วันศุกร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2562

เรื่องเล่าคนข่าว ๔ ทศวรรษ ข้าฯจะไม่มีวันยอมแพ้ !

จำนวนผู้เข้าชม เว็บเคาน์เตอร์

ก้าวข้าม ๔๐ ปีบนเส้นทางคนข่าว จึงคิดถึงบางเรื่องราวของชีวิต ที่จะบอกเล่า “คนรุ่นหลัง” อย่างน้อยทำให้พวกเขา ได้เห็นภาพเปลี่ยนของคนทำงานข่าว ที่เริ่มต้นจากจุดอุดมการณ์ มาถึงยุคที่สื่อกลายเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ มาถึงยุค Disruption  ที่ทุกคนต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด

ชีวิตการเป็นนักข่าวของผม เริ่มต้นแบบก้าวกระโดด ที่ว่าก้าวกระโดด ก็คือผมไม่ได้เรียนจบมาทางด้านนิเทศศาสตร์ วารสารศาสตร์ แม้ภายหลังผ่านมาหลายสิบปีแล้ว จึงได้เรียนต่อด้านนิเทศศาสตร์ ในสาขาหนังสือพิมพ์  อีกก้าวกระโดดหนึ่งคือในวันที่เริ่มต้นทำข่าวนั้น ไม่เคยฝึกปรือ อบรม เรียนรู้เรื่องการทำข่าวมาก่อน

คนข่าวหลายคนที่มีชื่อเสียงในวันนี้ อาจเริ่มต้นจากการเป็นพนักงานพิสูจน์อักษร หรือเป็นผู้ช่วยนักข่าวมาก่อนแล้วค่อยๆเรียนรู้ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ทีละเล็กละน้อย จากลักษณะงานที่มีความใกล้เคียง เช่น คุณเทพชัย หย่อง อดีตบรรณาธิการเครือเนชั่น ที่เริ่มต้นด้วยการเป็นพนักงานพิสูจน์อักษร หนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น

แต่ผมเริ่มต้นการทำงานวันแรก ก็ทำข่าวเลย โดยไม่มีพื้นฐานการทำข่าว ไม่รู้จักวิธีการทำข่าว วิธีสัมภาษณ์ รู้อย่างเดียวในเวลานั้น คือต้องไปทำข่าวมาให้ได้หนึ่งชิ้น ไม่ว่าด้วยวิธีการใด เพราะนั่นจะเป็นตัวตัดสินว่า ผมจะได้งานหรือไม่

แหล่งข่าวคนแรกที่เจ้านาย ให้ไปสัมภาษณ์ชื่อคุณอร่าม โกฎิกุล ผู้จัดการสมาคมอุตสาหกรรมไทย ต่อมาเป็นผู้อำนวยการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ขณะนี้เสียชีวิตแล้ว สำนักงานสมาคมอุตสาหกรรมไทย ตั้งอยู่บริเวณสี่เสาเทเวศร์ ตรงข้ามหอสมุดแห่งชาติ ปัจจุบันเป็นสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ผมไม่รู้มาก่อนว่า หนังสือพิมพ์ที่ผมไปสมัครงาน เขาเขียนข่าวโจมตีคุณอร่าม โกฎิกูล และสมาคมอุตสาหกรรมมานานแล้ว และก็ยังไม่ได้แก้ไขถ้อยคำ หรือให้โอกาสคุณอร่าม ได้ชี้แจง ตามหลักการ การเสนอข่าวบนพื้นฐานข้อเท็จจริง อย่างครบถ้วน และรอบด้านเลย

ดังนั้น แหล่งข่าวคนแรกในชีวิต วันแรกของการทำงานของผม จึงมีความโกรธอัดแน่นอยู่ในอกอยู่แล้ว และพร้อมจะระเบิดกับทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการเสนอข่าวทำให้คุณอร่าม และสมาคมอุตสาหกรรมไทยเสียหาย สำคัญที่สุด ก็คือคุณอร่ามไม่มีทางรู้ว่า นักข่าวที่บุกไปสัมภาษณ์คุณอร่ามถึงที่ทำการสมาคมวันนั้น ไม่รู้แม้แต่จะตั้งคำถามกับแหล่งข่าวอย่างไร และนั่นคือการทำงานข่าวครั้งแรกในชีวิตของเขา

จึงไม่ผิดคาดว่า ผมจะต้องเผชิญชะตากรรมอย่างไร ในวันแรกของชีวิตการทำข่าว ซึ่งถ้าถอดใจเสียแต่วันนั้น ก็คงไม่มีผมในวันนี้ เพราะทันทีที่คุณอร่าม เปิดประตูห้องทำงานมาเจอผม เขาก็ตะโกนใส่หน้าผมด้วยน้ำเสียงและสีหน้าเกรี้ยวกราดว่า

 “กลับไป ผมไม่คุยกับคุณ !

ผมเดินคอตกกลับสำนักงาน ด้วยความผิดหวัง ท้อแท้ เพราะการกลับไปมือเปล่า ไม่มีข่าว ก็แปลว่าผมคงไม่ได้งาน แม้ในใจหนึ่งยังฮึดสู้ คิดว่าไม่ควรจะยอมแพ้ง่ายๆ หนทางข้างหน้าวันนั้น มืดมนอย่างยิ่ง แต่คำว่า ไม่แพ้ ไม่แพ้ ยังดังก้องอยู่ในใจ และมันเป็นพลังผลักดันให้ผมยังคงลุกขึ้นสู้ต่อไป



Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์