
คำตอบมิได้อยู่ที่ความเป็นเจ้าของพื้นที่เดิม
ของพรรคเพื่อไทย ความแข็งแกร่งและบารมีที่สั่งสมมายาวนานจนมิอาจมีใครเทียบได้สำหรับไพโรจน์
โล่ห์สุนทร พี่ใหญ่ของพรรคเพื่อไทยลำปาง แต่อยู่ที่ปัจจัยแวดล้อม ปัจจัยคู่แข่งของพรรค
ที่ล้วนอ่อนเปลี้ยเสียขา และกำลังถูกรุมกินโต๊ะอย่างหนักกรณีพรรคพลังประชารัฐ
เพราะพลังประชารัฐ
ทำตัวเป็นบันไดให้เผด็จการสืบทอดอำนาจ
สถานการณ์เช่นนี้เองที่เป็นปัจจัยเอื้อต่อการเติบโตขยายตัวของพรรคเพื่อไทย
โดยเฉพาะการเติบโตในทุกครั้งหลังการรัฐประหาร และความพยายามที่จะบดขยี้ทักษิณ
ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะเป็นในยุค คมช.หรือยุค คสช. ไม่ว่าจะเป็นความพยายามดิสเครดิต
เช่น ปฎิบัติการคลิปพิศวาส หรือการร่างกติกาผ่านบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ
เพื่อปูทางในการคืนสู่อำนาจ
น่าเห็นใจคนพรรคพลังประชารัฐ
ที่ล้วนอาวุโสทางความรู้และประสบการณ์ แต่อ่อนด้อยอย่างยิ่งทางการเมือง
พวกเขาไม่เคยเรียนรู้ ไม่เคยสรุปบทเรียนเลยว่า พรรคที่สนับสนุนทหารไม่ว่าจะเรียกชื่ออย่างไรหลังการเลือกตั้งแพ้พรรคไทยรักไทย
พลังประชาชนต่อมาเปลี่ยนเพื่อไทยมาทุกครั้ง
คมช.มีแผนบันได
4
ขั้น ที่จะลบระบอบทักษิณ ออกจากสารบบการเมืองไทย
แต่เลือกตั้งเดือนธันวาคม 2550 ไทยรักไทยก็ชนะอย่างเบ็ดเสร็จ
ถึงการเลือกตั้งเดือนกรกฎาคม 2554 ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ก็นำพรรคเพื่อไทยชนะทุกพรรคอย่างถล่มทลาย
นับเป็นม้าตีนต้นสำหรับพรรคพลังประชารัฐ
เมื่อกลุ่มสามมิตรนำอดีตส.ส.เกรดเอ ราว 60 คน เข้าซบอกและพรรคนี้ยืนยันจะเสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์
จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี สำหรับลำปาง ดาชัย เอกปฐพี
ซึ่งชื่อชั้นทางการเมืองนับว่าใช้ได้ ก่อนหน้านี้ แต่พลันที่โดดไปร่วมหอลงโรงกับพรรคประชารัฐคะแนนก็ตกทันที
ถึงกระนั้น
ก็พอให้ราคาได้ว่า เพื่อไทยจะเป็นคู่แข่งพลังประชารัฐ ในฐานะพรรคการเมืองต่างขั้ว
แต่จะเป็นคู่แข่งที่ห่างชั้นแค่ไหนไม่สามารถยืนยันได้
ในขณะเดียวกันก็ไม่ควรประมาทสุนี สมมี แห่งพรรคภูมิใจไทย บุญชู ตรีทอง
พรรคประชาธิปัตย์ “ม้าสีหมอก” บวกลบคูณหาร วิเคราะห์คาดการณ์ไปตามประสานักข่าวการเมือง
ในเขต 2
คิดเล่นๆ หาก ไพโรจน์ โลห์สุนทร บุญชู ตรีทอง สุนี สมมี ดาชัย
เอกปฐพี ต่างลงสู้ศึกเลือกตั้งเขตนี้ บอกได้เลยว่า จะเป็นสนามประลองกำลังเข้มข้น
ดุเดือด ยิ่งกว่าสนามแข่งเอฟ วัน
การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่
24
กุมภาพันธ์ 2562 ประเมินตัวคน สถานการณ์ชื่อ ชั้นแล้ว
“ม้าสีหมอก” ฟันธง พรรคการเมืองที่มีโอกาสมากที่สุด คือพรรคเพื่อไทย
ด้วยฐานเสียงที่แน่นหนา ประกอบกับคุณสมบัติของผู้สมัคร
ซึ่งสืบทอดกันมาจากนักการเมืองรุ่นเก่าที่ยังคงครองใจคนลำปางเหนียวแน่น โอกาสที่พรรคการเมืองอื่นจะเบียดแทรกเข้ามาน้อยอย่างยิ่ง
แม้ก่อนหน้าการเลือกตั้งปี
2544 จะมีหลายพรรคสลับกันมาเป็นผู้แทนคนลำปาง แต่นับจากนั้น
พรรคไทยรักไทยครองที่นั่งอย่างเบ็ดเสร็จ จนกระทั่งเลือกตั้งปี 2550 ไทยรักไทย ซึ่งเปลี่ยนมาเป็นพลังประชาชน และสุดท้ายกลายมาเป็นเพื่อไทย
ก็ยังรักษาเก้าอี้ไว้ได้ทั้งหมด
เลือกตั้งครั้งนี้ พรรคเพื่อไทย
ก็คล้ายกับจะเดินตามรอยพรรคที่เป็นสารตั้งต้น คือพรรคไทยรักไทย และพลังประชาชน
คือถูกยุบพรรค อันเนื่องมาจากการที่ฝ่ายกฎหมาย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ
แจ้งความเอาผิด 8
แกนนำพรรค ปลุกปั่น มั่วสุม เกิน 5 คน
ระหว่างการแถลงข่าว “4 ปีที่ล้มเหลวของรัฐบาล คสช.”
เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แต่ถ้าพิเคราะห์ด้วยหลักกฎหมาย การปลุกปั่นมั่วสุม
ที่ทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองนั้น
ไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะนำไปสู่การยุบพรรคเพื่อไทยได้ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับผู้มีอำนาจหลังการเลือกตั้ง
หากเป็นฝ่ายตรงข้ามกับพรรคเพื่อไทย ก็มีความเป็นไปได้ ที่พรรคเพื่อไทยจะถูกวิชามาร
ยุบเป็นครั้งที่ 3
แต่โอกาสเช่นนั้น
อาจดูบางเบายิ่งเมื่อใกล้วันเลือกตั้ง ความละอ่อนของพรรคพลังประชารัฐ
ทั้งการพ่วงบัตรคนจน และบัตรสมาชิกพรรค โต๊ะจีน 600 ล้าน
ที่ล้วนมาจากทุนสีเทา คือจุดตายของพรรค กลายเป็นสถานการณ์ที่ทำให้มั่นใจได้ว่า
เลือกตั้ง กุมภาพันธ์นี้ ไม่ว่าในระดับประเทศหรือที่นี่ลำปาง ยังไม่อาจมีผู้ใดหักโค่นพรรคเพื่อไทยได้
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1211 วันที่ 28 ธันวาคม 2561 - 10 มกราคม 2562)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น