วันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2562

'บ้านหลุก'ไร้ทิศ คิดจุดขาย เพิ่มค่าท่องเที่ยวคู่บ้านแกะสลัก

จำนวนผู้เข้าชม เว็บเคาน์เตอร์

ขึ้นชื่อว่าบ้านหลุก อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง ก็เลื่องเชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่มีสล่า(ช่าง) แกะสลักไม้ฝีมือดีในภาคเหนือ ประวัติอันยาวนาน ทำให้บ้านหลุกเป็นแหล่งต้นน้ำของงานศิลปะไม้แกะสลัก ที่มีทั้งงานฝีมือชั้นครู และงานแกะไม้ลอยตัวรูปสัตว์ต่างๆ ขายส่งไปยังกลุ่มพ่อค้าที่ซื้อไป ทำสี หรือเพิ่มมูลค่าเป็นงานสำหรับตกแต่งบ้านราคาแพง

หากแต่ก่อนหน้านี้ ภาครัฐหลายยุคสมัย ก็พยายามผลักดันไหม้หมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านท่องเที่ยว เพื่อให้คนเดินทางเข้ามาชื่นชมและซื้อหางานไม้แกะสลักบ้านหลุกกันถึงที่ หวังนำรายได้เข้าสู่ชุมชน และเกิดการท่องเที่ยวเชื่อมโยงไปยังจุดอื่นในอำเภอแม่ทะ แต่ก็ดูเหมือนการผลักดันก็จะครึ่งๆกลางๆ ไม่เกิดเป็นรูปธรรมในเรื่องของการดึงนักท่องเที่ยวเข้ามายังบ้านหลุกอย่างจริงจัง อาจเป็นเพียงเพราะ แรงดึงดูดของงานไม้แกะสลักเพียงอย่างเดียวก็อาจยังไม่มากพอ

* เหมือนฝันที่ยังไกลตัว
ณรงค์ วงศ์กันทะ กำนันตำบลนาครัว พื้นเพเป็นชาวบ้านหลุก บอกว่า แม้ว่าหมู่บ้านหลุกจะมีงานหัตถกรรมไม้แกะสลักเป็นเอกลักษณ์ของชุมชนท้องถิ่น ซึ่งชาวบ้านมีรายได้จากงานนี้เป็นหลักอยู่แล้ว ในเรื่องของการมีส่วนร่วมของชาวบ้านเรามีความพร้อม ชุมชนค่อนข้างเข้มแข็งให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานทีดึงงบประมาณมาสนับสนุนผลักดันให้บ้านหลุกเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยว ซึ่งปัจจุบันก็เป็นเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวโอทอป  ส่วนใหญ่มีคณะศึกษาดูงาน และกลุ่มทัวร์กลุ่มเล็กเข้ามาท่องเที่ยวเป็นหลัก ส่วนจะยกระดับให้เป็นหมู่บ้านที่มีนักท่องเที่ยวทั่วไปเข้ามาโดยธรรมชาติยังค่อนข้างน้อย

ที่ผ่านมายังไม่สามารถยกระดับเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวได้อย่างจริงจัง แต่ชาวบ้านส่วนหนึ่งก็ยังอยากเชิญชวนผู้มาเที่ยวชมงานแกะสลักไม้ให้ แวะเที่ยวชมนก และทัศนียภาพธรรมชาติในลำน้ำจาง โดยเฉพาะในช่วงเช้าหรือใกล้ค่ำ ทิวทัศน์ล่องลำน้ำจางสวยงามมาก

* ติดระเบียบการใช้งบประมาณรัฐ
“งบประมาณส่วนใหญ่ภาครัฐให้การสนับสนุนด้านท่องเที่ยว เรื่องการอบรมการเป็นเจ้าบ้านที่ดี หรือหลักการด้านการท่องเที่ยว หรือการทำอาหาร ผมว่าเรื่องพวกนี้ต้องทำหลังจากที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมากพอระดับหนึ่งแล้ว ชาวบ้านก็สนใจจะพัฒนาเอง แต่การพัฒนาด้านส่งเสริมการท่องเที่ยวในชุมชนอื่นๆนอกเหนือจากการชมผลิตภัณฑ์ไม้แกะสลัก มักติดระเบียบการใช้งบประมาณภาครัฐ การล่องเรือชมแม่น้ำจาง ซึ่งเรามีเรือหางยาว 8 ที่นั่ง ไว้บริการพานักท่องเที่ยว เพียง 1 ลำ เราอยากจะซื้อเรือเพิ่มก็ทำไม่ได้  รัฐห้ามใช้งบประมาณซื้อครุภัณฑ์ หรือทำสิ่งปลูกสร้างถาวร ทำได้เฉพาะการปรับภูมิทัศน์เล็กๆน้อยๆ ทำป้าย สำหรับถ่ายภาพ สวยๆ แต่นักท่องเที่ยวไม่ได้มาแค่ถ่ายรูป เขาอยากสัมผัสวิถีชุมชน แต่เราทำไม่ได้ ลำพังชุมชนก็ไม่มีเงินลงทุนพัฒนาเอง อย่างนี้เป็นต้น” กำนันณรงค์กล่าว

