วันอังคารที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2562

ปริศนาภายใต้สีเขียวมรกต…หล่มภูเขียว

จำนวนผู้เข้าชม เว็บเคาน์เตอร์

จักรวาลที่กว้างใหญ่เก็บงำไว้ซึ่งสิ่งมหัศจรรย์นานัปการ รวมถึงดาวเคราะห์ดวงหนึ่งที่มีสิ่งมีชีวิตมากมายถือกำเนิดเติบโตขึ้นทุกวินาที ทุกสิ่งทุกอย่างหมุนเวียนเปลี่ยนไปตามวัฏจักร บางอย่างสูญหาย บางอย่างถูกค้นพบ สิ่งลี้ลับที่ยากจะค้นหา อาจถูกพบเจอแบบไม่คาดฝัน ตามแต่เวลาที่ดาวเคราะห์ที่ชื่อว่า “โลก” ดวงนี้จะอนุญาต

กล่าวถึงเขตอุทยานถ้ำผาไท หมู่ 6 ตำบลบ้านอ้อน อำเภองาว จังหวัดลำปาง เล่ากันว่าในวันหนึ่งขณะที่ชาวบ้านไปเดินป่าก็บังเอิญพบกับแหล่งน้ำแห่งหนึ่งที่มีน้ำสีเขียวมรกตขนาดใหญ่ โอบล้อมไว้ด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ กินเนื้อที่ราว 1-2 ไร่ แต่ความลึกนั้นไม่อาจจะคาดเดาได้ สันนิษฐานว่าแหล่งน้ำแห่งนี้เกิดจากการยุบตัวของเปลือกโลกสมัยดึกดำบรรพ์ หรืออาจเกิดจากการยุบตัวของหินปูนซึ่งเคยเป็นเพดานถ้ำมาก่อน แล้วจมลงใต้น้ำ จึงเรียกชื่อสถานทีนี้ว่า “หล่มภูเขียว”


*ปริศนาภายใต้ความงดงาม
ชาวบ้านเชื่อว่าสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ มีเจ้าพ่อหล่มภูเขียวสถิตอยู่ และเป็นที่อาศัยของพญางูใหญ่ ทุกๆ ปีจะมีการทำพิธีบูชาน้ำเพื่อแสดงความเคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณหล่มภูเขียว เพื่อคงความอุดมสมบูรณ์แก่สถานที่แห่งนี้ ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าว่า ในปีหนึ่งขณะที่ชาวบ้านนำขันข้าวตอกดอกไม้ธูปเทียนมาบูชา โดยนำเครื่องบูชาวางบนขอนไม้และลอยไปกลางลำน้ำของหล่มภูเขียว ก็ได้เกิดปรากฏการณ์มหัศจรรย์ขึ้น คือ ขอนไม้จมลงไปใต้น้ำแล้วลอยขึ้นโดยที่เทียนยังไม่ดับ จึงทำให้ชาวบ้านเกิดความศรัทธาเชื่อว่าสถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ โดยมีการนำน้ำจากหล่มภูเขียวมาใช้ดื่มกิน บ้างก็เอาน้ำมาลูบแข้งลูบขาแล้วอธิษฐานขอให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บ ด้วยความมหัศจรรย์ที่ประจักษ์ต่อสายตาผู้คน เมื่อมีพิธีทางพุทธศาสนาจึงมีการนำน้ำจากแหล่งน้ำแห่งนี้ไปเป็นน้ำพุทธมนตร์ และสรงน้ำพระธาตุมาตั้งแต่โบราณกาล ดังนั้นจึงมีการห้ามไม่ให้ใครลงไปอาบหรือนำเท้าจุ่มลงไปในน้ำแห่งนี้โดยเด็ดขาด นอกจากนี้ยังไม่อนุญาตให้มีการให้อาหารปลาด้วย 


ภายใต้แผ่นน้ำสงบลึกสีเขียวมรกตสะกดสายตา ยังมีสิ่งมหัศจรรย์น่าค้นหามากมายที่ยังไม่มีใครสามารถไขความลับได้ แหล่งน้ำสีเขียวมรกตที่มีน้ำใสราวกระจกแก้ว สามารถมองเห็นตัวปลาขนาดเล็กใหญ่แหวกว่ายไปมาอย่างอิสระ สีของน้ำจะเปลี่ยนไปตามเวลาที่โลกหมุนรอบตัวเอง โดยช่วงเช้าจะปรากฏเป็นสีเขียวมรกต และเปลี่ยนเป็นสีฟ้าครามในช่วงเที่ยงวัน และเนื่องจากโดยรอบมีต้นไม้ใหญ่ ทุกวันจะมีใบไม้หล่นลงไปในน้ำเต็มไปหมด แต่พอรุ่งเช้ามาใบไม้กลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่มีใครตอบได้ว่าใบไม้เหล่านั้นหายไปไหน แต่เชื่อว่าไม่ได้จมลงไปใต้น้ำเป็นแน่ เพราะหล่มภูเขียวแห่งนี้มีอายุราวพันปี หากมีใบไม้จมลงไปทับถมอยู่ใต้น้ำ น้ำคงเน่าเสียไปแล้ว จะเห็นว่าในน่านน้ำหล่มภูเขียวมีปลาอาศัยอยู่มากมาย ทั้งนี้เป็นเพราะว่าไม่มีใครกล้าจับปลาในสถานที่แห่งนี้ เนื่องจากชาวบ้านเล่ากันว่าในอดีตเคยมีคนจับปลาในหล่มภูเขียวมากิน ก็ทำให้เกิดอันเป็นไปต่อคนเหล่านั้น นอกจากนี้ชาวบ้านยังเชื่อว่าหากใครที่ถ่ายรูปหล่มภูเขียวแห่งนี้แล้ว เวลากลับหัวภาพที่ถ่ายไว้ดูแล้วเห็นรูปพญานาคหรือพระพุทธรูปถือว่าคนที่มีบุญบารมี



