
@...
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั่งแบบแบ่งเขต
และบัญชีรายชื่อต่างพร้อมใจกันตบเท้าเข้าไปรายงานตัวรับหนังสือรับรองท่ามกลางความกังขาของส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อที่พรรคเล็กพรรคน้องที่คะแนนทั่วประเทศน้อยกว่า
7หมื่นคะแนน แต่สามารถเข้าไปนั่งในสภาฯได้พรรคละ 1 เสียง ทั้งที่ว่ากันตรงๆแล้วคะแนนเล็กน้อยที่สะสมทั่วประเทศบางพรรคได้เพียง
3-4 หมื่นกว่าคะแนนนั้น พูดก็พูดเถอะ ชาวบ้านเขาไม่เอากัน
คนในพื้นที่แทบจะไม่รู้จัก เรียกได้ว่าได้ตำแหน่งเพราะแต้มบุญล้วนๆ
@...
ตามมาด้วยการประกาศชื่อสมาชิกวุฒิสภา 250 คน ที่มาจากการเลือกตั้งโดยงบประมาณที่ใช้ราว
1,300 ล้านบาท ในจำนวนนี้เกือบ 90 คน เป็นทหาร-ตำรวจ ที่ท่านทั้งหลายเหล่านี้สามารถโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้เหมือนส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งจากคนไทยทั้งประเทศ
๑...
การออกแบบกฎกติกา ที่ดูแล้วไม่เป็นธรรมกับคนลงสนามเลือกตั้งก็ตาม แต่เมื่อผลการแข่งขันได้ที่
อาจไม่เป็นที่ถูกใจใครหลายๆคนเท่าไหร่ แต่ชีวิตก็ต้องเดินหน้าต่อไป
เพราะทันทีที่จัดตั้งรัฐบาลได้ และได้ลุงตู่ ประยุทธ์ จันทร์โอชา
มานั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีอีกสมัย นั่นคือรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง อำนาจ
คสช.ที่จะออก ม.44 ก็จะไม่มี ดาบอาญาสิทธิ์ก็จะหมดอิทธิฤทธิ์ แต่ผลของ ม.44
เดิมที่ออกมาพร่ำเพรื่อมากมายนั่นจะหมดฤทธิ์ได้ก็ต่อเมื่อรัฐบาลใหม่ออก
พ.ร.บ.ยกเลิก !!!
@... เล่นการเมือง
เหมือนเล่นเกมกลยุทธ์ที่วางหมาก วางค่ายกลประดุจมนุษย์ทองคำ 18 อรหันต์แบบนี้กฎกติกาก็อาจเป็นเพียงถ้อยคำที่สวยหรู
เพื่อให้ดูเหมือนว่าการแข่งขันนี้เป็นถูกต้องยุติธรรม
ทุกอย่างว่าไปตามกฎหมายรัฐธรรมนูญที่ถูกร่างโดยกลุ่ม ‘คนที่คุณรู้ว่าใคร’ แบบนี้ก็ไม่น่าแปลก เพราะต้นไม้เป็นพิษฉันท์ใด
ผลของมันก็เป็นพิษฉันท์นั้น จะให้ต้นไม้พิษออกผลเป็นของวิเศษนั้น
มันไม่มีอยู่ในโลกของความเป็นจริงแน่นอน
@... เมื่อพูดอะไรออกไปแล้ว
คำพูดเป็นนายเราเสมอ คนไทยไม่เจ้าคิดเจ้าแค้น แต่จำไม่มีวันลืม
ถ้อยคำใดๆที่นักการเมืองไม่ว่าจะรุ่นเก่าเก๋าแค่ไหน
หรือนักการเมืองหน้าใหม่ที่เพิ่งได้ตำแหน่งเพราะแต้มบุญถึง ไม่ว่าจะเรียกว่า
ส.ส.เอื้ออาทร หรือ ส.ว.เอื้อพวกพ้อง อะไรก็ตามแต่ ด้วยเทคโนโลยีที่โลกใบนี้มี
กูเกิ้ล วิกิพีเดีย และสำนักข่าวออนไลน์ต่างๆ ทำหน้าที่บันทึกเหตุการณ์และคำพูด
คำสัญญาไว้ทั้งหมด
ไม่ว่าพรรคไหนที่เคยประกาศกร้าวว่าไม่สนับสนุนพรรคที่สืบทอดอำนาจ คสช.
