กระบะชน 3 คันรวด เด็กชายเจ็บระนาว

จำนวนผู้เข้าชม

กระบะพุ่งชนกัน 3 คันรวด กลางแยกทางเข้า อ.เกาะคา บาดเจ็บ 3 คน  เบื้องต้นคาดรถคันก่อเหตุไม่ชำนาญเส้นทางจึงพุ่งชนรถคันอื่นๆต่อเป็นทอด กระบะคันกลางโดนหนักสุด พังยับทั้งหน้าและหลัง

เมื่อเวลาประมาณ 14.20 น.วันที่ 18 ก.พ.62  เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกาะคา อ.เกาะคา จ.ลำปาง ได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุรถชนหลายคัน บริเวณสามแยกไฟแดง หน้าวิทยาลัยการอาชีพเกาะคา ทางเข้า อ.เกาะคา ถ.พหลโยธิน ขาล่อง  ต.ศาลา อ.เกาะคา มีผู้บาดเจ็บหลายราย  จึงประสานเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยเกาะคา ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ  ก่อนจะแจ้งให้พนักงานสอบสวน ตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ต่อมา ร.ต.อ.สมชาย ปันทะนันท์  รอง สว.(สอบสวน)  ร.ต.ท.เครือพงศ์ชัย ขัตบุญเรือง  รอง สวป สภ.เกาะคา  ได้ไปถึงที่เกิดเหตุเบื้องต้น พบว่าเป็นอุบัติเหตุรถยนต์ชนกัน 3 คัน  คือ รถยนต์กระบะ ยี่ห้อนิสสัน สี่ประตู สีบรอนด์เงิน  หมายเลขทะเบียน กน 1607 ลำปาง จอดขวางอยู่กลางถนน  ท้ายรอยมีร่องรอยถูกชนจนยุบ  มีป้ายทะเบียนรถของรถคู่กรณีอีกคัน ติดคาอยู่ท้ายรถ ซึ่งเป็นรถยนต์กระบะยี่ห้อฟอร์ด เรนเจอร์ สีดำ หมายเลขทะเบียน ยก 9184 เชียงใหม่  สภาพรถพังยับทั้งด้านหน้า และด้านหลัง  และอีกคันเป็นรถยนต์กระบะ ยี่ห้อฟอร์ด หมายเลขทะเบียน  กต 5052 เพชรบูรณ์ พุ่งตกลงไปในร่องกลางถนน สภาพด้านหน้ารถพังยับเยิน  พบมีคนบาดเจ็บสาหัส  4 คน  เป็นเด็กชายอายุ 3 - 8 ปี  เจ้าหน้าที่กู้ภัยเกาะคา นำส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้  

จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า  รถคันที่ก่อเหตุชนคันแรก เป็นรถยนต์กระบะฟอร์ด  สีบรอนด์เงิน หมายเลขทะเบียน กต 5052 เพชรบูรณ์  ซึ่งมีนายวรัญญู สีข้อน อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 หมู่ 10 ต.โพธิ์ตาก อ.เมือง จ.นครพนม  เป็นคนขับรถ มาพร้อมกับเด็กชายในรถอีก 4 คน  ได้ขับพุ่งชนท้ายรถยนต์กระบะฟอร์ดคันสีดำ หมายเลขทะเบียน  9184 เชียงใหม่ มีนายชัยชนะ ใจสัก อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 233 หมู่ 10 ต.แม่แวน อ.พร้าว  จ.เชียงใหม่  ก่อนที่จะเสียหลักตกลงไปจอดแน่นิ่งในร่องกลางถนน  จากนั้นรถยนต์กระบะฟอร์ดสีดำ ได้ไถลอย่างแรงไปชนกับรถกระบะนิสสัน สีบรอนด์  หมายเลขทะเบียน กน 1607 ลำปาง  ที่อยู่ด้านหน้า  ของนายประยูร ปงธิยา  อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 190 หมู่ 7 ต.นาแก้ว อ.เกาะคา จ.ลำปาง  ซึ่งคนขับรถทั้ง 3 คัน บาดเจ็บเล็กน้อยยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่

สาเหตุคาดว่า ชายคนขับรถคันที่ก่อเหตุชนคันแรกนั้น อาจจะไม่ชำนาญเส้นทาง  เนื่องจากเส้นทางนี้เป็นทางตรง  และมีทางเบี่ยงซ้ายเพื่อให้รถวิ่งทางคู่ขนานได้  โดยที่ไม่ต้องจอดติดสัญญาไฟจราจร   ซึ่งคนขับอาจไม่ทันสังเกตว่ามีรถจอดติดสัญญาณไฟด้านหน้า  จึงพุ่งชนแบบไม่มีเบรก จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว  โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสอบสวนคู่กรณีทั้งหมดอย่างละเอียดอีกครั้ง

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสตืฉบับที่ 1218 วันที่ 22 - 28 กุมถาพันธ์ 2562)