
ทีมทนายความหารือขอขยายฎีกา
หลังศาลให้ประกันอดีตนายกฯพร้อมพวก 13 คน วงเงิน 5 แสน ขณะที่อดีต ผอ.กองช่างหนึ่งในจำเลย ครวญรู้สึกเหน็ดเหนื่อยที่ต้องมารับชะตากรรมนี้ทั้งที่ทำเพื่อบ้านเมือง
กรณีศาลอุทธรณ์
ภาค 5 ได้พิพากษาคดีอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายนรินทร์ มโนกูลอนันต์
อดีตนายกเทศมนตรีนครลำปาง จำเลยที่ 1 พร้อมพวกรวม 14 คน
ประกอบด้วย นายวินัย ภู่งาม อดีตปลัดเทศบาล จำเลยที่ 2
, นางรัศมีไข่มุก พร้อมเพียง อดีต ผอ.กองคลัง จำเลยที่
3 , นายสมบูรณ์ เกตุศิระ อดีตผู้อำนวยการกองอนามัย จำเลยที่
4 , ร้อยเอกกิตตินันท์
นิวาศะบุตร อดีตหัวหน้าฝ่ายบริหารงานสาธารณสุข จำเลยที่ 5 , นายจำเนียร ทองกระสัน อดีตผู้อำนวยการส่วนควบคุมอาคาร
จำเลยที่ 6 , นายชาตรี
คำลือ อดีตเจ้าพนักงานสาธารณสุขชุมชน
จำเลยที่ 7 , นายเฉลิม
แก้วกระจ่าง อดีตรองปลัดเทศบาล จำเลย 8 ,
นางวัชรี จินดามัง อดีตหัวหน้างานพัสดุและทรัพย์สินจำเลย 9 , นายสุวิทย์ ศิริไกรวัฒนาวงศ์
จำเลย 10 , นายสุทธิพันธ์
รัตนรังสรรค์ จำเลย 11 , นายศุภกิจ หอมแก่นจันทร์ จำเลย 12 ,
นายสุพรรณ นันต๊ะภาพ จำเลย 13
และ นายลาด อินนันชัย จำเลย 14 กรณีการจัดซื้อที่ดินทิ้งขยะ
บริเวณบ้านกล้วยแพะ อ.เมืองลำปาง
มีราคาสูงกว่าราคาจริงที่ชาวบ้านขายและราคาประเมิน
โดยมีคำสั่งให้ยกฟ้องจำเลยที่
2 และให้บุคคลที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ
ประกอบด้วย จำเลยที่ 1 และ 3- 11 มีโทษจำคุกกรรมละ 5 ปี โดยไม่รอลงอาญา
ส่วนจำเลยที่ 12-14 ซึ่งเป็นชาวบ้าน ได้รับโทษจำคุก 2 ใน 3 คือ กรรมละ 3 ปี 4 เดือน หลังศาลพิพากษาจำเลยทั้งหมดได้ยื่นเรื่องขอปล่อยตัวชั่วคราวในทันที
แต่ดำเนินการไม่ทันในวันดังกล่าว จึงนำตัวจำเลยทั้ง
12 คน ฝากขังเรือนจำกลางลำปาง
ต่อมาวันที่
5 พ.ย.61 ศาลฎีกาได้มีคำสั่งให้ปล่อยตัวชั่วคราว
โดยให้ยื่นหลักทรัพย์ประกันตัวคนละ 5 แสนบาท ส่วนกรณีของจำเลยที่ 5 ร้อยเอกกิตตินันท์
นิวาศะบุตร ที่ไม่ได้มาฟังคำพิพากษาของศาลนั้น
ต่อมาได้เดินทางมามอบตัวและได้รับการประกันตัวออกไปพร้อมกัน
ในเรื่องนี้
แหล่งข่าวระบุว่า ศาลฎีกาให้ปล่อยตัวชั่วคราวแล้ว ต่อไปต้องมีการวิเคราะห์คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค
