ในวันที่กรุงเทพฯ
ผุดโครงการพัฒนาพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
โดยจะมีการสร้างแท่นคอนกรีตยื่นออกไปในแม่น้ำเจ้าพระยาจากริมฝั่งอีก 19.5 เมตร
เพื่อทำเป็นทางเดินและทางจักรยาน ความยาวรวม 14 กิโลเมตร
มองในแง่บวกก็คงเป็นการดี
เพราะอย่างที่เรารับรู้กันว่า ตอนนี้สองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเมืองบางกอกนั้น กลายเป็นสิ่งปลูกสร้างไปหมดแล้ว
คนกรุงเทพฯ โดยทั่วไปแทบไม่ได้มีส่วนร่วมอันใดจากพื้นที่ริมแม่น้ำ
หากจะมีพื้นที่สาธารณะเกิดขึ้นเหมือนเมืองใหญ่ในต่างประเทศ
ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่น่าคิด จะตะขิดตะขวงใจอยู่หน่อยก็ตรงที่โครงการนี้ถือเป็นโครงการเร่งด่วน
คือจะสร้างทันทีโดยไม่ต้องศึกษาถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
นึกถึงถนนเลียบแม่น้ำวังในช่วงตัวเมืองลำปางตั้งแต่สะพานพิชัยพัฒนาไปจนถึงเขื่อนยาง
ถนนเส้นนี้ใคร ๆ ก็ชอบ เพราะได้เลียบชิดติดแม่น้ำ เช้า-เย็นมีผู้คนออกมาเดินเล่น
หรือไม่ก็ขี่จักรยาน แล้วยังเรียงรายไปด้วยต้นไม้อย่างต้นคูน ต้นเหลืองอินเดีย
ออกดอกสีเหลืองสดใส ไม่นับต้นพญาสัตบรรณในบางช่วง ที่จะต้องโดนตัดกิ่งอยู่เป็นระยะ
เนื่องจากยามออกดอกนั้น ส่งกลิ่นกำจายชวนให้ชาวบ้านเวียนหัวยิ่งนัก
ขณะเดียวกันก็แว่ว
ๆ มาเป็นระยะว่า จะมีการขุดลอกแม่น้ำวัง ตลอดจนเทคอนกรีตริมฝั่ง
เพื่อป้องกันการกัดเซาะตลิ่ง
ตัดสลับกลับไปที่กรุงเทพฯ
สภาพพื้นที่ของเมืองหลวงเราเป็นที่ราบลุ่มใกล้ปากแม่น้ำขนาดใหญ่ พื้นที่สองฝั่งเคยเป็นป่าริมน้ำสลับกับทุ่งกว้าง
ถึงตอนนี้เป็นอย่างไร ก็คงเห็นกันอยู่แล้วว่าไม่เหลือเค้าเดิมสักนิด แม้แต่ต้นลำพูต้นสุดท้ายของบางลำพู
กรุงเทพฯ ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้
กลับมาที่ลำปางบ้านเรา
ยังดีอยู่บ้างก็ตรงที่สองฝั่งแม่น้ำวังยังพอหลงเหลือสภาพตามธรรมชาติดั้งเดิมให้เห็น
แม้ในสายตาของใครบางคนอาจมองว่ามันดูรก ๆ แต่นี่คือระบบนิเวศริมน้ำ
ซึ่งมีผลอย่างมากต่อความอุดมสมบูรณ์ของแม่น้ำวัง
รากไม้เป็นที่อยู่ของสัตว์น้ำ
ต้นไม้ที่ขึ้นอยู่ตามริมน้ำยามใบและผลร่วงหล่นลงไปในแม่น้ำก็เป็นอาหารของปลา
หรือแม้แต่ตอนที่มันหมดอายุขัยโค่นล้มลงไป ก็ยังกลายเป็นที่อยู่ของปลาได้อีก
แมลงที่บินวนเวียนอยู่ตามริมน้ำ เผลอ ๆ ยังถูกนกโฉบจับ
หรือไม่ก็พลาดหล่นน้ำกลายเป็นอาหารให้สัตว์น้ำ พงหญ้าที่เรามองว่ารก ๆ
แท้จริงมันมีประโยชน์เหลือแสนต่อสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ
เพราะมันคือที่ทำรังวางไข่และที่หลบภัยของนกกวัก เป็นที่พักนอนของเป็ดแดง
หาดทรายริมแม่น้ำวังยังเป็นที่พักผ่อนเล่นน้ำของฝูงนกอุ้มบาตร
นกอพยพที่เราเห็นบ่อย ๆ ยามฤดูหนาว รวมไปถึงเหล่านกเอี้ยงและนกอีกนานาชนิด นกกระเต็นและนกจาบคาต่างเฝ้ารอเหยื่ออยู่ตามต้นไม้ริมแม่น้ำด้วยใจจดจ่อ
ตัวหนึ่งรอปลาเล็ก ๆ อีกตัวหนึ่งรอแมลง ยามหัวค่ำช่วงฤดูฝน
ริมแม่น้ำวังบางช่วงยังมีหิ่งห้อยวิบวับให้เห็น
เราไม่อาจคาดเดาได้ว่า
ในอนาคตชะตากรรมของระบบนิเวศริมแม่น้ำวังจะเป็นอย่างไร เหมือนกับที่คนกรุงเทพฯ หลายคนไม่รู้ว่า
แม่น้ำเจ้าพระยาของพวกเขา “เคย” มีปลาเทพา
ปลานักล่าขนาดใหญ่ที่สุดชนิดหนึ่งของโลกอาศัยอยู่ เช่นเดียวกับคนลำปางบางคนเท่านั้นที่รู้ว่า
ตามหาดทรายริมแม่น้ำ “เคย”
มีเต่าขึ้นมาวางไข่
เพราะสิ่งที่เรียกว่า
ความเจริญ ทำให้คนสมัยนี้ไม่รู้แล้วว่า สิ่งดี ๆ ที่ “เคย” มีอยู่นั้น มันเป็นอย่างไร
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น