หินภูเขาไฟ
280 ล้านปี ถล่มปิดถนนเนินกิ่วพระเจ้า สายลำปาง-แพร่ เจ้าหน้าที่ระดมเครื่องจักรเข้าเคลียร์เปิดเส้นทาง
ขณะทำงานเสร็จเกิดฝนตกหนัก ผู้ว่าฯลงพื้นที่ตรวจงาน เกิดหินถล่มลงมาอีกระลอกต่อหน้าต่อตา
ปิดเส้นทางเดิม คาดต้องใช้เวลาเคลียร์อีก 2 วัน
เมื่อเวลา
15.00 น.วันที่ 2 กันยายน 2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง รับแจ้งเกิดเหตุหินภูเขาล่วงทะลุตาข่ายลวดลงมาขวางถนน
บริเวณ ถนนวชิราวุฒิดำเนิน หรือถนนสายลำปาง-แพร่ ขาไปแพร่ หรือจุดขึ้นลงกิ่วพระเจ้า
ดอยพระบาท ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง ทำให้เหลือช่องการจราจรเพียงช่องทางเดียว
จาการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ
พบว่ามีเศษหินกองขวางถนน ขาเข้าไปยัง อ.แม่เมาะ และเส้นทางไปยัง จ.แพร่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองลำปาง
เจ้าหน้าตำรวจสายตรวจตำบลพระบาท สภ.เมืองลำปาง และเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงลำปางที่
1 ได้เข้ามาอำนวยความสะดวกด้านจราจร และเร่งเก็บกวาดเศษหินเข้าข้างทาง เพื่อให้การสัญจรกลับเข้าสู่สภาวะปกติ
แต่ทว่าขณะที่กำลังเก็บกวาดชุดที่ล่วงลงมาใกล้เสร็จแล้วปรากฏว่า เวลาประมาณ 16.00
น. มีสัญญาณเตือนคือ มีหินค่อยๆล่วงลงมาอย่างต่อเนื่องและมากยิ่งขึ้น ทำให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ต่างวิ่งหลบไปในที่ปลอดภัย
ก่อนที่หน้าผาจะมีการทรุดตัวลงมาทั้งผืนขวางถนนทั้งเลนทันที ทำให้การสัญจรไม่สามารถผ่านไปได้
เพราะมีก้อนหินขนาดใหญ่ขวางทางจำนวนมาก
ล่าสุดได้มีการะดมเจ้าหน้าที่
มาอำนวยความสะดวกด้านการจราจรอีกครั้ง เนื่องจากให้รถวิ่งสวนทางกัน ซึ่งจะทำให้การสัญจรช่วงนี้ติดขัดอยู่บ่างเนื่องจากเป็นเส้นทางขึ้นลงเขา
เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องจะเร่งเปิดเส้นทางสัญจรให้เร็วที่สุด แต่คงต้องใช้เวลา เพราะเกิดฝนตกหนักและดินอุ้มน้ำอย่างเต็มที่ต้องเฝ้าระวัง
อาจจะเกิดร่วงหล่นลงมาอีกได้
สำหรับเหตุการณ์ดินสไลด์ขวางถนนครั้งนี้
สาเหตุมาจากที่สภาพพื้นที่เป็นหินทับซ้อนและมีดินปะปน
เมื่อเกิดฝนตกหนักหรือตกติดต่อหันหลายๆวันมักจะมีเหตุการณ์หินล่วงขวางถนนเป็นประจำ
และมาตรการป้องกัน ทางเจ้าหน้าที่ได้ตาข่ายลวดมา
ขึงตรึงไว้ตลอดทั้งแนวหน้าผาเพื่อป้องกันหินช่วงลงมาสร้างอันตรายและความเดือนร้อนแก่ผู้สัญจร
แต่ในครั้งนี้พบว่าสภาพในที่เกิดเหตุพื้นที่ชุ่มน้ำมีน้ำไหลผ่านตลอดและมีแนวหินล่วงลงมาเรื่อยๆทำให้ตาข่ายลวดพังเสียหายหลายแห่ง
จนล่าสุดทรุดตัวลงมาทั้งผืนใหญ่ โชคดีที่ไม่มีใครได้รับอันตราย
เมื่อวันที่
3 ก.ย.62 หลังจากเกิดเหตุหินถล่มปิดทับเส้นทางถนน
บริเวณ ทางหลวงหมายเลข 11 หรือสายลำปาง-แพร่ ขาไปแพร่ จุดขึ้นลงเนินกิ่วพระเจ้า
ดอยพระบาท ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ไม่ว่าจะเป็นกรมทางหลวง แขวงการทางลำปาง ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง
ได้เข้ามาดำเนินการเปิดเส้นทาง รวมทั้งอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้รถวิ่งสวนกันเลนเดียว
ซึ่งต้องให้สัญญาณและมีเจ้าหน้าที่คอยแจ้งเตือน
เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวเป็นทางขึ้นเนินลงเนินสูง
และมักเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง
โดยในช่วงบ่ายของวันที่
3 ก.ย.62 ก็ยังคงไม่สามารถเปิดให้สัญจรเส้นทางได้ตามปกติ
