วันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2562

‘หออะม็อก’ ป้อมปืนกลางชุมชน

จำนวนผู้เข้าชม เว็บเคาน์เตอร์

หากใครผ่านไปมาบริเวณชุมชนศรีเกิด คงคุ้นชินกับป้อมปืนที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางชุมชนมานานมากกว่า 200 ปี ป้อมปืนแห่งนี้ ดูเหมือนจะเป็นโบราณสถาน ที่ทุกวันนี้ได้รับการบูรณะอย่างดี จนสามารถถ่ายทอดภาพป้อมปืนโบราณออกมาได้อย่างน่าเกรงขาม

ในสมัยพระเจ้าหอคำดวงทิพย์ เจ้าผู้ครองนครลำปาง ลำดับที่ 3 (พ.ศ. 2337-2368) ตรงกับรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พระเจ้าหอคำดวงทิพย์ได้สร้างหอคำ กำแพงเมืองเขลางค์รุ่นที่ 3 และขุดคูเมือง จนเสร็จสมบูรณ์ในปี พ.ศ. 2351

ปีเดียวกันนี้ยังได้มีการสร้างป้อมปืนขนาดใหญ่สำหรับเก็บปืนใหญ่และกระสุน และเพื่อป้องกันศัตรู ใช้เป็นหอสังเกตการณ์ข้าศึก และตรวจดูความเรียบร้อยของบ้านเมือง โดยเรียกเป็นภาษาพม่าว่า หออะม็อก แปลว่า หอปืน

 

หออะม็อกเป็นป้อมรูปทรงแปดเหลี่ยม มี 3 ชั้น ก่อด้วยอิฐสอดินดิบ พื้นที่ภายในกว้าง 13 เมตร  ยาว 17 เมตร สูง 10.25 เมตร ฐานของกำแพงลดหลั่นขึ้นไปเป็นชั้น ๆ ยอดกำแพงป้อมหน้าสูง 1.50 เมตร ส่วนยอดสุดเป็นรูปใบเสมา กว้าง 1.50 เมตร หนา 1 เมตร มีช่องทางเข้า-ออกทางด้านตะวันตกด้านเดียว ซึ่งเป็นด้านในของกำแพงเมือง ภายในหออะม็อกเป็นนั่งร้านไม้ 3 ชั้น โดยชั้นที่ 2 และชั้นที่ 3 มีช่องสำหรับลำเลียงกระสุนปืนใหญ่อยู่ตรงกลางนั่งร้าน อันเป็นตำแหน่งที่ตั้งของปืนใหญ่

หออะม็อกตั้งอยู่ใกล้กับประตูศรีเกิด ซึ่งเป็น 1 ในประตูเมืองรุ่นที่ 3 ที่มีจำนวนทั้งหมด 6 ประตู ได้แก่ ประตูหัวเวียง (ถนนบุญวาทย์) ประตูศรีเกิด (หน้าวัดศรีเกิด) ประตูชัย (ห้าแยกประตูชัย) ประตูศรีชุม (สี่แยกศรีชุม) ประตูสวนดอก (ถนนสวนดอก) และประตูเชียงราย (ห้าแยกหอนาฬิกา)

 

ในสมัยพระเจ้าหอคำดวงทิพย์ยังได้มีการขุดคูเมืองด้านนอกชิดขนานกำแพงเมืองตลอดแนว เพื่อป้องกันไม่ให้ข้าศึกเข้ามาประชิดกำแพงเมืองได้ และยังเป็นวางระบบชลประทานที่แยบยล โดยคูเมืองรอบกำแพงทำหน้าที่เป็นทั้งระบบส่งน้ำและระบายน้ำฝนจากดอยพระบาทลงสู่แม่น้ำวัง ขณะที่มีการระบุไว้ด้วยว่า น้ำจากห้วยแม่กระติ๊บ ซึ่งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของเมือง ไหลผ่านบริเวณค่ายสุรศักดิ์มนตรีในปัจจุบัน ได้จัดการทดน้ำเข้าสู่คูเมือง เพื่อใช้สอยตลอดปี

หออะม็อกยังเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าพ่อหมอกมุงเมือง ทหารเอกของพระเจ้าหอคำดวงทิพย์ โดยท่านเป็นต้นตระกูล ชัยนิลพันธ์ ทั้งนี้ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ชาวชุมชนศรีเกิดและผู้เคารพนับถือ จะร่วมกันจัดประเพณีฟ้อนผี เป็นการบวงสรวงดวงวิญญาณของท่านเป็นประจำทุกปี

หออะม็อกได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานโดยกรมศิลปากร เมื่อปี พ.ศ. 2478 เมื่อไม่กี่ปีมานี้ มีการบูรณะจนดูใหม่และแข็งแรง ทว่าก็ไม่ได้เปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว มีการล็อกกุญแจแน่นหนา ผู้เกี่ยวข้องชี้แจงว่า เหตุที่ไม่เปิดประตูหออะม็อก เพราะหลังจากบูรณะได้มีการสร้างชั้นไม้ 2 ชั้น และบันไดขึ้นไปยังชั้นบนสุด ซึ่งสูงกว่า 10 เมตร หากเปิดประตูไว้เกรงว่าจะมีคนขึ้นไป และอาจเกิดอุบัติเหตุพลัดตกลงมา นอกจากนี้ ก็อาจมีคนเข้าไปทำสิ่งที่ไม่เหมาะสมในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ได้

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1242 วันที่ 16 - 22 สิงหาคม 2562)
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์