วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

กระทงละเมิดลิขสิทธิ์ จุดเปลี่ยนมิจฉาชีพสีกากี

จำนวนผู้เข้าชม เว็บเคาน์เตอร์

ลันที่ตัวแทนลิขสิทธิ์ริลัคคุมะ ออกมายืนยันว่า เด็กหญิงวัย 15 ปี ชาวจังหวัดนครราชสีมา ไม่มีความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์ อีกทั้งบริษัทเวอร์รีเซ็ค ที่นายประจักษ์ โพธิ์ผล ผู้นำจับอ้างว่าเป็นตัวแทน ผู้รับมอบอำนาจของบริษัทแซนเอ็กซ์ บริษัทแม่ที่ประเทศญี่ปุ่น ก็ไม่ใช่ตัวแทนที่แท้จริง คำถามก็กระหึ่มดังขึ้นว่า นี่เกิดเหตุอันใดกันแน่

เมื่อมีความชัดเจนว่า เธอไม่มีความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์ ตำรวจก็เตรียมที่จะขอหมายศาล ออกหมายจับนายประจักษ์ โพธิ์ผล กับพวกที่ล่อซื้อกระทงจากเด็ก ซึ่งกลายเป็นคดีที่จะขยายผลไปยังกรณีอื่นๆ ที่พบว่ามีพฤติกรรมล่อซื้อเพื่อจับฐานละเมิดลิขสิทธิ์ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาอีกหลายราย

ในขณะเดียวกัน สภาทนายความจังหวัดนครราชสีมาแจ้งว่าได้ช่วยผู้เสียหายกว่า 40 ราย ที่ถูกล่อซื้อสินค้าลายการ์ตูนลิขสิทธิ์หลายรูปแบบ โดยได้รวบรวมหลักฐานเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อให้พนักงานสอบสวนนำหลักฐานทั้งหมดไปยื่นขอศาลออกหมายจับผู้ที่อยู่ในขบวนการล่อซื้อจับกมุสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ โดยเบื้องต้นคาดว่ามีผู้เกี่ยวข้องไม่ต่ำกว่า 3 ราย

ดูเหมือนว่าทุกคนจะพุ่งเป้าไปที่กลุ่มบุคคล ที่อ้างว่าเป็นตัวแทนเจ้าของลิขสิทธิ์ แต่ยังไม่มีใครพูดถึงมากนัก สำหรับตำรวจที่เป็นตัวการสำคัญ ที่ทำให้กลุ่มคนเหล่านี้กรรโชกทรัพย์เหยื่อเป็นผลสำเร็จ และน่าสงสัยว่าจะมีส่วนแบ่งในการใช้กฎหมายข่มขู่ผู้ถูกกล่าวหาหรือไม่

เป็นการใช้ตำแหน่งหน้าที่ราชการ ใช้กฎหมายลิขสิทธิ์ที่คนทั่วไปอาจไม่มีความรู้ มาเป็นเครื่องมือแสวงหาผลประโยชน์

กฎหมายลิขสิทธิ์ เป็นกฎหมายที่มีความผิดทางอาญา แต่เป็นความผิดอาญาที่ยอมความได้ แปลว่า หากคู่กรณีตกลงกันได้ไม่ว่าในชั้นพนักงานสอบสวน อัยการ และศาล คดีก็จบกันไป แต่ในความเป็นจริง คนที่ถูกกล่าวหาว่าละเมิดลิขสิทธิ์ มักจะถูกทนายความ ผู้รับมอบอำนาจจากเจ้าของลิขสิทธิ์หรืออ้างว่าเป็นผู้รับมอบอำนาจ เช่น กรณีกระทงเด็กอายุ 15 ปีที่จังหวัดนครราชสีมา ร่วมมือกับตำรวจตบทรัพย์จากผู้ถูกจับกุมอยู่เสมอ โดยสร้างสถานการณ์ให้เห็นว่า เรื่องละเมิดลิขสิทธิ์เป็นความผิดร้ายแรง ใหญ่โต

ลิขสิทธิ์เป็นเรื่องสำคัญ เราควรให้ความเคารพ และไม่ไปละเมิดความคิดสร้างสรรค์ของบุคคลอื่น ไม่ไปทำซ้ำ ดัดแปลง และเผยแพร่ต่อสาธารณชน โดยเฉพาะหากการกระทำนั้นเป็นไปเพื่อการค้า ต้องมีความรับผิดเพิ่มขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องรู้เท่าทัน มิจฉาชีพในคราบทนายความและตำรวจที่ทำมาหากินในเรื่องนี้มายาวนาน

หากมีบุคคลใดอ้างตัวว่าเป็นผู้รับมอบอำนาจ ให้มาจับกุมเราฐานละเมิดลิขสิทธิ์ นอกจากจะขอดูหลักฐานใบมอบอำนาจแล้ว ต้องเข้าใจว่าถ้าเราเป็นเพียงคนทั่วไป หรือผู้ค้ารายย่อย ปกติเจ้าของลิขสิทธิ์ในต่างประเทศ เขาไม่ได้มีนโยบาย หรือให้ความสำคัญกับรายเล็ก รายน้อยอยู่แล้ว

และเนื่องจากเป็นความผิดอาญา ที่ยอมความได้ อย่าด่วนยอมรับความผิด และจ่ายเงินเพื่อตัดปัญหาความยุ่งยาก แต่ต้องดูว่างานเราละเมิดลิขสิทธิ์หรือไม่ ถ้าไม่ได้ละเมิดลิขสิทธิ์ก็ให้การปฏิเสธไป เพื่อเป็นการปกป้องคนอื่นๆที่อาจเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพเหล่านี้ เพราะถ้าชัดเจนว่าไม่ได้ละเมิดลิขสิทธิ์ ตำรวจก็ไม่อาจทำสำนวนส่งอัยการได้

เรื่องลิขสิทธิ์เป็นช่องทางให้ทนายความ ผู้รับมอบอำนาจ และโดยเฉพาะตำรวจ รวมหัวกัน กรรโชกทรัพย์คนอื่นมานาน กรณีกระทงเด็กอายุ 15 ที่นครราชสีมา อาจเป็นจุดเริ่มต้นในการกวาดล้างคนพวกนี้ให้สิ้นซาก

Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์