อย่างไรก็ตาม กำนันณรงค์ บอกว่า ปัจจุบันภาครัฐสนับสนุนงบประมาณสร้างศูนย์หัตกรรมไม้แกะสลักให้เป็นจุดรับนักท่องเที่ยว และมีตลาดนัดชุมชนทุกวันศุกร์ แต่ก็เป็นเพียงตลาดชุมชนไม่มีนักท่องเที่ยวจากภายนอก

ก่อนหน้านี้ มีการพูดคุยกันหลายหน่วยงานเพื่อผลักดันให้บ้านหลุก มีตลาดน้ำ เนื่องจากมีขัวหรือสะพานไม้เก่าข้ามลำน้ำจาง เป็นเสน่ห์ ซึ่งทางอำเภอเคยอยากส่งเสริมให้มีตลาดน้ำ ขายสินค้าบนแพ แต่ดูเหมือนจะเป็นโครงการที่ไกลเกินฝัน เพราะการทำแพลอยน้ำต้องขออนุญาตกรมเจ้าท่า ทำพนังกั้นตลิ่ง และทำท่าขั้นลงแพนน้ำที่ปลอดภัย สุดท้ายโครงการดังกล่าวเงียบไปเพราะไม่มีงบประมาณ นอกจากนี้ชุมชนเองก็เป็นห่วงว่า นักท่องเที่ยวจะมาจากไหน หากจะผลักดันให้สร้างอะไรรองรับการท่องเที่ยว ใครจะทำตลาด เพราะชาวบ้านก็มีวิถีด้านงานหัตกรรมและเกษตรกรรม
 *หารือแนวร่วม และแนวทาง
จากการสอบถามไป สุรีย์ มาปลูก นายอำเภอแม่ทะ ถึงแนวทางการพัฒนาบ้านหลุก หรือการพัฒนาด้านท่องเที่ยวที่บ้านหลุก ว่าปัจจุบันโครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวบ้านหลุกยังไม่มีโครงการเพิ่มเติมจากเดิมที่พัฒนาไปบางส่วนแล้ว ซึ่งต้องหารือร่วมกันหลายฝ่ายถึงแนวทางและความเป็นไปได้ ร่วมกันในการผลักดัน ระหว่างทำวิถีการแกะสลักไม้ให้สร้างรายได้หลักเพิ่มขึ้นดีกว่าเดิม หรือการพัฒนาในด้านการท่องเที่ยวอื่นๆ ล่าสุดมีสมาคมท่องเที่ยวโดยชุมชนกำลังจะหารือ แนวทางการจัดเส้นทางท่องเที่ยวโดยชุมชนในวันที่ 4ตุลาคม 2562 เพื่อหาแนวทางและแนวร่วมที่ชัดเจน

 “เสน่ห์ของบ้านหลุกคืองานหัตถกรรม ซึ่งชาวบ้านก็ มีความถนัดไปทางอาชีพนี้เห็นหลัก หากจะให้ทำกิจกรรมท่องเที่ยว ที่ผ่านมามักเป็นโปรแกรมพิเศษ ที่มีการแจ้งล่วงหน้า มีการเตรียมพร้อมรับกลุ่มที่มาเที่ยวชมหมู่บ้าน ส่วนการเชื่อมโยงกับเส้นทางท่องเที่ยวอื่นๆในอำเภอแม่ทะ คิดว่าต้องร่วมมือกันจริงจังหลายฝ่าย การท่องเที่ยวเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาปละงบประมาณพัฒนาแบบค่อยเป็นค่อยไป” นายอำเภอแม่ทะ กล่าว 

จากข้อมูลข้างต้น หลายฝ่ายในอำเภอแม่ทะ ก็เห็นทางเดียวกันว่า การพัฒนาบ้านหลุกเป็นแหล่งท่องเที่ยว ควบคู่ไปกับหมู่บ้านหัตถกรรมนั้น ต้องหาแนวทาง ร่วมกันใหม่ เพราะสุดท้ายคนที่ลงมือทำ สร้างเสน่ห์ รายได้ และรักษาให้ยั่งยืน ก็คือคนในชุมชน บางทีนโยบายรัฐที่จัดสรรงบประมาณลงไปโดยไม่คำนึงถึงการใช้ประโยชน์ที่แท้จริงก็เหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ  เพราะการท่องเที่ยวจะยั่งยืนได้ต้องมีเสน่ห์ดึงดูดให้ผู้คนอยากไปสัมผัสวิถีชุมชนนั้นให้มากพอ

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1246 วันที่ 4 - 17 ตุลาคม 2562)
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์