วันพฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2561

จี้ปลดประธานออมทรัพย์ครู ซัดไม่โปร่งใส่ 'นพดล' ยันบริสุทธิ์ แจงได้ทุกขั้นตอน

จำนวนผู้เข้าชม blog counter

สหกรณ์ออมทรัพย์ครูเป็นเรื่องอีก สมาชิกลงชื่อยื่นร้องเรียนคณะกรรมการดำเนินการชุดปัจจุบัน ทำงานไม่โปร่งใส ส่อทุจริตในการใช้งบประมาณ  จี้เปิดประชุมใหญ่วิสามัญถอดถอนประธาน  ด้านประธานสหกรณ์ฯยัน ชี้แจงได้ทุกข้อ เผยทุกกระบวนการผ่านกรรมการถึง 3 ชุด

เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.61 นายสมบูรณ์ วงศ์เรือน  สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูลำปาง จำกัด หน่วยอำเภอเมือง 1 ได้เข้ายื่นหนังสือต่อสหกรณ์จังหวัดลำปาง ร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่ประธานคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูลำปาง จำกัด และสั่งให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูลำปาง เปิดประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อดำเนินการถอดถอนประธานคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูลำปาง ชุดที่ 62 พร้อมกับได้แนบเอกสารเกี่ยวกับประเด็นการร้องเรียนต่างๆ และลายเซ็นของสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจำนวนหนึ่ง เพื่อเป็นเป็นหลักฐานในการยื่นหนังสือครั้งนี้  โดยมีนายนิกร กันเอ้ย ผอ.กลุ่มตรวจการสหกรณ์ เป็นผู้รับหนังสือแทน

ทั้งนี้ ตามหนังสือร้องเรียนดังกล่าว ระบุว่า ทางสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูลำปาง ได้ติดตามและตรวจสอบการทำงานของประธานคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูลำปาง ชุดที่ 62 พบพฤติการณ์ความไม่โปร่งใสส่อไปในทางทุจริต มีผลประโยชน์ต่างตอบแทน ก่อให้เกิดความเสียหายแก่สมาชิก  โดยมีการตั้งข้อสังเกตใน 3 ประเด็นด้วยกันคือ ข้อแรกมีการฝ่าฝืนมติ ไม่ปฏิบัติตามมติที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2560  คือ ที่ประชุมใหญ่ได้อนุมัติงบดำเนินการสรรหาผู้แทนสมาชิก 7 ล้านบาท เพื่อค่าใช้จ่ายเบี้ยประชุมและค่าพาหนะคนละ 800 บาท ในการสรรหาผู้แทนสมาชิก ประจำปี 2561 แต่กลับจ่ายให้สมาชิกที่เข้าร่วมประชุม เฉพาะค่าพาหนะคนละ 300 บาท  เป็นการลิดรอนสิทธิพึงได้ของสมาชิกสหกรณ์   ข้อสอง กระทำการอันน่าเชื่อว่าทุจริตต่อหน้าที่ และจงใจไม่รักษาผลโยชน์ของสมาชิก โดยมีผลประโยชน์ทับซ้อน กรณีการต่ออายุกรมธรรม์กับบริษัทไทยสมุทรประกันชีวิตจำกัด(มหาชน) เดิมเบี้ยประกัน 475 บาท เพิ่มเป็น 550 บาท โดยไม่เปิดโอกาสให้บริษัทอื่นเข้ามาเสนอราคา   และข้อสาม มีการกระทำอันน่าเชื่อว่าทุจริต ไม่ควบคุมและตรวจสอบการทำงานในการอนุมัติจัดซื้อซุ้มเฉลิมพระเกียรติฯ ร.10 สูงเกินจริง  โดยใช้งบประมาณ 125,000 บาท   ซึ่งการเปรียบเทียบการเสนอราคาตามสเปคที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูกำหนด เมื่อเทียบกับแห่งอื่น จัดทำเพียง 53,500 บาท  และเทียบกับสเปคของซุ้มเฉลิมพระเกียรติที่มีขนาดใหญ่กว่าของสหกรณ์ออมทรัพย์ครู ก็มีราคา 99,000 บาท  ยังต่ำกว่าราคาที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูลำปางจัดซื้ออยู่ จึงเชื่อว่าเกิดการทุจริตในการดำเนินการดังกล่าว

นายสมบูรณ์ วงศ์เรือน กล่าวว่า ค่อนข้างมั่นใจว่าทางคณะกรรมการชุดนี้มีความผิดจริง เนื่องจากตามระเบียบที่ประชุมใหญ่ได้อนุมัติออกมาแล้ว แต่ทางคณะกรรมการไปปรับเปลี่ยนมติของที่ประชุมใหญ่ เกี่ยวกับเรื่องการลดเบี้ยประชุมของสมาชิก จาก 800 บาทเหลือ 300 บาท บอกว่าประหยัดงบประมาณ ซึ่งมติที่ประชุมใหญ่ถือว่าสำคัญที่สุด แต่กรรมการชุดนี้เอามติของตัวเองเป็นหลัก ส่วนเรื่องการทำประกันชีวิตก็ไม่ได้มีการประมูลหาบริษัทใหม่ ได้มีการต่อสัญญาไปและเพิ่มเบี้ยประกัน สมาชิกต้องรับภาระเพิ่มอีก 75 บาทต่อคน จาก 457 บาท เป็น 550 บาท เป็นผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ก็ไม่ทราบได้  และเรื่องการจัดซื้อซุ้มเฉลิมพระเกียรติ มีราคากลางทั่วไป จากการตรวจสอบพบว่าราคา 5-6 หมื่นบาท แต่ของสหกรณ์ออมทรัพย์ครู คณะกรรมการได้ไปดำเนินการกันเอง จัดซื้อมาในงบประมาณ 1 แสนกว่าบาท

