
กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์
ให้การสนับสนุนสถาบันอาร์แอลจี (รักลูก เลิร์นนิ่ง กรุ๊ป)
จัดทำ “โครงการผลิตสื่อเพื่อส่งเสริมความเข้าใจถึงแนวทางการปฏิรูปการศึกษาในการพัฒนาเด็กและเยาวชน
ด้วยพลังชุมชน” เพื่อสื่อสารกับสังคมให้เข้าใจว่าการพัฒนาเด็กปฐมวัยนั้นมีความสำคัญ
ด้วยเป็นการวางรากฐานแก่บุคคลในการเข้าสู่ระบบการศึกษาได้อย่างมีคุณภาพ
หวังจุดประกายให้สังคมเกิดค่านิยมใหม่ในการพัฒนาเด็กปฐมวัยที่เหมาะสม
สอดคล้องกับธรรมชาติสมอง และพัฒนาการเด็กตามช่วงวัย
นางสุภาวดี
หาญเมธี ประธานสถาบันอาร์แอลจี (รักลูก เลิร์นนิ่ง กรุ๊ป) กล่าวว่า
จากความร่วมมือระหว่างสถาบันอาร์แอลจี และภาคีเครือข่าย Thailand EF
Partnership ด้านวิชาการ
ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขาวิชาการที่เกี่ยวข้อง อาทิ
ด้านประสาทวิทยาศาสตร์ ด้านการศึกษาปฐมวัย จิตแพทย์เด็ก และหน่วยงานด้านสาธารณสุข
ได้ร่วมกันจัดการความรู้เรื่องการพัฒนาทักษะสมองส่วนหน้า Executive
Functions หรือ EF ซึ่งเป็นความรู้ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในต่างประเทศ
มาพัฒนาให้สอดคล้องกับบริบทสังคมไทย
และนำไปเผยแพร่ส่งเสริมให้มีการขับเคลื่อนความรู้ EF ในกลุ่มแกนนำระดับท้องถิ่น
จนเกิดเป็นพื้นที่ส่งเสริม EF ต้นแบบ และพื้นที่ขยายผล EF
ซึ่งได้นำองค์ความรู้นี้ไปบูรณาการในแผนการพัฒนาเด็กปฐมวัยในท้องถิ่นของตนอย่างต่อเนื่องตลอด
2 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้การประเมินวัดค่าทักษะสมอง EF ของเด็กปฐมวัยในแต่ละพื้นที่สูงขึ้น พบว่าพัฒนาการและพฤติกรรมของเด็กปฐมวัยทั้งที่บ้านและที่โรงเรียนดีขึ้น
เด็กๆ มีความสุขมากขึ้น มีทักษะความพร้อมในการเรียนรู้ตามวัยมากขึ้น
ซึ่งมีปัจจัยความสำเร็จมาจากการที่ครู พ่อแม่ผู้ปกครอง
และโดยเฉพาะผู้บริหารหน่วยงานต่างๆ ในระดับท้องถิ่น
ตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาทักษะสมองส่วนหน้าตั้งแต่ปฐมวัย
และร่วมกันนำแนวทางการส่งเสริมทักษะสมอง EF ไปใช้ในการพัฒนาเด็กในชุมชนของต้นอย่างจริงจัง
เมื่อกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ได้รับทราบถึงเรื่องดีๆ
ที่เกิดขึ้นนี้ จึงได้สนับสนุนให้สถาบันอาร์แอลจี ผลิตสื่อสารคดีสั้น
และวิดีโอคลิป รวม 21 เรื่อง ถือเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้รณรงค์ให้สังคมทราบถึง Best
practices จากพื้นที่ส่งเสริม EF 3 แห่งที่เราได้ร่วมกันขับเคลื่อนความรู้
EF ได้แก่ พื้นที่ส่งเสริม EF ต้นแบบอำเภอพญาเม็งราย
จังหวัดเชียงรายโดยเครือข่ายบริการสุขภาพอำเภอพญาเม็งราย มีแพทย์หญิงอัมพวัน ศรีครุฑรานันท์
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพญาเม็งรายเป็นแกนนำ พื้นที่ต้นแบบอำเภอมาบตาพุด
และอำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยองภายใต้การขับเคลื่อนโครงการเพื่อสังคมของภาคเอกชน
ดาว-อีเอฟ โดยกลุ่มบริษัทดาว ประเทศไทย และพื้นที่ขยายผล EF
จังหวัดลำปางโดยเครือข่ายครอบครัวเข้มแข็งจังหวัดลำปาง
นางสุภาวดีกล่าวเพิ่มเติมว่า
การวางรากฐานการปฏิรูปการศึกษา ที่จำเป็นต้องเริ่มที่การพัฒนาเด็กปฐมวัย
เพราะเป็นช่วงเวลาที่เด็ก “อยู่ในมือของชุมชน” ดังนั้นชุมชนคือสภาพแวดล้อมสำคัญที่จะทำหน้าที่ดูแล พัฒนา บ่มเพาะ
