
ผู้ว่าฯ
ทรงพล ลุยท่องเที่ยวปี 62 บุกตลาดกรุงเทพฯ เปิดตัวลำปางปลายทางฝัน และจัดงานใหญ่มหกรรมเซรามิกฯ
โปรโมทเต็มรูปแบบ มั่นใจลำปางเป็นดาวรุ่งเมืองรองที่ไม่เป็นสองรองใคร เป้าหมายภายใน
2 ปีนักท่องเที่ยวจาก 9
แสนคนเพิ่มขึ้นเป็น 2 ล้านคน
จากที่นายทรงพล
สวาสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เข้ามาดำรงตำแหน่งที่ จ.ลำปาง ครบรอบ 1 ปี
และลานนาโพสต์ได้มีโอกาสพูดคุยถึงการดำเนินงานต่างๆในรอบปีที่ผ่านมา
รวมถึงแผนการทำงานในปี 62
ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้ประกาศเดินหน้าลำปาง สร้างสรรค์ปันสุข
เฟส 2 เน้นการบริหารจัดการจังหวัดลำปาง 8 ข้อด้วยกัน คือ
ลำปางตามรอยพ่อ , ลำปางเกษตรสุขภาพ, ลำปางปลายทางฝัน ก้ามข้ามเมืองผ่าน ,
ลำปางนครหัตถศิลป์ถิ่นอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ , ลำปางเมืองแห่งการเรียนรู้ ,
ลำปางปันสุข ,ลำปางแข็งแรง และภูมิใจลำปาง รักลำปาง รักษ์วิถีล้านนา
โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวนั้น
จังหวัดลำปางได้มีการจัดกิจรรมต่างๆขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี
ลานนาโพสต์ได้สัมภาษณ์พิเศษผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ถึงกิจกรรมการท่องเที่ยวในปี 2562
ซึ่งมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย
นายทรงพล
สวาสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า
เราได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าไว้ก่อนแล้ว ในเรื่องส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดลำปางที่ต่อเนื่องกันในปี
2561 และ 2562 จะเห็นว่าในส่วน
อ.เมือง มีการเพิ่มเรื่องของสตรีทอาร์ตขึ้นมา มีการปรับปรุงบ้านหลุยส์จัดงานให้เป็นเอกลักษณ์ทุกเดือน
ปรับปรุงบริเวณกิ่วลมทั้งทางลงเรือ และบริเวณแค้มป์ปิ้ง ลานสันทนาการ
ขณะนี้ใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว เพื่อที่จะเชื่อมต่อกับที่ อ.เมืองปาน ซึ่งได้พัฒนาบ้านป่าเมี่ยง
บ้านแม่แจ๋ม มีการริเริ่มทำสิ่งใหม่ขึ้นมาคือกิ่วหิน
จุดถ่ายรูปต่างๆ ซึ่งเป็นจุดขายสำคัญที่เชื่อมโยงกับอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน อีกส่วนหนึ่งทางขึ้นวัดวัดพระพุทธบาทสุทธาวาส
(วัดเฉลิมพระเฉลิมฯ) อ.แจ้ห่ม
ได้ให้งบประมาณในการปรับปรุงเส้นทางแล้ว
และส่วนหนึ่งก็ปรับปรุงในเรื่องของถนนบางจุดที่ยังติดขัด รวมทั้งดอยฟ้างามได้มีการประสานกับภาคเอกชนและชุมชนให้ดำเนินการทำทางขึ้นไปได้โดยสะดวก ส่วนที่
อ.แม่ทะ มีวัดพระธาตุดอยพระฌานเป็นสถานที่สวยงามบนดอยสูง ต่อไปจะมีการปรับปรุงวัดพระธาตุสันดอน
จะมีการเพิ่มขัวแตะ
ผู้ว่าราชการจังหวัด
กล่าวว่า นอกจากการส่งเสริมการท่องเที่ยวแล้ว ได้มีการวางแผนการประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการตลาดที่วางไว้ค่อนข้างเป็นระบบคือการใช้แคมเปญ
“ลำปางปลายทางฝัน” จุดหมายปลายทางของทุกความฝัน มีการกำหนดเป้าหมายเฉพาะ แยกเป็นแคมเปญตามกลุ่มย่อย
