วันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

VOICE TV หมู่บ้านกระสุนตก !

จำนวนผุ้เข้าชม เว็บเคาน์เตอร์
ท่ามกลางฝุ่นตลบ หลังปรากฎการณ์ไทยรักษาชาติ ทีวีดิจิตอล ค่ายบางนา ที่ล้วนแล้วขุนศึก คู่สงครามฝ่ายทักษิณ ชินวัตร เดินหน้าบดขยี้ รุกไล่พรรคไทยรักษาชาติในทุกช่องทาง ค่ายวิภาวดี ที่รู้กันอยู่ว่าใครเป็นกระเป๋าเงินให้ ก็ตั้งรับ รุกกลับผู้มีอำนาจ วิพากษ์วิจารณ์การเมือง อย่างดุดัน ไม่แตกต่างกัน ซึ่งหากถามว่า ทั้งสองช่องสถานี ใช้เสรีภาพเกินเลยไปจากหน้าที่ปกติหรือไม่ คำตอบคงไม่ต่างกัน

คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีคำสั่งพักใช้ใบอนุญาต วอยซ์ทีวี เป็นเวลา 15 วัน มีผลตั้งแต่วันที่ 13 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไป พวกเขาอธิบายว่า เป็นการพิจารณาภายใต้กฎหมาย ไม่ได้เป็นคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และหากยังไม่ปรับปรุงจะเพิ่มโทษอีก หรือถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาต

รายการที่เป็นสาเหตุจอดำ 2 รายการ คือรายการ Tonight Thailand ออกอากาศวันที่ 16 ธันวาคม 2561 และรายการ WAKE UP THAILAND ออกอากาศวันที่ 21,28,29 มกราคม และ 4 กุมภาพันธ์

นายเมฆินทร์ เพ็ชรพลาย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) วอยซ์ ทีวี บอกว่าถึงเวลาที่เขาต้องอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลปกครอง พร้อมเรียกค่าเสียหาย ซึ่งคำนวนย้อนหลังแล้วมากกว่า 100 ล้านบาท ที่ผ่านมาวอยซ์ ทีวีให้ความร่วมมือด้วยดีมาตลอด แม้จะเห็นแย้งในประเด็นกฎหมายเรื่องหลักการใช้อำนาจของ กสทช. ที่มักอ้างคำสั่ง คสช. และเอ็มโอยูที่สถานีมองว่าไม่มีผลบังคับ

 “วอยซ์ ทีวีอยู่ในสถานะถูกเลือกปฎิบัติมาพอสมควรแล้ว และในเวลานี้ใกล้จะมีเลือกตั้ง สื่อยิ่งต้องการเสรีภาพ จึงเห็นว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะใช้สิทธิในการอุทธรณ์ต่อศาลปกครอง เพื่อปกป้องเสรีภาพสื่อและวางบรรทัดฐานในการใช้อำนาจของ กสทช.”

วอยซ์ทีวีเป็นสถานีที่ถูกเรียกเพื่อตักเตือนและลงโทษ ปิดบางรายการรวม 17 ครั้ง และปิดทั้งสถานี 2 ครั้ง คือหลังการรัฐประหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เมื่อปี 2557 เป็นเวลา 26 วัน ระหว่างวันที่ 20 พฤษภาคม 2557 ถึง 14 มิถุนายน และอีกครั้งถูก กสทช. สั่งระงับการออกอากาศทั้งสถานีเป็นเวลา 7 วัน ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม – 3 เม.ย. 2560  เป็นสถิติสูงที่สุดในกลุ่มทีวีดิจิตอลด้วยกัน

ไม่เรียกว่าอคติ ไม่เรียกว่าเกลียดชัง แต่เรียกว่า เมื่อวอยซ์ทีวี เป็นสถานีคู่ตรงข้ามกับ คสช.จะยากเย็นอันใด ที่คสช.จะยืมมือ กสทช.ให้จัดการ วอยซ์ทีวี ภายใต้ข้ออ้างการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 โดยอ้างเหตุว่า มีการนำเสนอรายงานข่าวมีลักษณะก่อให้เกิดความสับสน ยั่วยุ ปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้ง

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา๓๕วรรค๒ บัญญัติว่า การสั่งปิดกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนอื่นเพื่อลิดรอนเสรีภาพจะกระทำมิได้ นั่นก็แปลว่า กสทช.ไม่มีอำนาจที่จะปิด วอยซ์ทีวี โดยอาศัยกฎหมายชั้นรอง ที่ขัดหรือแย้งกับกฎหมายแม่บท

ไม่เพียงเท่านั้น นี่คือความเป็นธรรมหรือ หากทีวีดิจิตอลค่ายหนึ่ง เปิดแนวรบทุกด้านรุมกระหน่ำ ซ้ำเติมไทยรักษาชาติ ขยายผลความขัดแย้ง ใช้เฮดสปีชสร้างความเกลียดชัง ลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของอีกฝ่ายหนึ่ง ด้วยอคติ ด้วยทัศนคติของคนทำสื่อ ที่แยกบทบาทส่วนตัวกับการทำหน้าที่บนพื้นที่สาธารณะไม่ได้

เราต้องเปิดใจกว้าง ฟังความอีกข้าง ให้โอกาสเขาได้ทำหน้าที่เช่นเดียวกันหรือไม่ ไม่ว่าเราจะชอบเขาหรือไม่ก็ตามผู้มีอำนาจ ควรให้ความเคารพสิทธิเสรีภาพ และความแตกต่างทางความคิดของสื่อและประชาชน คนที่จะตัดสินพวกเขา คือประชาชนผู้บริโภคข่าว หาใช่รัฐบาลและ กสทช.

ถ้ายินดีจะต่อสู้กันในวิถีทางประชาธิปไตยแล้ว ก็ไม่ควรหวาดกลัวสิ่งใด เพราะความกลัวย่อมทำให้เสื่อมแต่สถานเดียวเท่านั้น

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 1217 วันที่ 15 - 21 กุมภาพันธ์ 2562)


Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์