คนงานเชื่อมหลังคา
สังกะสีพลาดโดนสายไฟฟ้าแรงสูง หม้อแปลงระเบิด และถูกไฟดูดไหม้กว่าครึ่งตัว
เจ้าหน้าที่ช่วยระทึก ติดค้างอยู่บนหลังคาสูงกว่า 4 เมตร
เมื่อเวลาประมาณ
16.10 น.วันที่ 9 พ.ย.61
ศูนย์วิทยุ 191 จ.ลำปาง
ได้รับแจ้งว่ามีคนถูกไฟดูดร่างค้างอยู่บนหลังคา ได้รับบาดเจ็บสาหัส
และติดค้างที่หลังคา บริเวณจุดที่กำลังก่อสร้าง ประตูทางเข้า
วิทยาลัยของเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง (ลำปางพาณิชยการและเทคโนโลยี) ถ.พหลโยธิน
ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง
จึงรีบประสานเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เจ้าหน้าที่กู้ชีพ รพ.ลำปาง และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างนครลำปาง
ให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
โดยในที่เกิดเหตุ
พบร่างผู้บาดเจ็บติดค้างบนหลังคาสูงกว่า 4 เมตร เบื้องต้นเป็นชาย ทราบชื่อต่อมาคือ นายเกษม
แลกบุตร อายุ 52 ปี เป็นราษฎร หมู่6 ต.พิชัย
อ.เมือง จ.ลำปาง สภาพไม่สามารถขยับเขยื้อนร่างกายได้
เพราะมีบาดแผลจาการถูกไฟดูด ร่างกายซีกขวาผิวหนังถูกไฟไหม้กว่าร้อยละ 70 ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างนครลำปาง
เจ้าหน้าที่กู้ชีพโรงพยาบาลลำปาง
ได้ปีนบันไดชั่วคราวเพื่อไปปฐมพยาบาลผู้ได้รับบาดเจ็บในเบื้องต้น ซึ่งการทำงานไปอย่างทุลักทะเล
ขณะที่เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดลำปาง
ได้เข้ามาตัดกระแสไฟฟ้าในจุดที่เกิดเหตุ และปล่อยกระแสไฟฟ้าไปยังบ้านเรือนชาวบ้านอีกจุดหนึ่งเพื่อลดผลการกระทบจากไฟฟ้าดับ
จากนั้นจึงได้นำรถกระเช้าของ กฟภ.ลำปาง เพื่อมารับตัวผู้บาดเจ็บที่ติดค้างบนหลังคา
ปรากฏว่ารถกระเช้า ไม่สามารถนำร่างผู้บาดเจ็บลงมาได้ จึงประสานไปยังรถกระเช้าดับเพลิงเทศบาลนครลำปางรุดมายังที่เกิดเหตุ
โดยใช้เวลาไม่นานก็สามารถนำร่างผู้บาดเจ็บลงมาได้ พบว่าอยู่ในสภาพบาดเจ็บสาหัส
ร่างกายผิวหนังหลุดลอก เจ้าหน้าที่เร่งนำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลลำปางทันที
จากการสอบถามพยานที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า กลุ่มคนงานได้มาทำงานก่อสร้างและเชื่อมหลังคาตามปกติ จำนวน 3 คน และมีคนอยู่บนหลังคา 1 คน ด้านล่าง 2 คน แต่ระหว่างทำงานอยู่นั้น ปรากฏว่ามีเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวไฟฟ้าดับไปทั่วพื้นที่ และมีเสียงร้องขอความช่วยเหลือมาจากหลังคาที่เกิดเหตุ เพื่อนคนงานจึงปีนขึ้นไปดูพบว่า มีคนบาดเจ็บจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือ
ทั้งนี้
เบื้องตนคาดว่า ระหว่างที่คนงานกำลังเชื่อมต่อหลังคาอยู่นั้น แผ่นหลังคา
ซึ่งเป็นแผ่นสังกะสีได้ปลิวไปถูกสายไฟฟ้าบริเวณหม้อแปลงไฟฟ้าแรงสูงจนเกิดการระเบิดและไฟช็อต
จนทำให้มีคนเจ็บสาหัส ซึ่ง ทาง เจ้าหน้าที่จะได้เร่งสอบสวนสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1205 วันที่ 16 - 22 พฤศจิกายน 2561)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น