
ฆ่าโหดยิงแสกหน้า
2 ผัวเมียคาโรงรถ ลูกชายลั่นไม่ยอมเผาหากจับตัวไม่ได้ ตำรวจรวบตัวมือยิง
หลังหนีกบดานในป่า พบเป็นสองพ่อลูกบ้านอยู่ติดกัน สารภาพสิ้น
เหตุจากปัญหาเรื่องที่ดินหลังบ้าน
เคยทะเลาะวิวาท และมีการข่มขู่ฆ่ายกครัวกันมาแล้วหลายครั้ง
เมื่อเวลา
13.00 น.วันที่ 22 มิ.ย.2562
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่เมาะ ได้รับแจ้งเหตุ มีคนยิงกันตาย
ที่บ้านเลขที่ 82 บ้านทาน ม.4
ต.จางเหนือ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง มีผู้เสียชีวิต
2 ราย หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ และประสานพนักงานสอบสวน
แพทย์นิติเวช รพ.แม่เมาะ เจ้าหน้าที่กู้ภัยร่วมชันสูตรพลิกศพ ต่อมา พ.ต.ท.ยงศักดิ์ มาวงษ์
รองผกก.หัวหน้างานสอบสวน สภ.แม่เมาะ ลำปาง พ.ต.ท.ชัชชัย บรรหาญ รองผกก.สส.ฯ พ.ต.ท.ประสิทธิ
หล้าสมศรี รองผกก.กก.สส.ภ.จว.ลำปาง
ร.ต.อ.พงศ์พล ธิแจ้ รองสว.สอบสวนสภ.แม่เมาะ ได้เดินทางไปที่เกิดเหตุ
จากการตรวจสอบพบศพผู้เสียชีวิต
2 รายอยู่บริเวณโรงรถ เป็นสามีและภรรยากัน ผู้หญิงนอนเสียชีวิตอยู่ใกล้ท้ายรถ
ถูกยิงที่สะโพกและแขนจำนวนหลายนัด ส่วนผู้ชายนอนคว่ำหน้า
ถูกยิงเข้าที่หน้าอกประมาณ 10 รู และหน้าผากจำนวน 1 รู อยู่ข้างรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีบอร์นเงิน
ทะเบียน บว 943 ลำปาง โดยล้อรถทั้ง 4 ล้อ ถูกปล่อยลมทั้งหมด เบื้องต้นทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือนายสุภี
บุญยอย อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30/4
ม.2 ต.วังเงิน อ.แม่ทะ จ.ลำปาง และ น.ส.อนงค์ ทิพามา อายุ 61 ปี
อยู่บ้านเลขที่ 82 บ้านทาน ม.4 ต.จางเหนือ
อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง
นายภูมินทร์
ทิพามา อายุ 32 ปี ลูกชายนางอนงค์ ให้การว่า แม่ตนเองและนายสุภี
พ่อเลี้ยงอยู่กินกันมานานแล้ว มีอาชีพทำไรข้าวโพด
ที่ผ่านมาเคยทะเลาะเบาะแว้งกับเพื่อนบ้านข้างเคียงเกี่ยวกับที่ดินทำกินหลังบ้าน
จนต้องให้ผู้ใหญ่บ้านมาช่วยเคลียร์หลายครั้ง แต่ก็เคยถูกข่มขู่ทำร้ายเรื่อยมา
ตนจึงสงสัยว่าคนร้ายต้องเป็นคนที่พ่อเลี้ยงของตนมีปากเสียงด้วยแน่นอน
และถ้าจับตัวคนร้ายมาไม่ได้ ตนจะไม่ยอมเผาศพเด็ดขาด ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบสวนผู้เกี่ยวข้องอย่างละเอียด
และเร่งติดตามตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบสวนแล้ว หลังเกิดเหตุได้หายตัวไป
และคาดว่ายังคงหลบหนีอยู่ในพื้นที่
จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ทาง กก.สส.ภ.จว.ลำปาง สืบสวน สภ.แม่เมาะ ซึ่งดูแลรับผิดชอบพื้นที่
ได้ระดมหาข้อมูลเกี่ยวพันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดและเชื่อว่าน่าจะมีคนอื่นเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้อีก
กระทั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายพุทธิ พิมิตย์ อายุ 40 ปี
ลูกชายนายโดม พิมิตย์ อายุ 76 ปี ราษฎรบ้านเลขที่ 89 บ้านทาน หมู่ 2 ต.จางเหนือ
อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง เพื่อนบ้านผู้ต้องสงสัยมาทำการสอบสวน โดยใช้เวลานานหลายชั่วโมง จนในที่สุดนายพุทธิ
ได้ให้การยอมรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุร่วมกับนายโดม ผู้เป็นพ่อ
ยิงนายสุภีและนางสาวอนงค์จริง
หลังก่อเหตุได้พากันหลบหนีเข้าไปหลบที่สวนข้าวโพดกลางป่า และกลางดึกที่ผ่านมา
ตนเองได้กลับเข้ามายังบ้านพักกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวมาสอบสวนดังกล่าว
