อาจเป็นวาระที่น่ายินดี
ในสถานการณ์ความยากลำบาก ในการรักษาสถานะความเป็นสื่อที่มุ่งนำเสนอข่าวคุณภาพ
เน้นการเสนอข่าวเชิงสืบสวนสอบสวน หรือ Investigative
Reporting ซึ่งเป็นวิธีการทำข่าวทุจริตคอรัปชั่น ในยุคที่สังคมข้อมูลข่าวสาร
เต็มไปด้วยเฟคนิวส์ (Fake news) ข่าวความขัดแย้ง
ข่าวที่มุ่งตอบสนองสัญชาติญาณความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์
เพจเฟซบุ๊กสำนักงาน
ป.ป.ช. ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)เมื่อเร็วๆนี้
โพสต์ข้อความประกาศสำนักงาน ป.ป.ช. เรื่องผลการพิจารณารางวัลช่อสะอาด ประจำปี 2562
โดย หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ได้รับรางวัลประกาศเกียรติคุณ
ผลงานข่าวหรือสารคดีเชิงข่าวชมเชย ประเภทสื่อสิ่งพิมพ์ ผลงานทลายกำแพงระบบอุปถัมภ์
เปิดทางสิทธิชุมชนคนแม่เมาะ
เป็นการคัดเลือกให้ได้รับรางวัล
โดยคณะกรรมการตัดสิน ไม่ใช่การส่งผลงานแข่งขันกับสื่อหนังสือพิมพ์ฉบับอื่น
โดยรางวัลนี้ มีสื่อได้รับรางวัลรวม 7 รางวัล
เป็นสื่อส่วนกลางทั้งสิ้น
ข่าวชิ้นนี้เริ่มขึ้นเมื่อราว
1 ปีที่ผ่านมา โดยเริ่มขึ้นในวงสนทนาครั้งหนึ่ง
กับเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการใช้งบประมาณกองทุนไฟฟ้า
ซึ่งอาจมีการรั้วไหล และอาจไม่ตอบโจทย์วัตุประสงค์ที่วางไว้
เรามักได้ยินอยู่เสมอถึงการบริหารจัดการงบประมาณในรูปแบบต่างๆ
เพื่อประโยชน์ของคนในท้องถิ่น ในเรื่องการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐ เช่น กรณีการจ่ายเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อย
และผู้ไร้ที่พึ่ง หรือความไม่เป็นธรรมในการจัดสรรงบประมาณ ซึ่งมีทั้งกรณีทุจริต
คอรัปชั่น และระบบอุปถัมภ์ซึ่งเอื้อประโยชน์ให้กับคนส่วนน้อย
เช่นในกรณีกองทุนไฟฟ้า หรือกองทุนพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า
ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 75 กองทุน ใน 39 จังหวัดทั่วประเทศที่มีโรงไฟฟ้า
กองทุนไฟฟ้า
เป็นกองทุนที่จัดตั้งตามพระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ.2550
หนึ่งในวัตถุประสงค์ คือ
การพัฒนาชุมชนในท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า
ภายใต้การกำกับของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ทั้งนี้ ในระดับท้องถิ่น
กองทุนจะบริหารโดยคณะกรรมการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า (คพรฟ.)
มีตัวแทนจากภาคประชาชนไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ซึ่งสะท้อนความเป็นคนในพื้นที่
แต่ในความเป็นจริงคนเหล่านั้นก็ไม่ได้มาจากตัวแทนของคนพื้นที่อย่างแท้จริง
ทำให้คนจำนวนไม่น้อยเข้าไม่ถึงกองทุน
เงินกองทุนไฟฟ้า หรือกองทุนพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าแม่เมาะ
จังหวัดลำปางมีมูลค่านับพันล้านบาท เป็นตัวอย่างที่แสดงถึงความไม่โปร่งใส การใช้ระบบอุปถัมภ์เอื้อประโยชน์ให้กับคนเพียงกลุ่มเดียว
ไม่ได้กระจายไปยังชุมชนต่างๆอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง
นายบรรพต ธีรวาส
อดีตผู้บริหารเหมืองแม่เมาะ ให้สัมภาษณ์ “ลานนาโพสต์” ครั้งหนึ่งว่า การอนุมัติเงินกองทุน คนที่เคยได้รับก็จะได้โดยตลอด ส่วนคนที่ไม่ได้รับการพิจารณา
ก็จะไม่เคยได้รับ นอกจากนั้นยังมีกรณีไม่โปร่งใสหลายเรื่อง
มีปรากฎการณ์ที่สนับสนุนถ้อยคำของผู้บริหารเหมืองแม่เมาะ
หลายเรื่อง เช่น กรณีเครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะร้อง คณะกรรมาธิการการพลังงาน สภาผู้แทนราษฏร
เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2555 ว่าคณะกรรมการกองทุนไม่ปฎิบัติตามระเบียบของกองทุน ซึ่งควรให้ความสำคัญกับผู้ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้าเป็นอันดับแรกๆ
แต่เงินทุนส่วนใหญ่กลับอนุมัติให้กับโครงการสาธารณูปโภค เช่น การสร้างถนน สะพาน
การใช้เงินกองทุนที่น่าสงสัย
ในโครงการสาธารณูปโภค ยังมีการใช้งบประมาณจำนวน 1 ล้านบาท
สร้างสวนสุขภาพ ที่เต็มไปด้วยหญ้ารกชัฏ การใช้งบประมาณ 2.5 ล้านบาท
สร้างลานเอนกประสงค์ ซึ่งพบว่าถูกทิ้งร้างไว้ รวมทั้งการใช้งบประมาณ 8 ล้านบาท สร้างสะพานคอนกรีตเลี่ยงหมู่บ้าน
โดยอ้างเหตุแก้ปัญหาจราจรแออัดในหมู่บ้าน แต่สะพานก็ร้างผู้คน
ใช้สัญจรตามปกติไม่ได้
การกำหนดให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานกองทุน
ยังเท่ากับการรวมศูนย์อำนาจไว้ที่ผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งเมื่อรวมกับองค์ประกอบกรรมการภาครัฐ
และชาวบ้านบางกลุ่มที่ไม่ได้เป็นตัวแทนภาคประชาชนอย่างแท้จริง กลายเป็นตัวแทนกลุ่มผลประโยชน์ในพื้นที่
มีการผลักดันโครงการประเภทสาธารณูปโภคจำนวนมาก
ยุคหนึ่ง นายดิเรก
ก้อนกลีบ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ในฐานะประธานกองทุน ถูก
คณะคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)สอบสวน
กรณีอนุมัติโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำกิ่วข้ามหลามมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ในที่สุดศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 ได้มีคำพิพากษาลงโทษจำคุก 16 ปี โดยไม่รอลงอาญา
กองทุนไฟฟ้า จึงเป็นปัญหาสำคัญที่ทำให้เงินกองทุนเข้าไปไม่ถึงความต้องการของพื้นที่อย่างแท้จริง
ระบบอุปถัมภ์ได้สร้างความไม่เป็นธรรมให้เกิดขึ้นกับชุมชนแม่เมาะ เช่นเดียวกับอีก 74 กองทุน ในอีก 38 จังหวัดที่อาจมีปัญหาในลักษณะเดียวกัน
และสื่อท้องถิ่นในจังหวัดนั้นๆ ก็ยังไม่ได้ทำหน้าที่ได้สืบค้น
รายงานข่าวในการบริหารกองทุน ซึ่งมีแนวโน้มในการทุจริตสูง
รางวัลช่อสะอาดครั้งนี้ มาจากการเฝ้าสังเกต เก็บข้อมูล สัมภาษณ์
ลงพื้นที่สำรวจสภาพความเป็นจริง จากการที่มีการร้องเรียน มีปัญหาการจัดการกองทุน และนำเสนอผ่านสื่อในเครือลานนาโพสต์มีมาอย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า
10
ปี
จากการติดตามรายงานข่าวกองทุนไฟฟ้า
เพื่อนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงในการบริหารจัดการกองทุน เริ่มมีเบาะแส และเห็นภาพชัดมากขึ้น
จนกระทั่งนายทรงพล สวาสดิ์ธรรม อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้สั่งการให้ชะลอ
ทบทวนโครงการ และสุดท้ายให้รื้อระบบบริหารทั้งหมด
นี่เป็นการต่อสู้เพื่อรักษาสิทธิของชุมชน
ที่ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะ
พวกเขาควรได้รับความช่วยเหลือเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
มิใช่การใช้เงินกองทุนไปเพื่อโครงการสาธารณูปโภค สร้างถนน สร้างสะพาน ที่ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่ได้รับประโยชน์
และยังเป็นช่องทางการทุจริต คอรัปชั่นของคนบางกลุ่มด้วย
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น