
เลือกตั้งเริ่มแรง
ทำลายป้ายหาเสียง กรีดหน้า “กิตติกร”ยับ
ขณะที่ กกต.ประกาศคุณสมบัติครบ
เผยยังไม่มีเรื่องร้องเรียน
ด้านพรรคอนาคตใหม่เกิดประเด็นดราม่าการเลือกผู้สมัครไม่เป็นธรรม ส่วนผู้สมัคร ทษช.เดินหน้าหาเสียง
ไม่หวั่นกระแสยุบพรรค ระบุการแก้ปัญหาเป็นเรื่องของผู้บริหาร
การเลือกตั้งในพื้นที่
จ.ลำปาง เริ่มจะดูมีสีสันขึ้นมาบ้างแล้ว
หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดลำปาง
ได้ประกาศรับรองคุณสมบัติผู้สมัคร ส.ส.ลำปาง ครบทุกเขตทุกคน
โดยไม่มีใครขาดคุณสมบัติและถูกตัดออกจากสนามการเลือกตั้งในครั้งนี้ โดยผู้สมัคร เขต 1 ได้รับการรับรองคุณสมบัติทั้งหมด
30 คน ส่วนผู้สมัคร
เขต 2 มีจำนวน 29 คน ผู้สมัคร เขต 3 จำนวน 29 คน และผู้สมัคร เขต 4 จำนวน 29 คน
สำหรับบรรยากาศการหาเสียงเริ่มมีการติดตั้งป้ายหาเสียงของแต่ละพรรคให้เห็นกันมากขึ้น
ไม่น้อยกว่า 10
พรรค โดยเฉพาะในเขต 1 และเขต 3 ที่มีสีสันมากเป็นพิเศษ ส่วนเขต 3
และเขต 4 ยังคงเห็นเฉพาะพรรคใหญ่
ส่วนพรรคเล็กพอมีอยู่บ้างประปราย นอกจากนั้นยังมีรถแห่หาเสียงของพรรคการเมืองอีกหลายพรรคที่ออกส่งเสียงกล่าวถึงนโยบายของพรรคตนเอง
ให้ประชาชนได้รับทราบเพื่อตัดสินใจในการลงคะแนน
ขณะเดียวกันพบว่าเกิดการทำลายป้ายหาเสียงกันแล้ว โดยส่วนใหญ่ที่พบเป็นป้ายของนายกิตติกร
โล่ห์สุนทร ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 พรรคเพื่อไทย เบอร์ 10 ซึ่งพบป้ายเสียหายบริเวณ 2
จุด คือ ริมถนนเลี่ยงเมืองทางไปแยกป่าขาม 1
ป้าย โดยถูกฉีกเป็นรูปบริเวณมุมด้านซ้าย และที่เห็นเด่นชัด คือ
ป้ายที่ติดตั้งอยู่ด้านหน้าโรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย ถูกกรีดบริเวณใบหน้าจนขาดหายไป
และยังกรีดเป็นทางยาวอีกหลายแห่ง ขณะที่นายกิตติกร
ไม่ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด
และไม่ได้นำป้ายที่ถูกทำลายออก
โดยเจ้าตัวบอกว่าจะตั้งไว้เหมือนเดิมจนถึงวันเลือกตั้ง
ด้านนายฐิติพล
ทศรฐ ผอ.กกต.ลำปาง เปิดเผยว่า
ขณะนี้ยังไม่มีเรื่องการร้องเรียนแจ้งเข้ามาที่ กกต. ซึ่งก็พบว่ามีการทำลายป้ายเสียหายเช่นกัน และทางผู้สมัครก็ทราบ
แต่ไม่มีใครไปแจ้งความดำเนินคดี
ซึ่งเป็นสิทธิของตัวผู้สมัครเองว่าจะดำเนินการหรือไม่
ในส่วนของพรรคไทยรักษาชาติ
ที่มียื่นเสนอยุบพรรค
ขณะนี้เรื่องอยู่ในกระบวนการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ จ.ลำปางได้มีส่งผู้สมัครลง 2 เขต
คือ เขต 1 และเขต 3
ได้เดินทางมาไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลหลักเมืองจังหวัดลำปาง เพื่อเป็นสิริมงคลในการเลือกตั้ง
เมื่อเวลา
09.00 น. วันที่ 19 ก.พ.62 นายเรืองฤทธิ์
แสนจิตร ผู้สมัคร ส.ส.ลำปาง เขต 1
พรรคไทยรักษาชาติ เบอร์ 21 พร้อมด้วยทีมงาน
ได้เดินทางมาไหว้ศาลหลักเมืองจังหวัดลำปาง เพื่อขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ในการลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.
