วันศุกร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2561

ช้าง 14 เชือกได้บ้านใหม่ มอบ อ.อ.ป. ดูแล

จำนวนผู้เข้าชม free counter

นักธุรกิจใจบุญ รับซื้อข้างเร่ร่อนมาเลี้ยงกว่า 20 ปี ส่งมอบช้างให้ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยดูแลต่อ 14 เชือก หวังให้ช้างได้ใช้ชีวิตอยู่ในธรรมชาติจนหมดอายุขัย  ด้าน ผอ.ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย เผยช้างทุกเชือกสุขภาพแข็งแรงดี อยู่ในช่วงปรับตัว 3 เดือน จึงจะเข้าร่วมกับช้างในศูนย์ฯเชือกอื่นๆได้ ยืนยันจะดูแลให้ดีที่สุด

เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 24 ธ.ค. 61   ที่ห้องประชุม อาคารกัลยาณิวัฒนาการุณย์ สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์  อ.อ.ป. อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง   ว่าที่พันตรี อภิชาติ จินดามงคล ผู้อำนวยการสำนักสถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมถ์ฯ พร้อมด้วย น.สพ.ทวีโภค อังควานิช หัวหน้าฝ่ายอนุรักษ์ช้าง โรงพยาบาลช้าง น.ส.อรสา แต้สัมฤทธิ์ หัวหน้าฝ่ายอำนวยการ  ร่วมกันให้การต้อนรับนายบุญ ชาติพาณิชย์  อายุ 79 ปี นักธุรกิจชาว จ.พิษณุโลก  ซึ่งได้มอบช้างจำนวน 14 เชือก ให้กับทางศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยได้รับดูแลต่อ  พร้อมกันนี้ได้มีการทำพิธีส่งมอบ โดยนายบุญ ชาติพาณิชย์ ได้มอบตั๋วรูปพรรณช้างทั้งหมด ซึ่งได้โอนย้ายเป็นชื่อของสถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้กับว่าที่พันตรี อภิชาต จินดามงคล ผอ.สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ ถือว่าเป็นการส่งมอบหลักฐานการครอบครองช้างโดยสมบูรณ์

นายบุญ ชาติพาณิชย์ เปิดเผยว่า  ตนเองได้เลี้ยงช้างเหล่านี้มานานกว่า 20 ปีแล้ว ซึ่งเดิมเมื่อสมัยหลายสิบปีก่อนได้มีข่าวของช้างเร่รอนออกมาให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ประสบปัญหาทั้งกับช้างและกับคน เมื่อเห็นแล้วรู้สึกรับไม่ได้ที่ช้างต้องมาลำบาก เกิดความสงสารมาก เพราะเป็นคนรักสัตว์ ประกอบกับตนเองมีที่ดินอยู่ประมาณ 900 กว่าไร่ เปิดทำรีสอร์ท และโรงแรม ที่ จ.พิษณุโลก  จึงขอซื้อช้างเร่ร่อนจากสถานที่ต่างๆที่พบเจอไม่ได้ 8 เชือก รวม 2.5 ล้านบาท นำไปเลี้ยงไว้ในที่ดินของตนซึ่งยังมีสภาพเป็นป่าอุดมสมบูรณ์ ให้ช้างได้อยู่ในธรรมชาติมากที่สุด  รวมทั้งได้จ้างควาญมาดูแลช้าง เลี้ยงแบบการอนุรักษ์ เมตตาสาสาร ไม่ได้มีการนำช้างเหล่านี้ไปหาเงินใดๆ  จนถึงปัจจุบันมีช้างที่เลี้ยงอยู่ 13 เชือก ได้ตกลูกน้อยมาอีก 1 เชือก อายุได้ 4 เดือน รวมเป็น 14 เชือก  ตนก็มีอายุมากแล้ว จึงเห็นสมควรว่าจะส่งต่อช้างเหล่านี้ให้ทางสถาบันคชบาลแห่งชาติได้ดูแล เนื่องจากเป็นสถาบันแห่งเดียวของประเทศไทยที่สร้างขึ้นเพื่อดูแลช้าง และเป็นของภาครัฐ   เมื่อมาดูสภาพแวดล้อมภายในแล้วเหมาะสมที่จะให้ช้างมาอยู่ที่นี่อย่างมาก ส่วนควาญช้างตนเองก็จะช่วยดูแลในช่วงแรก หลังจากอะไรต่างๆลงตัวแล้ว ทางสถาบันคชบาลแห่งชาติก็จะรับไปดำเนินการต่อไป

