วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

‘ธนาธร’ตายได้ แต่อนาคตใหม่ ไม่ตาย !

จำนวนผู้เข้าชม เว็บเคาน์เตอร์

ม่ต้องการคำอธิบายมากนัก สำหรับการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ให้นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พ้นจาก ส.ส.เพราะถือหุ้นนิตยสาร ท่องเที่ยว เดินทาง และ How to

มันจะต่างอะไร กับครั้งที่ศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสินให้นายสมัคร สุนทรเวช พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพราะไปจัดรายการทำกับข้าว “ชิมไปบ่นไป” และรายการ “ยกโขยงหกโมงเช้า” เพราะกฎหมายรัฐธรรมนูญ ห้ามนายกรัฐมนตรี มีตำแหน่งในห้างหุ้นส่วน บริษัท หรือองค์กรที่ดำเนินธุรกิจโดยมุ่งกำไร

ไม่ต้องสงสาร เห็นใจนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ฐานะการเงิน ความเป็นอยู่ อยู่ในระดับที่เขาอยู่เฉยๆไม่ต้องทำอะไร ก็มีกิน มีใช้ แม้กระทั่งตำแหน่ง ส.ส.3 เดือนของนายธนาธร ศาลก็ไม่จำเป็นต้องเรียกเงินเดือน และค่าตอบแทนอื่นคืน เพราะนายธนาธร ไม่เคยเบิกเงินสภาแม้แต่บาทเดียว

แต่ควรต้องสงสารประเทศไทย ที่คนใฝ่อำนาจ แต่ไร้ฝีมือ กลับได้รับการปกป้อง ยินดี ในขณะที่คนซึ่ง เสียสละ มุ่งมั่นตั้งใจทำงาน สร้างนักการเมืองคุณภาพ เปิดพื้นที่ให้ผู้คนที่หลากหลาย เข้าสู่การเมือง กลับถูกปิดกั้น ถูกบดขยี้ให้สิ้นซาก เรายังมิอาจหลุดพ้นจากยุค “กระเบื้องเฟื่องฟูลอย น้ำเต้าน้อยถอยจม” อีกหรือ

ไม่ว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และนายปิยบุตร แสงกนกกุล จะคิดอ่านสร้างพรรคอนาคตใหม่ ด้วยวัตถุประสงค์ใด แต่คุณภาพ ของ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ที่ทำงานการเมืองบนฐานข้อมูลที่มีน้ำหนัก ชัดเจน   มีบทบาทในการพูดจา อภิปราย อย่างมีเหตุผล มีจุดมุ่งหมายที่เห็นได้ว่าทำเพื่อประโยชน์สาธารณะ ก็ทำให้ภาพชัดขึ้นระหว่างนักการเมืองในอุดมคติ ที่เราอยากเห็น ไม่ใช่นักการเมืองด้อยคุณภาพ ที่เอาแต่ตีโวหาร ใช้สถานะทางการเมืองไปแสวงหาอำนาจและผลประโยชน์

และหากไม่มีพรรคอนาคตใหม่ เราคงไม่ได้เห็นคนเล็กคนน้อยในสังคมนี้ ชนกลุ่มน้อย กลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ กลุ่มสังคมอีกหลากหลาย ได้เข้ามาสู่การเมือง มีโอกาสพูด มีโอกาสสะท้อนปัญหาของเขาในซอกหลืบที่สังคมไทยไม่เคยเห็น ไม่เคยรู้มาก่อน

และเราก็คงไม่มีโอกาสเห็นคนรุ่นใหม่ ที่เป็นอนาคตของเรา มองการเมืองอย่างมีความหวัง ทุ่มโถมแรงกายและใจสนับสนุนพรรคการเมืองในอุดมคติของเขา จนกระทั่งพรรคอนาคตใหม่ได้คะแนนมหาชนเป็นอันดับสาม รองจากพรรคพลังประชารัฐ และพรรคเพื่อไทย ทั้งที่เป็นพรรคเกิดใหม่ และลงเลือกตั้งสมัยแรก

ไม่เพียงมิติทางการเมือง ที่ควรแยกแยะบทบาทของ “บุคคล” ออกจาก สถานะและการดำรงอยู่ของพรรคอนาคตใหม่ซึ่งได้รับความเชื่อถือ ศรัทธา มากเสียยิ่งกว่าพรรคการเมืองเก่าแก่หลายพรรค หากแต่บทบาทของสื่อมวลชน ก็ควรจะต้องเป็นผู้นำทางความคิดของสังคม ให้เห็นความจริงและอธิบายปรากฎการณ์ธนาธร อย่างแจ่มชัดด้วย

มากกว่าหน้าที่รายงานข่าว สื่อมวลชน โดยเฉพาะสื่อมวลชนที่มีประสบการณ์ มีความรู้ ความเข้าใจ ในเรื่องราวการเมือง รู้ถึงต้นกระแสธารที่นำมาสู่ข้อห้ามผู้สมัคร ส.ส.ถือหุ้นสื่อ ควรต้องอธิบาย ให้ความรู้กับสังคมหรือไม่ว่า ข้อห้ามในการถือหุ้นสื่อของ ส.ส.นั้น เขาเพียงไม่ต้องการให้สื่อนั้นเอารัดเอาเปรียบคู่แข่ง มีอิทธิพลครอบงำสังคม หาใช่การยึดเอาแบบพิธี กฎระเบียบ ข้อบังคับ ที่เหมือนม้าลำปางไม่

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่ได้สำคัญไปกว่า การเป็นนักการเมืองคนหนึ่งในสังคมไทย แต่อุดมการณ์ ความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะสร้างพรรค ที่จะเป็นความหวัง เป็นอนาคตของประเทศไทยอย่างแท้จริงสำคัญกว่า แน่นอนว่า ธนาธร ตายได้ แต่พรรคอนาคตใหม่ แนวความคิดแบบอนาคตใหม่จะต้องไม่ตาย

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1250 วันที่ 29 พฤศจิกายน - 12 ธันวาคม 2562)
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์