
อีกสองพรรคการเมือง ที่สมควรบันทึกไว้ในฐานะพรรคแนวทางสายกลาง คือพรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคภูมิใจไทย ที่ว่าสายกลางมิได้หมายถึงแนวคิดในเชิงอุดมคติ คือดำเนินนโยบายแบบกลางๆ ที่สามารถทำงานการเมืองร่วมกับฝ่ายใดก็ได้ แต่หมายถึงพรรคการเมืองที่มีจุดมุ่งหมายแสวงอำนาจ คือการเป็นพรรคฝ่ายรัฐบาลเท่านั้น
ดังนั้นในท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมือง จะเห็นว่า คนของพรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคภูมิใจไทย แทบจะไม่มีความขัดแย้งกับพรรคการเมืองอื่นๆ โดยเฉพาะนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย มีท่าทีทอดสะพานให้กับฝ่ายอำนาจอยู่ตลอดเวลา
สำหรับลำปาง มีความเกี่ยวข้องกับพรรคชาติไทย ซึ่งต่อมาเปลี่ยนเป็นชาติไทยพัฒนา หลังจากพรรคชาติไทยถูกตัดสินยุบพรรคในวันที่ 2 ธันวาคม 2551 ครั้งยังเป็นชาติไทย นายสอาด ปิยวรรณ อดีต ส.ส.ลำปางเคยสังกัดพรรคนี้ เช่นเดียวกับนายบุญชู ตรีทอง อดีต ส.ส.ลำปางอีกคนหนึ่ง ก็เคยเป็น ส.ส.พรรคชาติไทย แต่ถึง พ.ศ.นี้ พรรคชาติไทย หรือชาติไทยพัฒนาในปัจจุบัน คงไม่มีพลังที่จะดึงดูดนักการเมืองคนใดเข้าพรรคอีก ในยามที่กระแสพลังประชารัฐแรงเช่นนี้
พรรคชาติไทยเป็นการรวมตัวของนายทุนขุนศึก หลังเหตุการณ์ 14 ตุลา โดยต้นกระแสธารคือนักการเมืองในกลุ่มราชครูอันมีพล.ต.อ.ประมาณ อดิเรกสาร พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ พล.ต.ศิริ ศิริโยธิน รวมทั้งนายบรรหาร ศิลปอาชา นักธุรกิจเจ้าของบริษัทสหศรีชัย ก่อสร้างจำกัด และอีกหลายบริษัท
นายบรรหาร คือต้นแบบของพ่อค้าที่ได้ดีเพราะระบบอุปถัมภ์ บริษัทสหศรีชัย เคมีคอลล์ จำกัด ของเขา เป็นตัวแทนจำหน่ายคลอรีน ให้แก่กรมโยธาธิการและการประปาส่วนภูมิภาค ด้วยความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับนายดำรง ชลวิจารณ์ อดีตอธิบดีกรมโยธาธิการ
เมื่อลงสู่สนามการเมือง การนำของเขาล้วนมุ่งไปสู่ถนนสายอำนาจ เพราะเขารู้ดีว่าอำนาจดลบันดาลได้ทุกสิ่ง จนถึงกับมีถ้อยคำที่อ้างว่าเป็นคำพูดของนายบรรหารว่า”เป็นฝ่ายค้านอดอยากปากแห้ง” หลังสิ้นบรรหาร พรรคชาติไทยพัฒนา ก็มีแนวโน้มที่จะเป็นพรรคต่ำสิบ ภายใต้การนำของบุตรสาวคนโตนางสาวกัญจนา ศิลปอาชา
ไม่แตกต่างไปจากพรรคภูมิใจไทย ซึ่งจุดกำเนิดมาจากการแปรพักตร์จากนายทักษิณ ของนายเนวิน ชิดชอบ อดีต ส.ส.พรรคชาติไทย และไทยรักไทย มือขวานายทักษิณ ชินวัตร นายเนวินร่วมตั้งพรรคภูมิใจไทย เพื่อให้ ส.ส.เดิมของพรรคมัชฌิมาธิปไตย กลุ่มเพื่อนเนวิน พรรคพลังประชาชน เข้าสังกัด และร่วมรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์
แม้เขาจะวางบทบาทหลักไว้ที่ตำแหน่งประธานบริหารสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ด และหันมาพัฒนาการกีฬา สร้างเมืองบุรีรัมย์ที่เคยมีชื่อเสียงด้านแหล่งท่องเที่ยวทางโบราณคดี ปราสาทหินพนมรุ้ง มาเป็นภาพของเมืองสปอร์ต – อีเวนท์ซิตี้ ผ่านสนามช้างอารีนา เป็นสนามเหย้าของสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ซึ่งได้บันทึกไว้ในกินเนสบุ๊คว่า เป็นสนามฟุตบอลในระดับฟีฟ่าแห่งเดียวในโลกที่ใช้เวลาก่อสร้างน้อยที่สุดในโลก คือ 256 วัน
เป็นภูมิใจไทย ที่มีหัวหน้าคนหนึ่ง แต่มีผู้มีอิทธิพลตัวจริงอีกคนหนึ่ง ซึ่งไม่จำเป็นต้องแสดงตัวตนชัดเจน หากพลังประชารัฐได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เขียนติดข้างฝาไว้ได้เลยว่า สองพรรคร่วมรัฐบาลคือชาติไทยพัฒนา และภูมิใจไทย สำคัญว่านั่นจะเป็นเพียงปราสาททรายหรือไม่เท่านั้น
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1207 วันที่ 30 พฤศจิกายน - 6 ธันวาคม 2561)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น