
อาจด้วยเรื่องราวของเด่นชัย เจ้าหน้าที่
ไอทีสุดเนิร์ด ประจำออฟฟิศวัย 30 กับนุ้ย
มาร์เกตติ้งสาวผู้น่ารักในออฟฟิศเดียวกัน ทำให้เมืองฮอกไกโด ฉากสำคัญในภาพยนตร์ไทย
เรื่อง “ตามรอย แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว”สว่างวาบขึ้น เป็นความสว่าง ที่ฉุดดึงให้ไปเยือนฮอกไกโดในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

แต่แล้วเมื่อบริษัทของเด่นชัยพาพนักงานไปเที่ยวเอาท์ติ้งยังสกีรีสอร์ทที่ฮอกไกโด
เด่นชัยได้ขอพรกับระฆังแห่งความรักของรีสอร์ทให้เขาได้เป็นแฟนกับนุ้ยแค่วันเดียวก็ยังดี

ฉากส่วนใหญ่ของแฟนเดย์
จะเป็นเขตเมืองโอตารุ เมืองท่าสำคัญของซับโปโร
บางส่วนของเมืองตั้งอยู่บนที่ลาดต่ำของภูเขาเท็งงุ แหล่งสกีและกีฬาฤดูหนาว
นุ้ยประสบอุบัติเหตุจากสกีจนหมดสติ จนเด่นชัยสามารถสวมรอยเป็นแฟนนุ้ย ณ
สถานที่นี้เอง
บางฉากของแฟนเดย์
เป็นถนนเลียบคลองโอตารุ (Otaru Canal) ความยาวตลอดสาย 1.5 กิโลเมตร นับเป็นสัญลักษณ์ของเมือง
มีโกดังเก่าโดยรอบที่ถูกดัดแปลงเป็นร้านอาหารเรียงรายอยู่สองฝั่งคลอง
คลองโอตารุสร้างขึ้นเมื่อปี 1923 จากการถมทะเล
เพื่อเป็นเส้นทางขนสินค้ามาเก็บที่โกดัง

ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่
พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี (Music box Museum) ซึ่งมีงานเซรามิค
กล่องดนตรี ทั้งท้องฟ้า ดวงดาว ผู้คน ดอกไม้ ละลานตา ที่บริเวณหน้าพิพิธภัณฑ์
มีหอนาฬิกาสไตล์วินเทจ ซึ่งคนดูแฟนเดย์คงจำฉากที่เวลานาฬิกาดังขึ้น
พร้อมกับไอน้ำที่พ่นออกมาได้
ไปฮอกไกโดเที่ยวนี้
ไม่ได้ไปในช่วงฤดูหนาว ซึ่งเป็นบรรยากาศของเรื่อง แฟนเดย์ แต่ไปในช่วงปลายฤดูร้อน แต่ฤดูร้อนของฮอกไกโด
ก็มิใช่ฤดูร้อนแบบเมืองไทย อุณหภูมิกำลังเย็นสบาย
คล้ายอากาศช่วงต้นฤดูหนาวที่เชียงใหม่
สำคัญคือ
เป็นช่วงที่ดอกไม้กำลังผลิบาน ฟาร์มโทมิตะ เมืองฟูราโน
ดอกลาเวนเดอร์สีม่วงสดบานสะพรั่ง สวนซิคิไซโนะโอกะ เมืองบิเอะ บนเนินเขาดอกไม้นานาพรรณสลับสี
สวยราวสายรุ้ง มีฉากหลังเป็นภูเขาสูงโอบล้อมไว้
ตามรอยแฟนเดย์
แม้ไม่ได้เจอแฟน แต่เพียงอยู่ในอ้อมกอดของดอกไม้ ชีวิตก็รื่นรมย์ได้
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1245 วันที่ 20 กันยายน - 3 ตุลาคม 2562)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น