัดลำปางร่วมตรวจสอบ พบว่ามีถังแก๊สขนาด 4
กิโลกรัมจำหน่าย แต่เมื่อตรวจสอบยอดขายของโรงงานไม่พบว่ามีการซื้อแก๊สขนาด 4 กิโลกรัมจากโรงบรรจุของตนมาจำหน่ายเลย เมื่อสอบถามเจ้าของร้าน รับว่า
มีการถ่ายเทแก๊สในพื้นที่ ต.ต้นธงชัย อ.เมืองลำปาง
โดยเจ้าหน้าที่ชั่งตวงวัดได้มีการเปรียบเทียบปรับเจ้าของร้านในราคา 10,000 บาท จึงมาลงบันทึกไว้เนื่องจากทางบริษัทไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการถ่ายเทแก๊สของร้านดังกล่าวแต่อย่างใด
บริษัทได้ตรวจสอบถังแก๊สที่ออกจากบริษัทว่ามีน้ำหนักตรงตามที่กฎหมายกำหนด
จากนั้นเวลา
17.00 น.
ผู้เสียหายซึ่งเป็นนักศึกษาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
ที่พบว่าถังแก๊สมีน้ำหนักไม่เต็ม ได้เดินทางมาลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองลำปาง
โดยยืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ซึ่งพ่อของตนเองได้ซื้อถังแก๊สมาในราคา
400 บาท
และได้นำมาชั่งน้ำหนักดูก็พบว่า ถังแก๊สมีน้ำหนัก 28.4 กิโลกรัม หายไปถึง 3.6 กิโลกรัมจริง นอกจากนั้นยังมีนายสมศักดิ์ ธิบุญ
ประธานชมรมผู้ค้าแก๊สจังหวัดลำปาง พร้อมสมาชิก เดินทางมาลงบันทึกประจำวัน
กรณีที่ทางกลุ่มผู้ค้าแก๊สได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว
คือทำให้ผู้ซื้อไม่มั่นใจในแบรนด์ของ ปตท. อาจจะทำให้หันไปเลือกซื้อแบรนด์อื่นๆ
นายสมศักดิ์
กล่าวว่า
กลุ่มผู้ค้าซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายของ ปตท.
รู้สึกไม่สบายใจที่มีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น ที่ผ่านมาเคยได้รับการร้องเรียนเช่นกันแต่ไม่มีหลักฐานชัดเจน
แต่ในครั้งนี้มีผู้เสียหาย และมีการเข้าไปตรวจสอบร้านค้า ซึ่งถังแก๊สมีซิปล็อคระบุสถานที่บรรจุชัดเจน
ผลออกมาว่าแก๊สบรรจุไม่เต็มถังตามที่กฎหมายกำหนดจริง ทำให้ประชาชนอาจจะขาดความมั่นใจในแบรนด์นี้
และเสียประโยชน์ที่ซื้อแก๊สราคาเต็มแต่ได้ปริมาณลดลง อาจจะส่งผลกระทบให้กับตัวแทนผู้ค้าของ
ปตท.ต่อไปในอนาคต จึงต้องดำเนินการกับโรงงานบรรจุแก๊สที่ไม่ได้มาตรฐานไม่ให้เอาเปรียบกับประชาชนอีก
พร้อมกันนี้
ทางผู้เสียหายจะเดินทางไปร้องเรียนสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคเพื่อให้เข้าตรวจสอบและดำเนินการอีกส่วนหนึ่งด้วย
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น