วันศุกร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2562

ตามรอย‘แฟนเดย์’ แฟนกันแค่วันเดียวที่ฮอกไกโด

จำนวนผู้เข้าชม เว็บเคาน์เตอร์

าจด้วยเรื่องราวของเด่นชัย เจ้าหน้าที่ ไอทีสุดเนิร์ด ประจำออฟฟิศวัย 30 กับนุ้ย มาร์เกตติ้งสาวผู้น่ารักในออฟฟิศเดียวกัน ทำให้เมืองฮอกไกโด ฉากสำคัญในภาพยนตร์ไทย เรื่อง “ตามรอย แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว”สว่างวาบขึ้น เป็นความสว่าง ที่ฉุดดึงให้ไปเยือนฮอกไกโดในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

แฟนเดย์ เล่าเรื่องว่า เด่นชัย จะมีตัวตนในสายตาพนักงานคนอื่นแค่เวลาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เสีย ในชั่วโมงทำงานที่แสนเร่งรีบไม่มีใครสนใจแม้แต่จะจำชื่อของเด่นชัย จนเขาแอบน้อยใจอยู่บ่อย ๆ จนกระทั่งวันที่เขาได้ไปซ่อมพรินเตอร์ให้ นุ้ยที่เขาประทับใจเธอตั้งแต่แรกเห็น ผู้จดจำชื่อจริงของเขาได้ เด่นชัยตกหลุมรักความน่ารักและจริงใจของนุ้ยที่ทำให้เขารู้สึกเหมือนมีตัวตนขึ้นมา แต่ก็ทำได้เพียงเฝ้าเก็บรายละเอียดและดูแลเธออยู่ห่าง ๆ เพราะรู้ดีว่าคนอย่างเขาคงได้หวัง นุ้ยคงไม่มาสนใจ

แต่แล้วเมื่อบริษัทของเด่นชัยพาพนักงานไปเที่ยวเอาท์ติ้งยังสกีรีสอร์ทที่ฮอกไกโด เด่นชัยได้ขอพรกับระฆังแห่งความรักของรีสอร์ทให้เขาได้เป็นแฟนกับนุ้ยแค่วันเดียวก็ยังดี

โชคชะตาเล่นตลกเมื่อนุ้ยประสบอุบัติเหตุจากสกีจนหมดสติ พอนุ้ยฟื้นกลับมีอาการโรคความจำเสื่อมชั่วคราวที่เรียกกว่าโรค TGA ซึ่งเป็นโรคความจำเสื่อมที่จะมีอาการอยู่เพียงแค่ 1 วันเท่านั้น เด่นชัยคิดว่านี่เป็นโอกาสเดียวที่คนอย่างเขาจะได้ใกล้ชิดกับนุ้ย เขาตัดสินใจสวมรอยหลอกนุ้ยว่าทั้งสองเป็นแฟนกันและอยู่เที่ยวต่อกันเพียงสองคน เด่นชัยตั้งใจว่าจะพานุ้ยไปเที่ยวในทุก ๆ ที่ ที่เธออยากไปในฮอกไกโด ใช้เวลาสุดพิเศษของเขากับเธอในฐานะแฟนแม้ว่ามันจะเป็นการเป็นแฟนกันเพียงแค่วันเดียวก็ตาม... 

ฉากส่วนใหญ่ของแฟนเดย์ จะเป็นเขตเมืองโอตารุ เมืองท่าสำคัญของซับโปโร บางส่วนของเมืองตั้งอยู่บนที่ลาดต่ำของภูเขาเท็งงุ แหล่งสกีและกีฬาฤดูหนาว นุ้ยประสบอุบัติเหตุจากสกีจนหมดสติ จนเด่นชัยสามารถสวมรอยเป็นแฟนนุ้ย ณ สถานที่นี้เอง

บางฉากของแฟนเดย์ เป็นถนนเลียบคลองโอตารุ (Otaru Canal) ความยาวตลอดสาย 1.5 กิโลเมตร นับเป็นสัญลักษณ์ของเมือง มีโกดังเก่าโดยรอบที่ถูกดัดแปลงเป็นร้านอาหารเรียงรายอยู่สองฝั่งคลอง คลองโอตารุสร้างขึ้นเมื่อปี 1923 จากการถมทะเล เพื่อเป็นเส้นทางขนสินค้ามาเก็บที่โกดัง

ถนนคู่ขนานคลองโอตารุ ยังนำไปสู่ร้านรวงขายของที่ระลึก กิ๊บเก๋ หลากหลาย ร้านกาแฟ ฮัลโหล คิตตี้ (Hello Kitty Cafe) โรงเป่าแก้วคิตาอิจิ (Kitaichi Glass) ซึ่งมีชื่อเสียงด้านการเป่าแก้วมายาวนาน ในอดีตการเป่าแก้วใช้เป็นทุ่นให้เรือ แต่ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นการเป่าแก้วเพื่อเป็นของใช้และที่ระลึก

ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่ พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี (Music box Museum) ซึ่งมีงานเซรามิค กล่องดนตรี ทั้งท้องฟ้า ดวงดาว ผู้คน ดอกไม้ ละลานตา ที่บริเวณหน้าพิพิธภัณฑ์ มีหอนาฬิกาสไตล์วินเทจ ซึ่งคนดูแฟนเดย์คงจำฉากที่เวลานาฬิกาดังขึ้น พร้อมกับไอน้ำที่พ่นออกมาได้

ไปฮอกไกโดเที่ยวนี้ ไม่ได้ไปในช่วงฤดูหนาว ซึ่งเป็นบรรยากาศของเรื่อง แฟนเดย์ แต่ไปในช่วงปลายฤดูร้อน แต่ฤดูร้อนของฮอกไกโด ก็มิใช่ฤดูร้อนแบบเมืองไทย อุณหภูมิกำลังเย็นสบาย คล้ายอากาศช่วงต้นฤดูหนาวที่เชียงใหม่

สำคัญคือ เป็นช่วงที่ดอกไม้กำลังผลิบาน ฟาร์มโทมิตะ เมืองฟูราโน ดอกลาเวนเดอร์สีม่วงสดบานสะพรั่ง สวนซิคิไซโนะโอกะ  เมืองบิเอะ บนเนินเขาดอกไม้นานาพรรณสลับสี สวยราวสายรุ้ง มีฉากหลังเป็นภูเขาสูงโอบล้อมไว้
ตามรอยแฟนเดย์ แม้ไม่ได้เจอแฟน แต่เพียงอยู่ในอ้อมกอดของดอกไม้ ชีวิตก็รื่นรมย์ได้

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1245 วันที่ 20 กันยายน -  3 ตุลาคม 2562)
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์