
บรรยากาศของงานฤดูหนาวและกาชาดจังหวัดลำปาง
ประจำปี 2562 วันที่ 14-23 ธันวาคม 2561 ที่เพิ่งผ่านพ้นไปก็ยังคงกลายเป็นตำนาน
งานปาโป่งและเรื่องราวของปัญหาการเก็บค่าจอดรถ ทุกปีไม่มีเปลี่ยนแปลง
ซึ่งเรื่องหนี้หน่วยงานจังหวัดที่มีอำนาจทั้งงบประมาณและการบริหารจัดการ
ก็ยังคงต้องรับหน้าและมึนกับการแก้ปัญหาแบบหูทวนลมกันไปอีกปี
ปัญหาที่น่าตกใจที่ใครอาจไม่คาดคิดคือเรื่องความสะอาด
สุขอนามัยของการปรุงอาหารขายภายในงาน เนื่องจากเป็นงานขนาดใหญ่ที่ไม่มีจุดซักล้าง
และปรุงอาหารเป็นการเฉพาะเหมือนงานแฟร์อื่นๆที่มีมาตรฐาน โดยผู้ประกอบการร้านค้าอาหาร
ก็หาน้ำล้าง และปรุงอาหารกันตามสภาพจะเรียกว่าตามมีตามเกิดก็ไม่น่าผิด เท่าที่เดินสำรวจดูแต่ละร้านค้าก็น่าตกใจ
ว่าเอาเอาน้ำถังที่สั่งซื้อจากบริษัทขายน้ำถังไว้ปรุงอาหาร เพียงแค่ 1-2 ถัง
บางรายเห็นเป็นถังน้ำหิ้วแบบแกลลอนขนาดใหญ่ คำถามคือ แล้วน้ำเหล่านั้นคือ
น้ำจากไหนที่เขานำมาใช้ปรุงอาหาร
อีกส่วนหนึ่งคือ
การใช้สารปรุงแต่งอาหาร แบบผสมสีและวัตถุดิบผสมอาหารนั้นปลอดภัยตามหลักสาธารณสุขแค่ไหน
นั้น เจ้าหน้าที่สาธารณสุขมีมาตรฐานในการตรวจสอบ และได้เข้ามาตรวจสอบกันหรือไม่ เพราะเวลามีงานขายสินค้าโอทอป
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขตรวจอาหารและตรวจพื้นที่จัดวางทุกกระเบียดนิ้ว
แต่ผู้ประกอบการรถเร่ที่มาเป็นคาราวานกับกลุ่มจัดงานตลาดนัดและงานวัด
งานฤดูหนาวทั้งหลาย เคยมีใครตรวจสอบบ้างหรือไม่???
ในงานปีนี้มีความไม่น่ารักหลายจุด
จนชาวเนตลำปางบ่นกันจนเป็นเรื่องเป็นราวหลายประเด็น แต่เรื่องผลประโยชน์ของการเก็บค่าเช่าพื้นที่ในงานนั้น
ดูจะแรงเป็นประเด็นหลัก
จากการสอบถามค่าเช่าร้านเต็นท์รอบสนามกีฬา
สนนราคาก็ 30,000 บาท ส่วนรถเข็นเร่ที่จอด ขายลูกชิ้น นกกระทาทอด ขนมไข่ ผัดไทยทั้งหลายที่มาเป็นราคาวาน
เช่าเหมารายละ 3-4 พันบาท ส่วนจะเลือกจอดที่ไหนก็
ตามใจชอบ
มีร้านรถเข็นบางรายมาจอดแถวใกล้กาชาด
โซนนิทรรศการ บังหน้าร้านนิทรรศการหน่วยงานราชการแบบไม่แยแส จอดแทรก
เป็นอาหารของทอด มีกระทะชุบแป้ง เตาทอด เลอะเทอะ ติดกันพื้นที่นิทรรศการ
ไม่มีใครไปจัดการกับเขาได้เพราะอ้างว่า “ฉันจ่ายค่าที่แล้ว”
สิ่งที่เกิดขึ้นชี้ให้เห็นถึงความไม่ยุติธรรมของการบริหารเงินและพื้นที่
โดยมีผลประโยชน์ที่ไม่เป็นธรรม
ในงานฤดูหนาวทั้งงานหาถังขยะจุดทิ้งขยะได้น้อยมาก
ระบบจัดการขยะเข้าขั้นแย่ ผลประโยชน์ที่จัดสรรกับบริษัทผู้ประมูลพื้นที่
น่าจะมีกรอบข้อตกลงเรื่องความสะอาด และความเป็นระเบียบแผงลอย
ห้ามล้ำแนวเขตที่เหมาะสม เพราะร้านแผงลอยเหล่านี้ล้วนมาจากต่างถิ่น
เอาเปรียบร้านค้าคนลำปาง ที่ต้องหลบไปอยู่ในโซนนิทรรศการและโอทอป ทำเลที่กำหนด
จะขายสู้ ร้านแผงลอยที่เข็นจอดไปทั่วได้อย่างไร
ระบบการจัดพื้นที่งานที่เอื้อประโยชน์
ให้กับพ่อค้าแผงลอยคาราวานต่างถิ่น มากกว่าร้านค้าของคนลำปาง อันนี้ต้องกลับมาทบทวนว่า งานนี้เอื้อประโยชน์ใคร
..กันแน่
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น