
กำลังเจ้าหน้าที่หลายภาคส่วน
สนธิกำลังเข้าตรวจยึด ป่าสงสวนแห่งชาติคืนหลัง พบกลุ่มคนบางกลุ่มเข้าไปแผ้วถางป่าตัดไม้หวงห้ามทิ้งป่า
เพื่อยึดครอบครองทำการเกษตรเลื่อนลอย ส่งผลทำให้ทรัพยากรธรรมชาติป่าไม้ซึ่งเป็นป่าต้นน้ำเสียหาย
เจ้าหน้าที่เตรียมดำเนินคดีจนถึงที่สุด
วันที่
25 มิ.ย.62 นายชูเกียรติ พงศ์ศิริวรรณ
ผอ.สำนักจัดการป่าไม้ที่ 3 ลำปาง ประสานงานร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ตำรวจ กก.4
บก.บทส.สายที่ 1 ลำปาง ตำรวจ ศปทส.ภ.5
เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.แจ้ห่ม
เจ้าหน้าที่หน้าอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท เจ้าหน้าที่ ฝ่ายปกครอง อำเภอแจ้ห่ม
เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.ลำปาง ตร.สภ.แจ้ห่ม ตำรวจ นปพ.ภ.จว.ลำปาง กว่า 50 นาย
เข้าตรวจสอบการ บุกรุกแผ้วถางป่า ตัดไม้หวงห้าม ไม้สัก กระยาเลย ในเขตพื้นที่
ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าขุนวังแปลง 1 ป่าท้ายหมู่บ้านบ้าน แจ้คอน หมู่ 2 ต.ทุ่งผึ้ง
อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง จำนวน 2 แปลง
หลังจากได้รับแจ้งเบาะแสว่าในพื้นที่ดังกล่าวมีการบุกรุกป่า
จากการตรวจสอบ
พบว่าพื้นที่แปลงแรก มีการตัดไม้หวงห้าม เช่น ไม้สัก ไม้กระยาเลย ทิ้งไว้ในป่า
และบางจุดมีการเอากิ่งไม้แห่งมาสุมไฟที่ตอต้นไม้ที่ยืนต้นให้ถูกไฟเผาไหม้ยืนต้นตาย
ในเบื้องต้นตรวจยึดไมสักทั้งหมดจำนวน 50 ท่อน มูลค่าความเสียหายภาครัฐกว่า 3.4
แสนบาท ยึดคืนผืนป่าทั้งหมด 12 ไร่ 1งาน 48 ตารางวา มูลค่าความเสียหายภาครัฐ 8 แสนบาทเศษ ส่วนพื้นที่แปลงที่สอง ที่อยู่ข้างกันพบว่ากำลังมีการแผ้วถางป่าตัดไม้ทำลายป่าเสียหายไปเช่นกัน
เจ้าหน้าที่ตรวจยึดไม้สักท่อนจำนวน 10 ท่อน มูลค่าเสียหายภาครัฐ 4 หมื่นกว่าบาท
ยึดคืนผืนป่าจำนวน 3 ไร่ 89 ตารางวา มูลค่าความเสียหายภาครัฐ 2 แสนบาทเศษ
ซึ่งแม้ว่ามูลค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจะมีมูลค่าความเสียหายไม่มากนัก
แต่สภาพป่าที่ถูกแผ้วถางทำลาย ซึ่งอาจนับเป็นมูลค่าไม่ได้
เพราะชาวบ้านหลายคนที่ร่วมใจกันอนุรักษ์ผืนป่าต้นน้ำให้คงอยู่
แต่กลับถูกลักลอบแผ้วถางป่าจนเสียหาย
และยังเป็นบ่อเหตุแห่งการเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติอื่นๆตามมาอีกด้วย
สำหรับการเข้าตรวจยึดพื้นที่ป่าครั้งนี้
ได้มี ผู้นำท้องถิ่น ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่
นำลูกบ้านเข้ามาสังเกตการณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่ด้วย
เพราะหวั่นว่าจะเป็นการกลั่นแกล้งของกลุ่มผู้เสียผลประโยชน์ในพื้นที่หรือไม่
เนื่องจากที่ผ่านในพื้นที่แห่งนี้จะมีการรุกป่าแผ้วถางป่าหลายๆจุด และเมื่อเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจยึดจับกุม
จึงมีชาวบ้านจำนวนหนึ่งเข้ามาทำการปิดล้อม
แต่หลังจากที่ลงพื้นที่การตรวจสอบและการทำงานด้วยพยานหลักฐานต่างๆแล้ว กลุ่มชาวบ้านต่างพอใจกับการทำงานในครั้งนี้
ส่วนพื้นที่ป่าที่ตรวจยึดในครั้ง เมื่อปี
2560 เจ้าหน้าที่เคยเข้ามาตรวจยึดแปลงข้างๆแล้วครั้งหนึ่ง
แต่หลังจากนั้นก็มีกลุ่มคนไม่หวังดีเข้ามาบุกรุกแผ้วถางป่า ขยายวงกว้างไปเรื่อยๆ
ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้มีมาตรการที่เข้มงวดรัดกุมในการอนุรักษ์ผืนป่าต้นน้ำให้คงอยู่ยั่งยืนสืบไป
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1235 วันที่ 28 มิถุนายน - 4 กรกฎาคม 2562)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น