เจ้าหน้าที่สนธิกำลังเข้าตรวจสอบการรุกป่า
หลังชาวบ้านร้องเรียน มีคนลักลอบตัดไม้เข้ามาสร้างโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ในป่าสงวน
ตรวจพบโรงเรือนกำลังสร้างใหม่ เป็นไม้สักทั้งหลัง จึงยึดไว้ทั้งหมด
เมื่อ
2 พ.ย.61 เจ้าหน้าที่ป่าไม้ โดยการอำนวยการสั่งการของ
นายชูเกียรติ พงศ์ศิริวรรณ
ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 (ลำปาง) นายเอช
อาสุ รักษาการ ผอ.ส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า นำโดย นายดนุศักดิ์ หมื่นโฮ้ง
หัวหน้าสายตรวจปราบปรามการกระทำความผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้
สายที่ 1 นายธีระยุทธ สุขนิกร หน่วยป้องกันรักษาป่าที่
ลป.5 (แม่ยาว) จนท.ตำรวจ กก.4
บก.ปทส. , จนท.อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล , จนท.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 3 ภาคเหนือ
กรมป่าไม้ , จนท. ตำรวจ สภ.ห้างฉัตร , เจ้าหน้าที่กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่
33 เชียงใหม่ ชุด
ชป.ข่าวห้างฉัตร และ จนท.ปกครอง
อ.ห้างฉัตร ได้ร่วมกันตรวจยึด ไม้สักท่อน
และไม้สักแปรรูป และตรวจยึดพื้นที่ป่าถูกบุกรุก บริเวณป่าข้างลำห้วยแม่ก๋วน
ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ยาว ท้องที่หมู่ที่ 9 ต.เวียงตาล
อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง
โดย
นายทองดี ยอดอุทยา เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ลป.5
(แม่ยาว) และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล ได้รับแจ้งว่า
มีกลุ่มบุคคลได้เข้าไปลักลอบตัดไม้สัก ทำการแปรรูปไม้ และก่อสร้างสิ่งปลูกสร้าง
(คอกวัว) ในพื้นที่ดังกล่าว ลักษณะเป็นการครอบครองที่ดิน จึงประสานเจ้าหน้าที่ส่วนเกี่ยวข้องสนธิกำลังร่วมกันเข้าตรวจสอบ
กระทั่งพบมีการบุกรุกพื้นที่ป่า
ตามที่มีผู้ร้องเรียนจริง ตรวจพบโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ ลักษณะของสิ่งปลูกสร้าง
ก่อสร้างด้วยโครงสร้างไม้สัก เสาไม้สัก จำนวน 9 ต้น
ขุดหลุมฝังหัวเสาลงไปในดิน มีไม้แปรรูปและไม้ท่อนขนาดเล็กนำมาตียึดเสาแต่ละต้นไว้
เป็นราวกั้น พบมูลสัตว์
และกองไฟที่มอดแล้ว นอกจากนั้นยังพบ
เศษไม้ เศษขี้เลื่อยจากการแปรรูปไม้จากเลื่อยยนต์
ตรวจวสอบบริเวณโดยรอบไม่พบบ้านเรือนหลังอื่นๆ น่าเชื่อว่าสิ่งปลูกสร้างหลังดังกล่าว ได้มีคนเข้ามาทำการบุกรุก
แผ้วถาง ปลูกสร้างสิ่งปลูกสร้างไว้ในเขตป่าสงวน
เพื่อเป็นการยึดถือครอบครองเอาที่ดินเป็นของตนเอง เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตรวจไม่พบเสาหลักหมุด
และแนวรั้วล้อมไว้แต่อย่างใด เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพื้นที่ตามพิกัดแผนที่ดาวเทียม
ยืนยันว่าบริเวณดังกล่าวพบว่าอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ยาว
อยู่ในความดูแลของกรมป่าไม้ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดและนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น