ต่อมากำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายหน่วย จึงพากันได้เดินทางเข้าไปไร่ข้าวโพดกลางป่า
ซึ่งเป็นแหล่งหลบซ่อนตัวของนายโดม พอเจ้าหน้าที่ไปถึงกระท่อม
ปรากฏว่าไม่พบตัวนายโดมแต่อย่างใด คาดว่าหลบหนีไปก่อนที่เจ้าหน้าที่ไปถึง
และจากการตรวจค้นบริเวณรอบกระท่อมพบเพียงอาวุธปืนแก๊ปและยาบ้าจำนวน 200 เม็ด
เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดเอาไว้ และเชื่อว่านายโดม
น่าจะหลบหนีไปได้ไม่ไกลเพราะมีอายุมากแล้ว
กระทั่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ได้รับการประสานจากญาติว่า
นายโดมจะขอเข้ามอบตัว
ล่าสุดเวลา
10.00 น.วันที่ 24 มิ.ย.2562 นางสมจิต พลเตน ผู้ใหญ่บ้านบ้านทาน ม.4 ต.จางเหนือ
อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ได้พาตัวนายโดม พิมิตย์ อายุ 76 ปี ผู้ต้องหามามอบตัวกับ
พ.ต.อ.พิศุปรกรณ์ น้อยปักษา ผกก.สภ.แม่เมาะ
ก่อนนำตัวนายโดมไปทำบันทึกมอบตัว
และสอบสวนเบื้องต้นโดยทำการแยกสอบคนละห้องกับนายพุทธิ ลูกชาย ซึ่งนายโดมยอมรับสารภาพว่าได้ลงมือยิงนายสุภี
บุญยอย และนางสาวอนงค์ ทิพามา สองสามีภรรยา โดยร่วมมือกับลูกชาย
หลังก่อเหตุได้หลบหนีเข้าป่าโดยทิ้งอาวุธปืนที่ก่อเหตุไว้ในป่า
ตลอดทั้งสองคืนกินนอนอยู่ในป่าขอข้าวชาวบ้านกินประทังชีวิตหลบหนีไปเรื่อยๆ
และพยายามติดต่อภรรยาและญาติๆ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน.กก.สส.ภ.จว.ลำปาง
แลชุดสืบสวน สภ.แม่เมาะกดดันติดตามจับกุมอย่างหนัก
สำหรับสาเหตุการก่อเหตุนั้น
นายโดมยอมรับว่ามาจากขัดแย้งเรื่องที่ดินกินทำกิน มีปัญหาทะเลาะกันมาโดยตลอด
อีกทั้งยังมีการข่มขู่ฆ่ายกครัวกันด้วย
ในเรื่องนี้ นางสมจิต พลเตน ผู้ใหญ่บ้าน บ้านทาน เล่าว่า นายโดม พิมิตย์ อายุ 76 ปี
ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงสองผัวเมีย ได้อาศัยอยู่ในหมู่บ้านมากว่า 20 ปีแล้ว
ส่วนผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ได้มาอาศัยอยู่ประมาณ 5 ปี ซึ่งเดิมที่ดินที่พิพาทกันนั้นเป็นที่ดิน ภปท.5
พื้นที่ไม่ถึง 10 ไร่ เป็นที่ชาวบ้านรายเดิมจับจองไว้ก่อน
ต่อมามีการขายสิทธิ์ที่ดินให้กับแม่ชีคนหนึ่ง ซึ่งแม่ชีได้จ้างให้ น.ส.อนงค์
ทิพามา อายุ 61 ปี ผู้เสียชีวิตเป็นผู้ดูแลที่ดินให้
จากนั้นช่วงปีที่ผ่านมาทางแม่ชีได้ขายสิทธิ์ที่ดินให้กับนายโดม พิมิตย์ อายุ 76 ปี
ผู้ก่อเหตุ แต่ได้มีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกันเรื่องที่ดิน ซึ่งนายโดมได้แบ่งที่ดินให้กับน.ส.อนงค์
แล้วประมาณ 1 ไร่ เนื่องจากเป็นผู้ดูแลที่ดินมานาน
แต่ก็ยังเกิดปัญหาทะเลาะกันอยู่ เนื่องจากต้องการให้แบ่งที่ดินเพิ่มขึ้น
ซึ่งไม่กี่เดือนมานี้ก็ได้มีการเรียกไปพูดคุยไกล่เกลี่ยกันที่บ้านผู้ใหญ่บ้านแล้ว
2 ครั้ง ให้ไปแบ่งที่กัน
ผู้ใหญ่เคยบอกว่าถ้าไม่หยุดก็จะยึดที่คืนเป็นที่ของชุมชน แต่ภายหลังมาก็ยังเกิดเรื่องกันอยู่
มีการข่มขู่ ตะโกนด่ากันตลอดมา จนก่อนเกิดเหตุทราบว่าไม่ได้มีเรื่องทะเลาะกันรุนแรง
แต่คาดว่าน่าจะเกิดจากความเก็บกดที่สะสมมานาน เพราะเจอก้นบุหรี่ตกอยู่ในบ้านนายโดมหลายมวน
คงจะมีการนั่งคิดอยู่นานก่อนที่จะลงมือในครั้งนี้ ต่อมาภายหลังนายพุทธิ
ลูกชายได้ให้การภาคเสธว่าไม่ได้เป็นคนยิง
แต่มาเจอเหตุการณ์พอดีจึงช่วยพ่อหลบหนี
อย่างไรก็ตาม หลังทำการสอบสวนแล้ว ได้นำตัวสองพ่อลูก ส่งให้ ร.ต.อ.พงศ์พล
ธิแจ้ รอง สว.(สอบสวน) แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น