เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ลุยตรวจร้านเหล้าเปิดเกินเวลา พบลูกค้านั่งดื่มกินอยู่กว่า 50 คน ตรวจสอบเป็นเจ้าของรายเดิมที่เคยถูกสั่งปิดไปแล้ว แต่อาศัยชื่อผู้อื่นจดทะเบียนเปิดร้านอีก และยังมีพฤติกรรมเดิม จึงคุมตัวผู้จัดการร้านส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
เมื่อวันที่
26 ก.ย.61 เวลา 02.30 น. เจ้าหน้าที่ทหาร กกล.รส.ที่ 1 มทบ.32 (ลำปาง)
นำโดย ร.ต.วิทูล วรกูล พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขลางค์นคร นำโดย
ร.ต.ท.วชิรวิทย์ รถน้อย รอง สวป. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปทส. ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบที่ร้านฟลิพ(Flip)
เลขที่ 475/1บ้านกาดเมฆ ถนนลำปาง-แม่ทะ หมู่ที่
5 ต.ชมพู อ.เมืองลำปาง หลังจากได้รับร้องเรียนว่าที่ร้านดังกล่าว เปิดร้านเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด
เปิดเพลงเสียงดัง จำหน่ายสุรา เบียร์ ให้แก่ประชาชนทั่วไปและมีวัยรุ่น เยาวชน
เข้ามาใช้บริการมั่วสุมกัน ส่งเสียงดัง สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับชาวบ้านใกล้เคียง
โดยเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปถึงในเวลา
01.30 น. พบว่าร้านเปิดอยู่และมีผู้เข้ามาใช้บริการนั่งดื่มเบียร์อยู่ จำนวน 15
โต๊ะ ผู้ใช้บริการประมาณ 50 คน จึงได้แสดงตัวขอเข้าตรวจสอบ ต่อมาได้มีนายศักดิ์สิทธิ์
สิทธิชุม อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 427/5 ถนนรอบเวียง ต.สวนดอก
อ.เมืองลำปาง แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าตนเองเป็นผู้ดูแลและเป็นผู้รับอนุญาต เมื่อตรวจสอบในร้านดังกล่าว พบว่าได้แบ่งโซนออกเป็น
2 โซน ด้านในเปิดใช้เป็นห้องครัว ห้องน้ำ และเค้าท์เตอร์แคชเชียร์
ซึ่งบิลรายการอาหารและเครื่องดื่มเก็บไว้ภายในร้าน ด้านนอกร้านเปิดเป็นร้านอาหาร
มีโต๊ะอาหาร เก้าอี้ เค้าท์เตอร์บาร์สำหรับนักร้อง นักดนตรี แสดงสด
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงขอตรวจสอบใบอนุญาต
แต่นายศักดิ์สิทธิ์ไม่มีใบอนุญาตใดๆ มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่แจ้งว่าสถานที่ดังกล่าวเปิดให้บริการโดยไม่มีใบอนุญาต
และเปิดร้านเกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด พร้อมกับแจ้งข้อกฎหมายให้นายศักดิ์สิทธิ์ทราบ
โดยนายศักดิ์สิทธิ์แจ้งว่าเจ้าของร้านที่แท้จริงคือนายสุทัศน์
ยวนตา ซึ่งตนเองเป็นแค่นอมินีรับจดทะเบียนเป็นเจ้าของเท่านั้น
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่าสถานที่ดังกล่าว
เคยเปิดกิจการลักษณะนี้มากแล้ว โดยจดทะเบียนใช้ชื่อบุคคลอื่น และได้กระทำความผิดลักษณะนี้มาแล้ว
2 ครั้ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบจับกุมและสั่งปิดกิจการไปแล้ว
ซึ่งต่อมาทราบว่าได้เปิดร้านใหม่ชื่อ ร้านฟลิพ(Flip) ซึ่งขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบเวลาประมาณ
01.30 น. ของวันที่ 26 กันยายน 2561 พบเปิดให้บริการแก่ลูกค้าอยู่
มีผู้มาใช้บริการอยู่ 15 โต๊ะ มีคนประมาณ 50 คน บนโต๊ะอาหารแต่ละโต๊ะมีขวดเบียร์
ถังน้ำแข็ง แก้วเบียร์ วางอยู่ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งให้ผู้มาใช้บริการออกจากร้าน เหลือเพียงนายศักดิ์สิทธิ์
และภรรยาของนายสุทัศน์ ซึ่งได้อาศัยความชุลมุนหลบหนีเข้าไปภายในร้านแล้วปิดล็อคกุญแจไว้
ไม่ยอมเปิดประตูร้านให้เจ้าหน้าที่เข้าไปภายในร้าน
นายศักดิ์สิทธิ์
ยังรับว่าร้านเปิดจำหน่ายเครื่องดื่มเบียร์ยี่ห้อลีโอและยี่ห้อช้าง
ให้แก่ลูกค้าผู้มาให้บริการ และร้านได้เปิดเกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนดจริง
ซึ่งตรงตามที่เจ้าหน้าที่ทหารมาตรวจพบและได้บันทึกภาพเคลื่อนไหวไว้เป็นหลักฐาน
เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่นายศักดิ์สิทธิ์ ตาม พ.ร.บ.สถานบริการ พ.ศ. 2509 ฐาน
ตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต เปิดสถานบริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด พ.ร.บ.สุรา
พ.ศ. 2493 ฐาน เป็นผู้รับอนุญาตขายสุราประเภท 3 หรือ 4
ไม่ขายสุราในเวลาที่กฎหมายกำหนดในกฎกระทรวง ตาม มาตรา 20 จำหน่ายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต
และ พ.ร.บ.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ฐาน ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (เบียร์)
นอกจากวันหรือเวลาที่กฎหมายกำหนด ซึ่งในชั้นจับกุม นายศักดิ์สิทธิ์ฯ
ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการบันทึกคำให้การ พร้อมควบคุมส่งพนักงานสอบสวน
สภ.เขลางค์นคร เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น