ชาวบ้านยังเชื่ออีกว่า ในอดีตที่แห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งสำนักวิปัสสนาหล่มภูเขียว เดิมบ่อน้ำที่หล่มภูเขียวแห่งนี้มีจอกแหนเต็มไปหมด แต่มีสามเณรตั้งจิตอธิฐาน หลังจากนั้นจอกแหนก็ไม่มีปรากฏในบ่อน้ำแห่งนี้ให้เห็นอีกเลย

สิ่งเหล่านี้อาจจะเป็นสิ่งหนึ่งที่พิสูจน์ว่าบางสิ่งบางอย่างหลักวิทยาศาสตร์ก็ไม่อาจพิสูจน์ได้ ความลับจะยังคงเป็นความลับตลอดไป

*เทศกาลท่องเที่ยวรับลมหนาวที่หล่มภูเขียว
ในวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมาก็ได้มีการจัดงาน “เทศกาลท่องเที่ยวรับลมหนาวที่หล่มภูเขียว ” โดยมีนายสิทธิชัย จินดาหลวง รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางเป็นประธานเปิดพิธี ซึ่งภายในงานก็จะมีพิธีกรรมบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกปักษ์รักษาหล่มภูเขียว เพื่อความเป็นศิริมงคล และคงรักษาไว้ซึ่งความอุดมสมบูรณ์ของสถานที่แห่งนี้ นอกจากนี้ยังมีการแสดงของชาวบ้านอ้อนและหมู่บ้านใกล้เคียง มีการขายสินค้า O-TOP ของชุมชน และเครื่องดื่มที่ลดการใช้พลาสติกอีกด้วย ในการนี้ก็มีนักท่องท่องเที่ยวมาเที่ยวชมอย่างคับคั่ง


ด้วยเรื่องเล่าอันลี้ลับ ด้วยเรื่องราวสุดประทับใจที่ถูกถ่ายทอดสู่โลกโซเชียลและมีการเผยแพร่ไปอย่างรวดเร็วเรื่องแล้วเรื่องเล่า จึงทำให้ผู้คนมากมายถูกพัดมามายังสถานที่แห่งนี้ด้วยหลงเสน่ห์มนตร์ขลังของแผ่นน้ำสีเขียวมรกต และก็มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่เดินทางมาตามหารักแท้ที่ “ต้นงุ้น” (ต้นไม้โบราณที่เชื่อว่าคนดวงสมพงษ์กันจะมาพบกันที่แห่งนี้) บ้างมาเพื่อพักผ่อน บ้างมาเพื่อกระชับความอบอุ่นในครอบครัวช่วงฤดูหนาว หลายคนลงทุนมาค้างคืนเพียงเพื่อได้ชมหล่มภูเขียวในช่วงเวลาเช้าตรู่ และก็มีหลายต่อหลายคนมาเพื่อพิสูจน์ความลี้ลับ แต่ไม่ว่าใครจะมาเที่ยวชมสถานที่แห่งนี้ด้วยเพราะเหตุผลอะไร ก็เป็นที่น่ายินดีทั้งสิ้น เพราะทุกครั้งที่มีการพบเจอมักจะมีเรื่องราวดีๆ เกิดขึ้นเสมอ ทั้งมิตรภาพ ประสบการณ์ และความทรงจำที่หาซื้อจากที่ไหนไม่ได้ และนอกจากนี้ยังเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศไทย ช่วยลดการตัดไม้ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ เนื่องจากประชาชนในพื้นที่มีรายได้จากนักท่องเที่ยว หล่มภูเขียวแห่งนี้สามารถมาเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี แต่ช่วงที่น้ำจะใสเป็นพิเศษนั้นคือช่วงตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงเดือนเมษายน


“สถานทีท่องเที่ยวไทยเป็นของคนไทย อยากให้คนไทยเอาหัวใจโอบกอดกันไว้ในทุกๆ ที่ รวมทั้งที่หล่มภูเขียวแห่งนี้ด้วย อากาศหนาวๆ โอบกอดกันด้วยรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ คงอบอุ่นอยู่ในความทรงจำไม่เสื่อมคลาย”

เกษณี ตั๋นตุ้ย นักศึกษาฝึกงาน สาขาวิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง

Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์