แม่พริกเอ็กซเรย์ เจอยาบ้า 2ล้าน ซ่อนรถขนกะหล่ำ

จำนวนผู้เข้าชม

สองหนุ่มสาวชาวเขาเผ่าม้งลงทุนขับรถส่วนตัวจากเพชรบูรณ์ ขึ้นมาสับเปลี่ยนรถเพื่อขนยาบ้าที่เชียงใหม่ แลกค่าจ้าง 30,000 บาท  รับสารภาพเคยทำสำเร็จมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อเดือนที่แล้ว จึงกลับมาขนอีกครั้ง

เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 61  ที่ สภ.เมืองลำปาง  พล.ต.ท.มนตรี   สัมบุณณานนท์   ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5   พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5  นายสมเกียรติ ตันตระกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง    พ.อ.วิชาญ ศรีภัทรางกูล เสนาธิการ มทบ.32  พ.อ.เจษฎา เงินกองกาบ  รอง ผบ.กองพลทหารราบที่ 7 ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมและตรวจยึดยาบ้า 2 ล้านเม็ด พร้อมผู้ต้องหา 2 ราย คือ  นายยิ่งเจริญ  ศิริธนสมบัติ  อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 150หมู่ 2 ต.ปางหินฝน อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ และ นางศิรินันท์   วรวงค์อุดม  อายุ  30  ปี อยู่บ้านเลขที่ 54  หมู่ 1 ต.เข็กน้อย อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ทั้งสองเป็นชาวเขาเผ่าม้ง

โดยเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.61 เวลาประมาณ 12.10 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร นำโดย ร.ต.อ.พอผล  เครือสายใจรอง สวป.สภ.แม่พริก พร้อมกับพวก ร่วมกันตั้งด่านตรวจบริเวณด่านตรวจแม่พริก หมู่ 5 ต.พระบาทวังตวง อ.แม่พริก  จ.ลำปาง ได้มีรถยนต์กระบะบรรทุกเสริมข้างคุมผ้าใบ ยี่ห้อโตโยต้า รีโว สีขาว หมายเลขทะเบียน ผอ 5447 เชียงใหม่ ขับมาจาก อ.เถิน จ.ลำปาง มุ่งหน้าไปยัง จ.ตาก โดยบรรทุกสิ่งของไว้หลังกระบะ  เจ้าพนักงานตำรวจได้ส่งสัญญาณให้รถหยุดเพื่อขอทำการตรวจค้น พบว่ามีนายยิ่งเจริญ ศิริธนสมบัติ (ทราบชื่อภายหลัง) เป็นผู้ขับขี่ และมีนางศิรินันท์  

วรวงค์อุดม นั่งโดยสารมาด้วย

จากการสังเกตและพูดคุยสอบถาม นายยิ่งเจริญได้แสดงอาการพิรุธ เมื่อเจ้าหน้าที่ขอดูใบขับขี่กลับยื่นบัตรเอทีเอ็มให้แทน ส่วนนางศิรินันท์ที่นั่งมาด้วยกันก็มีพิรุธและให้การวกวน จึงเรียกเข้าจอดข้างทางเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียด พบว่าด้านหลังรถบรรจุกะหล่ำปลีมาเต็มคันรถ เบื้องต้นโดยนายยิ่งเจริญ ได้ให้การว่าบรรทุกกะหล่ำปลีจาก อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ โดยนำไปส่งปลายทางที่ ตลาดไท จ.ปทุมธานี  แต่เนื่องจากใช้เหล็กแหลมแทงเข้าไปด้านในเพื่อตรวจสอบ อาจทำให้กะหล่ำปลีที่บรรทุกมาเสียหายได้ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้นำรถคันดังกล่าวเข้าอุโมงค์ x-rayซึ่งผลปรากฏว่า มีวัตถุสงสัยซุกซ่อนอยู่บริเวณส่วนด้านหน้ากระบะบรรทุกโดยมีกะหล่ำปลีวางทับอยู่  จึงทำการรื้อผ้าใบคุมกระบะหลังรถออก จากนั้นก็นำกะหล่ำปลีออกจากกระบะบรรทุก กระทั่งพบกระสอบปุ๋ยสีเขียวข้างในบรรจุยาบ้า จำนวน 10 กระสอบ รวมยาบ้าประมาณ 2 ล้านเม็ด  จึงได้ควบคุมตัวนายยิ่งเจริญ และนางศิรินันท์ พร้อมของกลางดังกล่าวไว้ทันที

สอบถามนายยิ่งเจิรญ ให้การว่าได้ไปรับรถยนต์บรรทุกยาบ้าและกะหล่ำปลีที่บ้านกลางโตง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ห่างจากปั้ม ปตท.แม่แจ่ม ประมาณ 5 กม.  โดยนายยิ่งเจิรญฯได้ขับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน บห 4478 เพชรบูรณ์ มาจาก อ.เข็กน้อย จ.เพชรบูรณ์ มารอรับรถยนต์ของกลางโดยมาจอดรอที่ปั้มน้ำมัน ปตท.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.61 เวลาประมาณ 21.00 น. และต่อมาวันที่ 12 ธ.ค.61 นายพี่ ไม่ทราบนามสกุล ได้โทรมาหาเพื่อมาสับเปลี่ยนรถยนต์ เวลาประมาณ 05.00 น.ได้ขับรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน บห 4478 เพชรบูรณ์ มาแลกเปลี่ยนกับรถยนต์ของกลาง โดยไม่เห็นหน้าเจ้าของรถ จากนั้นได้ขับรถไปแวะรับ นางศิรินันท์ ที่ปั้ม ปตท.ฮอด ซึ่่งนางศิรินันท์ ได้นำรถยนต์โตโยต้า ป้ายแดง ทะเบียน ก 1922 เชียงใหม่ มาจอดทิ้งไว้ในปั๊ม  และใช้เส้นทาง อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ เข้า อ.ลี้ จ.ลำพูน ผ่าน อ.เถิน จ.ลำปาง เข้าถนนพหลโยธิน ผ่านด่านหนองเชียงราย อ.เถิน จนถึงด่านตรวจแม่พริก อ.แม่พริก จ.ลำปาง

นายยิ่งเจริญ ยังให้การว่า ได้รับงานการขนยาเสพติดครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 จากนายพี่ ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง โดยครั้งแรกได้ขนไปประมาณ ปลายเดือน พ.ย.61  ได้ค่าจ้างครั้งละ 30,000 บาท ส่วนนางศิรินันท์ให้การว่าไม่รู้เรื่องเพียงแต่นั่งรถมาเป็นเพื่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ควบคุมตัวส่ง พนักงานสอบสอบสวน สภ.แม่พริก จ.ลำปางเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1209 วันที่ 14 - 20 ธันว่าคม 2561)