เช่น การเที่ยวตามรอยภาพยนตร์ การเที่ยวไหว้พระทำบุญ การเที่ยวธรรมชาติผจญภัย เที่ยวแบบเรียนรู้ดูงาน
จะเชื่อมโยงและเจาะกลุ่มเป้าหมายแทบทุกกลุ่ม จะทำให้ลำปางเป็นจุดหมายปลายทางของทุกความฝัน
การประชาสัมพันธ์จะต้องวางเป้าหมายไปยังตลาดหลักในจังหวัดใหญ่ของแต่ละภาค
ไม่ว่าจะเป็น กรุงเทพมหานคร ซึ่งได้มีการติดตั้งป้ายคัทเอาท์ทางไปสนามบินทั้ง 2 แห่ง
มีการติดตั้งจอแอลอีดีที่สนามบินดอนเมือง และอีกหลายแห่งในตัวเมืองกรุงเทพฯ มีการโฆษณาจุดสำคัญสถานีรถไฟฟ้า
รถไฟใต้ดิน ในภาคเหนือจะมีการประชาสัมพันธ์ที่จังหวัดเชียงราย
เชียงใหม่ ส่วนภาคใต้ที่จังหวัดสงขลา
เป็นต้น โดยมีการวางจุดเน้นที่แตกต่างกันออกไป เช่น จังหวัดเชียงใหม่ จะมีแคมเปญ “อีกนิดเดียวเที่ยวลำปางปลายทางฝัน”
ซึ่งได้ทำไปแล้วค่อนข้างเยอะพอสมควร
นายทรงพล
กล่าวต่อไปว่า ขณะเดียวกันจะมีการเชิญบล็อกเกอร์ต่างๆ รวมทั้งผู้ประกอบการท่องเที่ยวลงมาในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
จังหวัดจะเน้นนักท่องเที่ยวที่มาจากภายในประเทศ ส่วน ททท.จะเน้นในเรื่องของนักท่องเที่ยวต่างชาติ
กลุ่มแรกจะเป็นทางยุโรป เจาะไปที่ประเทศเยอรมัน โดยชูลำปางเป็นเมืองคลาสสิค
เชื่อมโยงกับที่เชียงใหม่ กลุ่มที่ 2 จะเป็นประเทศอินเดีย รัสเซีย กลุ่มที่ 3 คือนักท่องเที่ยวจีน
และยังมีต่อไปเฉพาะในกลุ่มของนักท่องเที่ยวคู่รักที่มาฮันนีมูนในประเทศไทย
เราไม่ได้คาดหวังว่ากิจกรรมแต่ละงานคนจะต้องเข้ามาเยอะมากแค่ไหน
แต่เป้าหมายของเราคือต้องการให้เกิดภาพลักษณ์ของเมืองให้มีกิจกรรมดึงคนเข้ามา ซึ่งผลที่ตามมาเด่นชัดหลังจากที่ผู้ประกอบการ
บล็อกเกอร์ และสื่อมวลชน จากกรุงเทพ เชียงใหม่ พิษณุโลก เชียงราย เข้ามาสังเกตการณ์ต่างๆ
หลังจากนั้นก็มีนักท่องเที่ยวเข้ามาต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงวันเสาร์อาทิตย์
สำหรับกิจกรรมในปี
62 ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง
กล่าวว่า สิ่งที่ต่อเนื่องกันไปจะมีอีก 3-4
กิจกรรม อันแรกในอำเภอเมืองจะมีงานช้าง ม้า ไก่ รถไฟลำปาง
เป็นการเชื่อมต่อ หลังจากที่มีการปรับปรุง สตรีทอาร์ท และประติมากรรมแล้ว เหมือนเป็นการเปิดตัวสตรีทอาร์ทลำปางอย่างเป็นทางการ
การชูให้เป็นเมืองของคนรุ่นใหม่ โชว์การเป็นเมืองศิลปะ โดยจะเปิดตัวช่วงปลายเดือนมกราคม และอีกกิจกรรมคือที่บ้านป่าเหมี้ยง หลังจากมีการปรับปรุงเสร็จ
จะมีเทศกาลดอกเสี้ยวบานบ้านป่าเหมี้ยง ในปีนี้จะขยายเพิ่มเป็นการเปิดหมู่บ้านป่าเหมี้ยง
เพื่อยกระดับงานขึ้นมาให้เป็นพิเศษ ดึงนักท่องเที่ยวจากเชียงใหม่เข้ามา และอีกงานคือบริเวณเขื่อนกิ่วลม
กำหนดว่าประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์ จะมีการเปิดลานสันทนาการ
ลักษณะเทศกาลท่องเที่ยวเขื่อนกิ่วลม เพื่อฟื้นเรื่องของความทรงจำกิ่วลม
จากนิยายเรื่องของชาวเขื่อน ซึ่งได้มีการปรับภูมิทัศน์ มีสวนสาธารณะและน้ำตก
ให้ประชาชนได้เข้ามาพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติอย่างสวยงาม
และจะมีงานหลัก