ปลูกฝังคุณลักษณะอันพึงประสงค์ทั้งปวงแก่เด็กปฐมวัย
และเด็กปฐมวัยที่ได้รับการพัฒนาอย่างสอดคล้องกับธรรมชาติของสมอง
จะมีคุณลักษณะพร้อมเป็น “พลเมืองคุณภาพ” ของชาติได้ในอนาคต
เราจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสังคมจะเข้าใจถึงบทบาทหน้าที่ของชุมชนในการมีส่วนร่วมพัฒนาเด็กปฐมวัย
รวมถึงเราอยากผลักดันให้ผู้นำ ผู้กำหนดนโยบายทั้งระดับชาติและท้องถิ่น
ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชน
และตระหนักว่าการพัฒนาเด็กปฐมวัยที่ดี คือการวางรากฐานการศึกษาที่เข้มแข็งของชีวิต

ในขณะที่
อาจารย์ธิดา พิทักษ์สินสุข ผู้เชี่ยวชาญการศึกษาปฐมวัย
และอดีตอนุกรรมการเด็กเล็ก ในคณะกรรมการอิสระด้านการศึกษาฯ
ผู้มีบทบาทในการผลักดันพระราชบัญญัติการพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ ปี 2562
แสดงความเห็นว่า ปัจจุบันประเทศไทยเผชิญภาวะวิกฤตหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาจำนวนเด็กเกิดน้อยลง
การก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบ ความผันผวนของสังคมและเศรษฐกิจ
อันเนื่องมาจากภาวะ Digital Disruption เราจำเป็นที่จะต้องพัฒนาเด็กไทยของเราทุกคนให้เป็นพลเมืองคุณภาพ
เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนประเทศไทยไปได้
ถึงแม้จะดูคล้ายกับว่าเรามีปัญหารุมเร้าหลายด้าน
แต่เมื่อพิจารณาถึงปัจจัยบวก
เราก็พบว่าขณะนี้ประเทศไทยก็มีแรงหนุนจากปัจจัยบวกหลายด้านเช่นกัน เช่น
พระราชบัญญัติการพัฒนาเด็กปฐมวัย ปี 2562 ก็ออกมาแล้ว
นโยบายด้านการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการก็ได้บรรจุเรื่องการพัฒนาทักษะสมองไว้แล้ว ความรู้เรื่องการพัฒนาทักษะสมอง
EF ก็มีแล้ว
ทั้งยังมีความพยายามในการปลดล็อคข้อจำกัดทางด้านการศึกษาต่างๆ
เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของท้องถิ่นชุมชนในการจัดการศึกษาด้วยตัวเอง
ทั้งหมดนี้ก็เพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยเราสามารถพัฒนาคุณภาพการศึกษาและพัฒนาเด็กไทยสู่ศตวรรษที่
21 ได้ ฉะนั้นพลังชุมชน
จึงเป็นกลไกหลักสำคัญในการนำนโยบายเหล่านี้ไปใช้ในทางปฏิบัติ
ให้เกิดผลสัมฤทธิ์ในการพัฒนาเด็กปฐมวัยได้อย่างเป็นรูปธรรม
ดังนั้นรูปธรรมที่ควรเกิดขึ้นจะเป็นอย่างไร
ก็อยากให้ชมจากสารคดีสั้นและวิดีโอคลิปทั้ง 21 เรื่องนี้
ซึ่งจะได้เห็นตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการพัฒนาเด็กปฐมวัย
จากชุมชนทั้ง 3 แห่งเป็นผู้ถ่ายทอดด้วยตัวของเขาเอง
เมื่อชุมชนมองว่าเด็กทุกคนคือลูกหลานของเขา โดยไม่แบ่งแยก มันคือพลังของชุมชนเอง
ที่จะสร้างการเรียนรู้ให้กับสังคมได้ตระหนักถึงบทบาทหน้าที่ความเป็นพลเมืองของชาติ
และถ่ายทอดสิ่งดีงามเหล่านี้สู่ลูกหลานของเราต่อไป อาจารย์ธิดากล่าวปิดท้าย
ติดตามข่าวสารได้ที่
ชมตัวอย่างสารคดี
“บ่อน้ำบ่อทราย : พลังครู พลังพ่อแม่ พลังชุมชน พลังจิตอาสา
องค์ประกอบหลักสำคัญของการปฏิรูปการศึกษา” ได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=cshS9LXAplI&list=PL2kRXcspV23B_dqHMljUmjMajUunaqjDh&index=2
รับชม
สารคดีสั้นและวิดีโอคลิป ชุด “สมองเด็กไทย สร้างได้ด้วยพลังชุมชน”
ทั้งหมด ได้ที่ https://www.youtube.com/channel/UCpRPMd0mFyZu0zn14qU1yyg
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น