ว่าที่พันตรี อภิชาติ จินดามงคล ผู้อำนวยการสำนักสถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมถ์ฯ  กล่าวว่า ปัจจุบันสถาบันคชบาลแห่งชาติมีช้างอยู่ในความดูแลทั้งหมด 97 เชือก และได้รับช้างจากคุณบุญเข้ามาอีก 14 เชือก จึงรวมเป็น 111 เชือก  ซึ่งได้มีการเลี้ยงดูช้างในรูปแบบการอนุรักษ์มาโดยตลอด ในส่วนของการแสดงช้างก็จะเป็นการแสดงในรูปแบบของวิถีชีวิตการชักลากไม้เดิม เพื่อให้คนรุ่นหลังได้รับทราบการทำงานในอดีตของ อ.อ.ป. และมีการนั่งช้างเที่ยวชมธรรมชาติ จะเห็นการใช้ชีวิตของช้างว่าอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างแท้จริง และขอยืนยันว่าจะดูแลช้างที่รับเข้ามาทั้ง 14 เชือกให้ดีที่สุด

ด้านการดูแลช้าง น.สพ.ทวีโภค อังควานิช หัวหน้าฝ่ายอนุรักษ์ช้าง กล่าวว่า  ช้างที่รับเข้ามาใหม่ชุดนี้ ได้ย้ายมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ได้มีการจัดสรรพื้นที่ให้อยู่ร่วมกัน เพื่อทำการกักโรค และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เกิดความคุ้นเคยกับสถานที่ก่อน โดยจะมี 3 กลุ่ม คือ ช้างรุ่นอายุ 40-50 ปี  ช้างวัยรุ่นอายุ 15-20 ปี และช้างเด็ก ลูกช้างเกิดใหม่ อายุ 4 เดือนไปจนถึง 10 ปี  ซึ่งจากการตรวจสอบช้างทั้งหมดในเบื้องต้นพบว่า สุขภาพร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงดี เนื่องจากเจ้าของเดิมได้เลี้ยงให้อยู่ในธรรมชาติ ช้างจะอยู่กับเป็นฝูง นิสัยไม่ดุร้าย แต่อย่างไรก็ตาม ต้องปรับพฤติกรรมก่อนที่จะออกไปเจอกับช้างเชือกอื่นๆ ต่อไป ซึ่งยังเหลือช้างอีก 1 เชือกที่ยังไม่ได้ขนย้ายมาเนื่องจากเป็นช่วงช้างตกมัน หากพ้นช่วงตกมันแล้วจึงจะดำเนินการขนย้ายได้

สำหรับช้างโขลงนี้ 14 เชือก คือ พังวังทอง พลายกระติ๊บ พังฟ้าใส พังแก่งโสภา พลายทองแท่ง พลายบุญมี  พลายทองคำ พังกิ่งทอง พังธันวา พังสายชล พังทองแท้ พังทองพูน  พังสายทอง และพลายบูทู เป็นลูกของแม่ช้างพังวังทอง  เพิ่งเกิดเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีอายุประมาณ 4 เดือน  หากตีราคาแล้วมีมูลค่าไมต่ำกว่า 20 ล้านบาท ซึ่งทางสถานที่แห่งนี้พร้อมดูแลช้าง รักษาช้างเจ็บป่วย โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายอยู่แล้ว และพร้อมจะดูแลปรับช้างทุกแห่งหากได้รับการประสานติดต่อเข้ามาทั่วประเทศไทย

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1211 วันที่ 28 ธันวาคา 2561 - 10 มกราคม 2562)

Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์