นายนิกร กันเอ้ย ผอ.กลุ่มตรวจการสหกรณ์  ต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเรื่องต่างๆได้กระทำตามข้อระเบียบและกฎหมาย หรือมีผลประโยชน์หรือไม่ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสมาชิกโดยรวมหรือไม่ กรณีพบว่ามีความผิดจริง ต้องดูลักษณะโทษว่าเป็นเช่นไร ซึ่งมีทั้งตามกฎหมายแพ่งและกฎหมายอาญา ส่วนวิธีการยื่นถอดถอนนั้นจะต้องเรียกประชุมสามัญ หรือวิสามัญประจำปี และเสนอถอดถอนจากที่ประชุมใหญ่ ในกรณีที่มีเหตุชัดเจนว่ามีความผิดจริง อย่างไรก็ตามต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน ซึ่งการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นจะทำภายใน 15 วัน แต่จะยังไม่ได้ระบุว่าถูกหรือผิด ต้องมีการพูดคุยกับทางคณะกรรมการของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูด้วย แต่อย่างไรก็ตามจะต้องทำตามกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนด เมื่อตรวจสอบเสร็จแล้วก็จะแจ้งให้ผู้ร้องทราบเรื่อง

ด้านนายนพดล อินปา ประธานดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูลำปาง ชุดที่ 62  ได้เปิดเผยถึงกรณีการถูกร้องเรียนว่า เรื่องเบี้ยประชุมได้มีการเสนอในที่ประชุม โดยมีคณะกรรมการเกี่ยวข้องอยู่ 3 ชุด คือ คณะกรรมการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ ได้เสนอมา 800 บาท เป็นค่าเบี้ยเลี้ยง 500 บาท ค่าพาหนะ 300 บาท แต่เมื่อเข้าคณะกรรมการอำนวยการ ชุดกลั่นกรองก่อนเข้ากรรมการชุดใหญ่ ได้ตัดค่าเบี้ยเลี้ยงออก เหลือค่าพาหนะเพียง 300 บาท โดยให้เหตุผลว่าเป็นการประหยัดงบประมาณ และถ้าจ่าย 800 บาท สมาชิกจะไม่ได้รับทุกคน เพราะสมาชิกส่วนหนึ่งที่เป็นผู้สูงอายุ และเจ็บป่วยไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้ และนำมติเข้าที่ประชุมของคณะกรรมการดำเนินการซึ่งมีอยู่ 15 คน ก็ได้เห็นชอบให้จ่ายเฉพาะค่าพาหนะ 300 บาท  ไม่มีนอกมีใน หรือมีทุจริตอย่างแน่นอน

ส่วนเรื่องซุ้มเฉลิมพระเกียรตินั้น ไม่ได้มีการประเมินราคากลางไว้ แต่มีการเทียบกันระหว่างผู้เสนอราคา 2 เจ้า ซึ่งได้ผ่านการตรวจสอบจากผู้ตรวจสอบกิจการและคณะกรรมการ 3 ชุด คือ คณะกรรมการต่อรองราคา คณะกรรมการควบคุมการก่อสร้าง และคณะกรรมการตรวจรับ ยืนยันว่าเป็นไปตามระเบียบ
การต่อสัญญาประกันชีวิตกับบริษัทไทยสมุทรประกันชีวิตจำกัด เดิมเมื่อปีก่อนมีเบี้ยประกันคนละ 475 บาท ทุนประกัน 1 แสนบาท คุ้มครอง 1 ปี เมื่อปีก่อนก็ได้ขอเบี้ยประกันเท่าเดิม  ซึ่งเคยมีการจัดประมูล และมีอีกบริษัทหนึ่งเสนอ เบี้ยประกันคนละ 550 บาท  จึงเลือกทำกับบริษัทเดิม ต่อมาในปีนี้ทางบริษัทไทยสมุทร ได้ขอขึ้นเบี้ยประกันเป็น 550 บาท โดยอ้างเหตุผลว่าบริษัทขาดทุน  หากว่าจะต้องเปิดการประมูลใหม่จะทำให้สมาชิกที่ทำประกันอยู่เดิม ต้องมีระยะเวลารอคอย 1 ปี  ถึงจะได้รับเงินค่าสินไหมทดแทนกรณีการเกิดอุบัติเหตุหรือเสียชีวิต เนื่องจากประกันไม่ได้มีการตรวจสุขภาพใดๆ จึงต้องมีระยะรอคอย 1 ปี เพื่อให้ผู้ประกันรักษาสุขภาพให้แข็งแรงภายใน 1 ปี  ซึ่งมีกรณีตัวอย่างว่า มีสมาชิกรายหนึ่งเสียชีวิตก่อนครบ 1 ปี ทำให้ไม่ได้รับสินไหมทดแทน  คณะกรรมการคำนึงถึงผลประโยชน์ของสมาชิก จึงต่อกับบริษัทไทยสมุทร ซึ่งราคาไม่สูงไปกว่าอีกบริษัทหนึ่ง

ประธานดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ครู กล่าวทิ้งท้ายว่า ยืนยันว่าคณะกรรมการชุดนี้ไม่ได้เป็นไปตามที่ถูกกล่าวหา สามารถชี้แจงต่อผู้มีอำนาจได้ทุกประเด็น ถ้าผู้กล่าวหาไม่พึงพอใจในคำชี้แจงก็ยื่นขอเปิดประชุมวิสามัญได้ แต่ตนเองจะไม่รอ จะนำเข้าในที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปีในวันที่ 20 ธันวาคม 61 นี้ เพื่อให้สมาชิกได้พิจารณาตัดสินร่วมกัน


(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1208 วันที่ 7 - 13 ธันวาคม 2561)
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์