เพราะยังไม่สามารถตักเอาหินขนาดใหญ่ออกมาได้ มีเพียงรถแบ็คโฮใช้ตักเอาหินและดินขนาดเล็กเพื่อเปิดเส้นทางให้ทางชั่วคราว
ให้รถแบ็กโฮ รถบรรทุกขนาดใหญ่
ของเจ้าหน้าที่ผ่านเพื่อลำเลียงหินดินที่ไปทิ้งในจุดที่จัดเตรียมไว้ โดยไม่ให้ส่งผลกระทบกับผู้สัญจรหรือขวางทางน้ำทางธรรมชาติ
รวมทั้งมีการประสานเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
จังหวัดลำปาง ได้เข้ามาลื้อถอนเสาไฟฟ้าที่ทรุดตัวหักโค่นมากับหินที่ถล่ม
ซึ่งหลังจากที่มีการตัดกระแสไฟฟ้าและทำการลื้อถอนเสาไฟและเชื่อมต่อกระแสไฟฟ้าได้ตามปกติแล้วเจ้าหน้าที่
แขวงทางหลวงลำปางที่ 1
กรมทางหลวงก็ระดมเครื่องจักรเข้าดำเนินการขุดดินหินที่ถล่มลงมาอย่างต่อเนื่องแต่ก็ต้องทำงานด้วยความระมัดระวังเพราะพื้นที่ยังชุ่มน้ำมีหินล่วงตลอดเวลาหวั่นอาจเกิดหิดถล่มซ้ำลงมาได้
โดยใช้รถแบ็คโฮ ตะกุยเอาดินและหินขนาดใหญ่ที่กองทับถมหน้าผาลงมา จากนั้นใช้รถเจาะหินเจาะหินให้เหลือขนาดเล็กเพื่อให้ง่ายต่อการลำเลียงไปทิ้งในขุดที่กำหนดไว้
ซึ่งคาดว่าการจัดการเศษหินดินถล่มที่ถล่มลงมาน่าจะต้องใช้เวลาอีก
1 วัน เพราะต้องใช้ความระมัดระวัง เพื่อความปอลดภัยของเจ้าหน้าที่ในการทำงานและเพื่อการสัญจรทางถนนที่ปลอดภัยมากที่สุด
ขณะที่เจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรธรณีเขต
1 ลำปาง ก็ได้ลงพื้นที่สำรวจตรวจสอบทางธรณีวิทยา เบื้องต้นพบว่า
จุดที่เกิดเหตุเป็นจุดที่อยู่สูงกว่าผิวถนนประมาณ 25 เมตร
ลักษณะทางธรณีวิทยา เป็นหินภูเขาไฟเก่าแก่ อายุประมาณ 280 ล้านปี
สาเหตุการเกิดการถล่มลงมาครั้งนี้เนื่องมาจากในเนื้อหินอ่อนมีรอยแตกในเนื้อชั้นหินมีน้ำซึมเข้าไปไหลลงตามรอยแตก
ทำให้เกิดการเกราะกร่อนและถล่มลงมา เบื้องต้นพบว่าจุดที่น่าห่วงมากที่สุดคือจุดที่ถล่มลงมามีความสูงสุดแล้ว
ในส่วนอื่นๆลดต่ำลงมาและมีการป้องกันการเกิดเหตุไว้แล้ว
ทั้งนี้ผู้ใช้รถใช้ถนนผ่านเส้นทางนี้ต้องระมัดระวังและเพื่อเวลาในการเดินทาง
เนื่องจากว่าเส้นทางดังกล่าวเป็นทางขึ้นลงเขา เปิดให้รถวิ่งสวนทางกันเพียง 2
ช่องจราจร ในห้วงเวลาเร่งด่วนจะมีรถสะสมจำนวนมากทำให้เช้าวันนี้รถติดยาวงกว่า 2
กิโลเมตร
ต่อมาวันที่
4 ก.ย.62 เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ไม่ว่าจะเป็นกรมทางหลวง แขวงการทางลำปาง ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง กฟภ.ลำปาง
ได้เข้ามาดำเนินการเปิดเส้นทางและอำนวยความสะดวกด้านการจราจร
โดยนำรถแบ็คโฮเข้ามาตักหินและดินที่ร่วงหล่นออกไปทิ้ง โดยเคลียร์เส้นทางแล้วเสร็จในเวลาประมาณ 15.30 น.ของวันที่ 4 ก.ย. 62 แต่ได้มีฝนตกหนักลงมาในพื้นที่นานกว่าชั่วโมง กระทั่งเวลา 17.30 น.
ขณะที่นายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัด
ได้ผ่านเส้นทางดังกล่าวและลงพื้นที่เข้าตรวจสอบความเรียบร้อย
ได้เกิดเหตุหินถล่มลงมาอีกครั้งเป็นครั้งที่สอง ซึ่งทางเลขาผู้ว่าราชการจังหวัด
สามารถใช้มือถือถ่ายคลิปไว้ได้ทันขณะเกิดเหตุพอดี
ถือว่าโชคดีที่ยังไม่ได้เปิดเส้นทางให้รถวิ่งสัญจรได้
ไม่เช่นนั้นอาจจะมีใครได้รับอันตราย และมีทรัพย์สินเสียหายก็เป็นได้ จึงต้องให้รถวิ่งสวนในเลนเดียวต่อไป
เพื่อรอให้ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้ามาเคลียร์เส้นทางอีกครั้ง คาดว่าจะใช้เวลาอีก 2 วัน
โดยต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และผู้ใช้รถใช้ถนนให้มากที่สุด
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1244 วันที่ 6 - 19 กันยายน 2562)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น