สัตว์แพทย์เร่งช่วยชีวิตช้างป่วย
ไม่สามารถอ้าปากและเคี้ยวอาหารได้ สาเหตุยังไม่ระบุชัดเจน เผยพบไม่บ่อยต้องรักษาไปตามอาการ
และจะประสานภาคส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาตรวจและวินิจฉัยให้เร็วที่สุด
เพื่อที่จะให้ช้างเชือกนี้มีชีวิตอยู่รอดต่อไป
น.สพ.ศรัณย์
จันทร์สิทธิเวช ผู้จัดการส่วนอนุรักษ์ช้างลำปาง-กระบี่ สถาบันคชบาลแห่งชาติฯ อ.อ.ป.
เปิดเผยว่า โรงพยาบาลช้าง ได้รับตัวช้างพังรุ่งนภา อายุ 56 ปี
ซึ่งเป็นช้างมาจาก จ.ราชบุรี เข้ามารักษาอาการป่วยเนื่องจากไม่สามารถอ้าปาก
เคี้ยวอาหาร ดื่มน้ำ และทานอาหารเองได้
ในเบื้องต้นได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์กำแพงแสนฯ
แต่เนื่องจากอาการหนักมากขึ้นจึงถูกส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลช้าง
ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยฯ จ.ลำปาง
โดยในเบื้องต้นได้มีการระดมทีมสัตว์แพทย์จากหลากหลายแห่ง
เช่น โรงพยาบาลช้าง ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยฯ สัตวแพทย์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
สัตวแพทย์มหาลัยเกษตรศาสตร์ สัตวแพทย์มหาวิทยาลัยมหิดล และอีกหลายแห่งที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบวินิจฉัยอาการ
และเริ่มให้การรักษาที่โรงพยาบาลช้าง ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยฯ
ตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา พบว่าช้างไม่สามารถอ้าปากได้เคี้ยวอาหารได้ จากการตรวจพบฟันของช้างไม่สบกัน
แต่เมื่อรักษาไปแล้วพบว่าอาการยังไม่ดีขึ้น
และทางสัตวแพทย์ก็วินิจฉัยพบกรามของช้างผิดปกติ จึงได้รักษาโดยการฉีดยาปฏิชีวนะ
ให้สารน้ำทางเส้นเลือด วันละไม่ต่ำกว่า 40-50 ลิตร ให้สารอาหาร
รวมทั้งปั่นอาการเช่นกล้วย สับปะรด หญ้า เสริมวิตามิน ให้ละเอียดแล้วผสมน้ำ
สอดผ่านทางสายยางเข้าไปยังกระเพาะอาหาร ครั้งละ 30-40 กิโลกรัม วันละ 3 ครั้ง
รวมทั้งให้สารอาหารทางทวารหนัก เพื่อให้ร่างกายช้างได้รับสารอาหารที่เพียงพอ และให้พลาสม่าหรือน้ำเลือดช้าง
ที่ได้รับบริจาคจากพังประจวบ ช้างของศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย
เพื่อให้โปรตีนทดแทนในส่วนที่ขาด โดยจากการรักษาผ่านมาแล้ว 1 เดือน
พบว่าช้างมีอาการที่ทรงตัว แต่ยังถือว่าอาการน่าเป็นห่วง ยังคงต้องตรวจสอบและวินิจฉัยกันต่อไปว่าสาเหตุมาจากอะไร ซึ่งการป่วยลักษณะนี้ เกิดขึ้นไม่บ่อยมากนัก
หรือว่าแทบจะไม่เคยเกิดขึ้น
แต่เมื่อช้างป่วยแล้วก็จะเร่งตรวจหาสาเหตุเพื่อที่จะรักษาช้างให้มีชีวิตยืนยาวต่อไป
น.สพ.ศรัณย์
ได้ฝากย้ำเตือนไปยังแหล่งเลี้ยงช้าง ปางช้าง ควาญช้าง
ทุกแห่งให้สังเกตพฤติกรรมช้างของตนเอง
หากพบว่าช้างมีอาการผิดปกติรีบแจ้งสัตว์แพทย์ในพื้นที่
เพื่อที่จะได้เข้าไปตรวจรักษาอาการได้อย่างทันท่วงที
เพราะโรคที่ช้างเจ็บป่วยหากรักษาไม่ทันจะทำให้ช้างล้มได้ทันที
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 1214 วันที่ 25- 31 มกราคม 2562)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น