และสร้างขวัญกำลังใจในการเดินหน้าหาเสียงในพื้นที่เขต 1 ของจังหวัดลำปาง
หลังจากไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้ว
นายเรืองฤทธิ์ ได้ออกเดินหาเสียงพบปะกับพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อของภายในตลาดหลักเมือง
ต.หัวเวียง อ.เมืองลำปาง
ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดี
นายเรืองฤทธิ์
แสนจิตร ผู้สมัคร ส.ส.ลำปาง เขต 1
พรรคไทยรักษาชาติ เบอร์ 21 กล่าวว่า
ตนเองได้มาแนะนำตัวในฐานะที่เป็นผู้สมัครของพรรค
ซึ่งทางพรรคได้ส่งผู้สมัครลง 2 เขต คือ ตนเองอยู่ เขต 1 และ เขต 3 คือ
นายศุภภัทร มานะทัศน์ เบอร์ 24
โดยเราทั้งสองคนยังคงเดินหน้าหาเสียงตามปกติ ส่วนเรื่องของทางพรรคว่าจะเป็นอย่างไรต่อไปนั้น
ให้ผู้บริหารเป็นผู้ดำเนินการแก้ไข
จึงอยากขอกำลังใจจากประชาชนชาวลำปางมาในโอกาสนี้
ด้านพรรคอนาคตใหม่
ได้เกิดกระแสที่เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กว้างขวางในโลกโซเชียลมีเดียร์
กรณีความไม่ยุติธรรมในการเลือกผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 ลำปาง
โดยผู้ได้คะแนนไพรมารีโหวตอันดับ 1 กลับไม่ได้เป็นผู้ลงสมัคร
ในเรื่องนี้ ทางเพจดราม่าไฟท์ ได้มีการสัมภาษณ์ น.ส.ณิฎฌาพัทน์ แป้นแก้ว หรือ
อัน อดีตผู้ลงสมัคร ส.ส.เขต 1 ของพรรคอนาคตใหม่ ผู้ที่ชนะโหวตภายในแต่พรรคด้วยคะแนน 31 คะแนน แต่ไม่ได้รับเลือกให้ลงสมัคร ขณะนี้ นางฑิพาฏีพ์ ปวีณาเสถียร
ได้คะแนน 7 คะแนนกลับได้รับเลือกให้ลงสมัคร
ส.ส.ในครั้งนี้
น.ส.ณิฎฌาพัทน์
ได้กล่าวในบทสัมภาษณ์ว่า ครอบครัวตนเองเป็นสมาชิกพรรคนี้ตั้งแต่แรก
สำนักงานพรรคยังไม่ตั้งไม่ได้ด้วยซ้ำ ช่วยเหลือพรรคมาเรื่อย เพราะการจะส่ง
ผู้สมัครได้นั้น พรรคต้องหาสมาชิกให้ได้100คนก่อน หากมีไม่ถึงก็ไม่สามรถส่งผู้สมัครได้ทั้ง จังหวัด
ทุกคนในสำนักพรรคกังวลว่า จ.ลำปาง จะไม่สามารถส่งได้ เพราะสมาชิกมีน้อยเหลือเกิน
จึงตัดสินใจที่ลงสมัคร โดยให้สมาชิกพรรคคัดเลือก ไพรมารีโหวต ตนเองได้ 31 คะแนน
ส่วนผู้สมัครอีกคนได้ 7 คะแนน เมื่อสอบถามเหตุผลก็ได้คำตอบว่ากลัวเสียหน้า
ทั้งนี้
ลานนาโพสต์ได้ติดต่อไปยัง น.ส.ฌิฎฌาพัทน์ เพื่อสอบถามในกรณีดังกล่าว
ซึ่งได้รับคำตอบว่า ไม่ขอพูดอะไรอีกแล้ว
เพราะตอนนี้ตนเองคงไม่ได้คำตอบอะไรจากทางพรรค เนื่องจากลาออกจากสมาชิกพรรคแล้ว
กรณีที่มีการพูดถึงประเด็นที่สมัครสมาชิกพรรคซ้ำซ้อน ขอชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง
ตนเองเป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่มาตั้งแต่แรก และเมื่อลาออกแล้ว
ก็มาติดตามความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองอื่นๆเท่านั้น
และตอนนี้ก็ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใด
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสตืฉบับที่ 1218 วันที่ 22 - 28 กุมถาพันธ์ 2562)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น