
สองโจรวัยรุ่นขี่รถเวสป้าออกล่า
ตัดกุญแจตู้หยอดเหรียญร้านซักผ้าหวังกวาดเงินในตู้ แต่ไม่ได้สักบาท จึงไปก่อเหตุงัดตู้เติมเงินร้านค้าชุมชนแต่ก็งัดไม่ได้อีก
แถมยังโดนกล้องวงจรปิดจับภาพได้ ตำรวจเร่งตามตัวมาดำเนินคดี
เมื่อเวลา
11.00 น.วันที่ 30 ต.ค.61 ร.ต.อ.ธนพูน เครือยะ รอง สว.(สอบสวน)
สภ.เขลางค์นคร อ.เมืองลำปาง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สืบสวน
ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบที่ร้านขายของชำ ชื่อ ร้านพี่นา ตั้งอยู่ในหมู่บ้านหนองปล้อง หมู่ 5 ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง หลังได้รับแจ้งว่าที่ร้านซึ่งได้เปิดให้บริการเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญด้วย
ได้มีโจรเข้ามาตัดแม่กุญแจที่ใช้ล็อกช่องเก็บเหรียญของเครื่องซักผ้าออกไป 5 ตู้
และยังได้งัดตู้เติมเงินบริเวณหน้าร้านค้าชุมชนบ้านหนองปล้อง
ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม เยื้องกันประมาณ 5
เมตรด้วยอีกร้านหนึ่ง
จากการตรวจสอบที่ร้านขายของชำพี่นา
โดยมีนางจินตนา ปิกอุด เจ้าของร้าน ได้นำไปดูบริเวณเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญทั้งหมด
7 ตู้ ได้โดนตัดแม่กุญแจหายไปจำนวน 5 ตู้ แต่คนร้ายไม่ได้เงินไปแม้แต่บาทเดียว นางจินตนา เปิดเผยว่า ตนเองจะเปิดตู้เพื่อเก็บเงินออกทุกวันเวลา
21.00 น. ก่อนจะปิดร้านเวลา 22.00
น. แต่จะเปิดประตูเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญไว้
ให้ชาวบ้านได้มาใช้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง ช่วงเช้าพ่อเห็นว่าหลอดไฟที่เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญไม่ติด
ตนจึงได้หยิบกุญแจเพื่อจะไปเก็บเงินและเดินไปดูหลอดไฟ แต่ก็ไม่พบแม่กุญแจแล้ว
จึงรู้ว่าถูกตัดเลยแจ้งตำรวจ โดยมีชาวบ้านไปเจอแม่กุญแจที่ถูกตัดตกอยู่ 1 อัน เลยเก็บมาให้
ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ขอตรวจดูกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ภายในร้าน
เบื้องต้นพบว่ากล้องหน้าร้านได้ถูกดันให้แหงนขึ้นทำให้ไม่สามารถจับภาพได้
แต่มีกล้องอีกตัวภายในร้านจับภาพได้ ช่วงเวลาประมาณ 23.00 น.
เห็นชายวัยรุ่น 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดที่หน้าร้าน
ทั้งสองใส่หมวกแก๊ปบังหน้า และพยายามนั่งหันหลังเพื่อหลบกล้อง
โดยชายคนแรกได้เดินเข้ามาดูก่อน และได้ขยับหลอดไฟให้ดับ จากนั้นได้สลับกันเข้ามาตัดแม่กุญแจที่เครื่องซักผ้า
โดยใช้เวลาอยู่ในร้านประมาณ 10 นาที แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เงินไปสักบาท
จากนั้นเวลา
23.15 น. คนร้ายทั้งสองคนได้ขี่รถจักรยานยนต์
ซึ่งกล้องวงจรปิดจับภาพได้ชัดเจนว่าเป็นรถเวสป้ารุ่นเก่า สีฟ้า ขี่ไปจอดหน้าร้านค้าชุมชนบ้านหนองปล้อง
ห่างจากจุดแรกประมาณ 5 เมตร
และได้พยายามงัดตู้เติมเงินมือถือที่ตั้งอยู่หน้าร้าน แต่ก็งัดไม่ได้อีกเนื่องจากตู้เติมเงินมีการล็อกกุญแจไว้ถึงสองชั้น
คนร้ายใช้เวลาประมาณ 5 นาที
เมื่อไม่ได้เงินจึงขี่รถหนีไป อย่างไรก็ตาม
ถึงแม้ว่าคนร้ายจะไม่ได้เงินจากการก่อเหตุครั้งนี้
แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการตรวจสอบหารถเวสป้าคันที่ใช้ก่อเหตุดังกล่าว
เพื่อทำการสืบสวนหาตัวทั้งสองคนมาดำเนินคดีต่อไป เพื่อไม่ให้ไปก่อเหตุลักษณะนี้ในสถานที่อื่นๆได้อีก
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1203 วันที่ 2 - 8 พฤศจิกายน 2561)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น