5 ว่าใครไม่เห็นด้วยกับประเด็นในเรื่องใดบ้าง จะต้องมีการประชุมคดีกัน
แต่ละคนอาจจะมีข้อโต้แย้งที่ไม่เหมือนกัน บางคนเกี่ยวข้องในฐานะชาวบ้าน
หรือบางคนเข้าไปเกี่ยวข้องช่วงใดช่วงหนึ่ง จำเลยแต่ละคนจะมีเหตุผลที่จะอธิบายต่อศาลว่าตนเองเกี่ยวข้องได้อย่างไร
ต่างคนจึงต้องแสวงหาข้อเท็จจริงที่จะยื่นไป
ศาลจะจัดกลุ่มจำเลยออกเป็น
3 กลุ่มใหญ่ คือผู้บริหารสั่งการ เช่น ตำแหน่งนายกเทศมนตรี ปลัดเทศบาล
อีกกลุ่มเป็นกรรมการได้รับการแต่งตั้งมีอำนาจในการจัดซื้อจัดจ้าง
และกลุ่มสุดท้ายคือชาวบ้านผู้นำที่ดินมาขาย
เพราะฉะนั้นแนวทางการยื่นฎีกาของแต่ละกลุ่มจะแตกต่างกันไป
จากรายงานทราบว่า
ในส่วนของทนายที่ทำคดีด้วยกัน
ได้มีการนัดหมายกันเบื้องต้นหลังจากคัดถ่ายสำเนาคำพิพากษาไปดูถึงรายละเอียด
เนื่องจากต้องยื่นขอขยายฎีกาออกไปก่อน เพราะเอกสารมีเยอะ การจะยื่นให้ทันภายใน 30
วันตามเวลาที่กำหนดนั้น อาจจะไม่ทัน
ด้านนายจำเนียร
ทองกระสัน อดีต ผอ.สำนักงานช่างเทศบาลนครลำปาง
เป็นจำเลยที่ 6
เปิดเผยว่า คดีอาญาในศาลชั้นต้นให้ความเห็นว่าไม่ได้ทำความผิด
แต่ศาลอุทธรณ์ได้มีการกลับคำพิพากษาใหม่ ว่าเป็นการทำเป็นขบวนการจัดซื้อที่ดินในราคาสูง ซึ่งตนเองมีชื่อร่วมอยู่ในการจัดซื้อ 3 ครั้ง จึงโดนโทษมากที่สุดของจำเลยทั้งหมด
“ในความเห็นส่วนตัว เห็นว่าตนเองไม่ได้ทำผิดอะไร
ทำหน้าที่ด้วยความหวังดีกับหน่วยงานให้ได้ที่ดินเพื่อแก้ปัญหาขยะของบ้านเมืองเท่านั้นเอง
ซึ่งตอนจัดซื้อที่ดินได้มีการสอบถามแล้วว่าการจัดซื้อผ่านนายหน้ามีความผิดหรือไม่
รวมทั้งได้ปรึกษาไปยังอัยการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บอกว่าสามารถทำได้ แต่ในภายหลังมีการตีความบอกว่าทำไม่ได้
ลำบากใจมากทำเพื่อบ้านเมืองแต่ต้องมารับชะตากรรมเช่นนี้”
นายจำเนียร
กล่าวอีกว่า ส่วนคดีทางวินัยศาลชั้นต้นพิพากษาเพิกถอนคำสั่งของเทศบาลที่ให้ออกจากตำแหน่ง
และคืนสิทธิ์ทุกอย่างให้กลับเข้ารับตำแหน่งในเทศบาลนครลำปางเหมือนเดิม
แต่ทางฝ่ายเทศบาลได้ยื่นอุทธรณ์คดี
เรื่องก็ยังคงค้างอยู่ที่ชั้นศาลปกครองสูงสุดอยู่ 2 ปีแล้ว
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1204 วันที่ 9-15 พฤศจิกายน 2561)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น