มาตอนนี้กลับเข้าไปร่วมเรียบร้อยโรงเรียน คสช.แล้ว ก็คอยดูการเลือกตั้งครั้งต่อไป กรรมคือผลจากการกระทำ
ไม่ใช่เป็นเรื่องของดวงหรือโชคชะตาแต่อย่างใด
และหลายๆพรรคจะเห็นกรรมของตัวเองในชาตินี้แน่นอน
๑... ระหว่างรอรัฐบาลใหม่
ก็ย้อนมาดูความเคลื่อนไหวในท้องถิ่นลำปางกันบ้าง
@... ศึกชิงดำระหว่าง
คู่(เคย)รัก อย่าง ดร.นิมิตร จิวะสันติการ อดีตนายกเทศบาลนครลำปาง และ
ดร.กิตติภูมิ นามวงค์ นายกเทศบาลนครลำปางคนปัจจุบัน
สองดอกเตอร์ที่เคยรักใคร่ไปไหนมาไหนด้วยกัน แต่อยู่มาวันหนึ่ง กิตติภูมิ
ที่สมัยนั้นนั่งตำแหน่งรองนายกฯถูกปลดฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ
ทำให้กลายเป็นเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดกันนับแต่นั้นเป็นต้นมา
ก่อกำเนิดเกิดเป็นกลุ่มภูมิลำปาง และกำชัยชนะมาได้เมื่อครั้งเลือกตั้งครั้งล่าสุด
@... จะว่าไปแล้ว การปลดฟ้าผ่าแบบนั้นไม่ใช่เกิดขึ้นครั้งแรก ในยุคสมัยที่กิตติภูมิ นามวงค์
นั่งเก้าอี้รองนายกฯ เหตุการณนี้เหมือนเดจาวูอีกครั้งเมื่อย้อนไปในช่วงเมษายน 2551
เมื่อมีคำสั่งปลดฟ้าผ่ารองนายกฯทั้ง 4 คน และหนึ่งในนั้นมี สุวัฒน์
ตรีมานะพันธ์ รองนายกฯในยุคนั้นที่มีข่าวลือว่าผลักดันเกรียงศักดิ์ วนชยางกุล
ลงแข่งขันเลือกตั้งในช่วงเวลานั้น ก็เรียกได้ว่าเป็นเรื่องฮือฮาในแวดวงการเมืองท้องถิ่นที่เมาท์กันให้แซ่ดกันเลยทีเดียว
@... ส่วนเหตุผลที่แท้จริงนั้น
คนที่ลงนามในคำสั่ง ‘ปลด’ เท่านั้นที่รู้
@...
หลังจากที่ลือกันว่ามีการรวมกลุ่มกันของนักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรง
แถมยังมีประสบการณ์ทางการเมืองท้องถิ่น อย่าง อภิชัย สัชฌะไชย ที่เคยเป็นเลขาฯ
ลูกชาย ชัยศรี สัชฌะไชย ที่เคยดำรงตำแหน่งรองนายกฯในสมัยที่กิตติภูมิ
นามวงค์ ชนะการเลือกตั้ง แต่ทั้งคู่ได้ลาออกจากตำแหน่งไปตั้งแต่ปี 2557
จนมาครั้งนี้จับมือกับ ปุณณสิน มณีนันทน์ อดีตส.ท.นครลำปาง
ตั้งกลุ่มลำปางก้าวหน้า ลงสนามรอบนี้แน่นอน
@... แต่ที่น่าสนใจคือการปรากฏตัวของ
สุวัฒน์ ตรีมานะพันธ์ อดีตรองนายกฯในภาพ
แม้ว่าจะเป็นการไปกินข้าวซอยมื้อเที่ยวด้วยกันเท่านั้น นัยยะทางการเมืองเช่นนี้
คงไม่ต้องอธิบายกันให้มากความ เอาเป็นว่า เลือกตั้งนายกเทศบาลนครลำปางครั้งนี้ มีลุ้นแน่นอน
ฟันธง!!!!
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น