2 งาน ที่กรุงเทพฯ คือ งานเปิดตัว ลำปางปลายทางฝัน ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นการ Open House ลำปาง 4 มิติใหม่ คือ ส่งเสริมการท่องเที่ยว
ส่งเสริมการเป็นนครหัตถศิลป์ถิ่นหัตถกรรมสร้างสรรค์
เน้นเซรามิกไม้เครื่องจักสานผ้าทอ ส่งเสริมเรื่องอาหารลำปางลำแต๊ และ ส่งเสริมลำปางเกษตรสุขภาพ
จะมีการจัดงานที่เซ็นทรัลเวิลด์ โดยก่อนเริ่มงานจะนัดชาวลำปางทั้งหมดที่อยู่กรุงเทพฯมาพูดคุยกัน
เพื่อให้ทราบถึงมุมมองและทิศทางในการพัฒนาลำปางในแต่ละเรื่อง และรับฟังข้อเสนอแนะว่าควรจะทำอะไรบ้าง
เพื่อรับทราบทุกมุมมองของชาวลำปางที่อาศัยอยู่กรุงเทพมหานครว่าจะร่วมกันอย่างไรเพื่อเดินหน้าลำปางต่อไป
ส่วนอีกงานหนึ่งคือ
คาดว่าจะจัดงานในช่วงวันที่ 1-5 พฤษภาคม ก็คืองานมหกรรมเซรามิคและหัตถกรรมลำปาง
จะยกเฉพาะเซรามิก ซึ่งที่ลำปางมีการจัดงานลำปางเซรามิกแฟร์เป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว
มีนักท่องเที่ยวส่วนหนึ่งเพื่อมาเที่ยวชมงาน แต่เราจะรุกไปอีกก้าวหนึ่ง ปีที่แล้วได้เริ่มจัดงานที่เมืองทองธานีเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างจังหวัด
สภาอุตสาหกรรม สมาคมเครื่องปั้นดินเผา สหกรณ์เซรามิกฯ และ กลุ่มโอทอปต่างๆ เน้นในเรื่องลำปางนครหัตถศิลป์
ถิ่นหัตถกรรมสร้างสรรค์โดยเฉพาะ
เพื่อชูเรื่องเซรามิกว่าจังหวัดลำปางเป็นนครแห่งเซรามิคที่มีเอกลักษณ์ ทั้งด้านศิลปะ
การออกแบบ และความริเริ่มสร้างสรรค์ มาประกอบ
“คาดหวังว่าในช่วง
2 ปีนี้จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเป็นรูปประธรรม
ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2561 และคาดหวังว่าลำปางจะเป็นดาวรุ่งในบรรดาเมืองรอง
นักท่องเที่ยวจะเข้ามาเที่ยวมากขึ้น เชื่อมั่นว่าจะไม่เป็นสองรองใคร”
ผู้ว่าราชการจังหวัดกล่าว
เมื่อสอบถามถึงการตั้งเป้าหมายยอดนักท่องเที่ยว
นายทรงพล กล่าวว่า ก่อนหน้านี้พอได้มีการทำสถิตินักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวในจังหวัดลำปาง
ช่วงประมาณปี 2560
มียอดจำนวนประมาณ 9 แสนคน แต่ได้มีการตั้งเป้าว่าใน
2 ปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นอยู่ที่ประมาณ 2
ล้านคน ซึ่งตอนนี้มั่นใจว่ามีเพิ่มขึ้นมาในระดับหนึ่ง จากการที่เราได้มีการจัดกิจกรรมเสริมต่างๆเพื่อกระตุ้นในเรื่องท่องเที่ยวโดยเฉพาะ
ด้านหนึ่งมาจากบอกต่อ ส่วนอีกด้านหนึ่งคือการจัดกิจกรรมต่างๆเป็นการโปรโมทให้มาเที่ยวต่อเนื่องตลอดทั้งปี ต่อไปจะจัดโปรแกรมให้ลำปางเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ในลักษณะของลำปาง
365 วัน ไม่มีช่วงโลซีซั่น หรือไฮซีซั่น จะพยายามจัดกิจกรรมกระจายในทุกช่วงของปี เพียงแต่ในช่วงหน้าหนาวจะมีการจัดกิจกรรมมากเป็นพิเศษ
ซึ่งจะเป็นความร่วมมือจากทุกภาคส่วน การท่องเที่ยวไม่ใช่แค่สร้างรายได้ แต่ต้องมีส่วนในการกระจายรายได้ไปในชุมชนและลดความเหลื่อมล้ำด้วย
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 1212 วันที่ 11 - 17 มกราคม 2562)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น